fbpx
Home
|
เศรษฐกิจ

หอการค้ามองมาตรการรัฐกระตุ้นศก.รับมือโอไมครอนได้

Featured Image
ปธ.หอการค้า เผย มาตรการรัฐช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ เชื่อรับมือโอไมครอนได้ ยกเลิก Test & Go ไม่กระทบการท่องเที่ยว

 

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยภายหลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้มีการอนุมัติของขวัญปีใหม่ 2565 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ 6 มาตรการ ประกอบด้วย

 

  • มาตรการเพิ่มกำลังซื้อภาคประชาชน
  • มาตรการลดภาระผู้ประกอบการและประชาชน
  • มาตรการขยายการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิต น้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบิน
  • มาตรการขยายระยะเวลาการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัย
  • มาตรการทางภาษีและค่าธรรมเนียม เพื่อสนับสนุนการปรับโครงสร้างหนี้ ที่เป็นสถาบันการเงิน

 

และโครงการของขวัญปีใหม่ ปี 2565 ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ เพื่อเสริมสภาพคล่อง ลดภาระค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย และเสริมสร้างวินัยทางการเงินให้แก่ประชาชนและผู้ประกอบการ โดยเฉพาะมาตรการช้อปดีมีคืนที่สามารถหักลดหย่อนค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการเท่าที่ได้จ่าย แต่ไม่เกิน 30,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 ถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 หอการค้าไทยขอบคุณรัฐบาลที่ได้ตอบรับข้อเสนอภาคเอกชนตามที่เคยนำเสนอไว้ ซึ่งจะช่วยเสริมการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปี 2565 อย่างคึกคักแน่นอน

 

ทั้งนี้ โครงการคนละครึ่ง เฟส 4 ที่คาดว่าจะเริ่มในเดือนมีนาคม ถึง เมษายน 2565 ตามข้อเสนอของหอการค้าไทย จะมีส่วนช่วยกระตุ้นและพยุงการใช้จ่ายในช่วงต้นปี 2565 ซึ่งหลังจากนี้คิดว่ารัฐบาลน่าจะมีมาตรการใหม่ ๆ ออกมาเพิ่มเติม เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศเป็นหลัก อันเนื่องมาจากความไม่แน่นอนของการแพร่ระบาดสายพันธุ์โอไมครอน

 

สำหรับการที่ ศบค.สั่งยกเลิก Test & Go ชั่วคราวถึง 4 ม.ค.2565 สกัดโควิดโอไมครอนเข้าประเทศหลังจากพบผู้ที่เดินทางเข้ามาติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นนั้น หอการค้าไทยเห็นว่าในช่วงที่ผ่านมาประเทศไทยสามารถบรรลุเป้าหมายในระยะแรกที่สามารถฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้เกินว่า 100 ล้านโดส หรือ ร้อยละ 70 ของประชากร

 

ทำให้เกิดภูมิคุ้มกันที่เพิ่มมากขึ้น และจะเห็นได้ว่าอัตราการติดเชื้อในประเทศลดลงอย่างต่อเนื่อง สวนทางกับต่างประเทศที่มีอัตราติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น ประกอบการที่รัฐบาลเตรียมวัคซีนเพื่อ Boost เข็ม 3 เพิ่มเติมอีกในปีหน้า จะช่วยเสริมความมั่นใจให้กับประชาชนทั้งในและต่างประเทศได้ด้วย

 

ดังนั้น หอการค้าไทยจึงเห็นด้วยกับการยกเลิกมาตรการดังกล่าวชั่วคราว แม้ว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะกระทบต่อเศรษฐกิจบ้าง แต่เชื่อว่าจากข้อมูลทางสาธารณสุขของภาครัฐที่มีอยู่ตอนนี้ ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ชัดเจนตั้งแต่ต้นทาง เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดการแพร่ระบาดในวงกว้างอีกครั้งจนควบคุมไม่ได้ และเชื่อว่ารัฐบาลจะไม่มีการล็อกดาวน์เหมือนที่เคยเกิดขึ้นเพราะเห็นได้ชัดแล้วว่าสร้างความเสียหายกับประเทศมหาศาล โดยประเมินจากช่วงกลางปีที่มีการล็อกดาวน์ว่าจะเสียหายราว 2-3 แสน ล้านบาทต่อเดือน

 

ด้านการท่องเที่ยว ขณะนี้มีการอนุมัติคนเข้าประเทศประมาณ 1.1 แสนคน ผ่านช่องทางแซนบ็อกซ์และ Test & Go จากที่มีการขออนุมัติเข้าประเทศไว้แล้วทั้งหมด 2 แสนคน จึงเหลือคนที่จะเข้ามาอีก 9 หมื่นคน ในส่วนนี้จึงมีความจำเป็นที่ต้องดูแลติดตามก่อนปิดลงทะเบียน และคิดว่าจะไม่กระทบต่อการท่องเที่ยวของประเทศ เพราะที่ผ่านมาจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติก็ไม่ได้มีจำนวนมากนัก ส่วนปี 2565 ประเมินสถานการณ์ว่า ไตรมาสที่1 อาจมีนักท่องเที่ยวต่างชาติค่อยๆ ทยอยเข้าประเทศ และหากสถานการณ์โอไมครอนคลี่คลายลงจะเริ่มเห็นนักท่องเที่ยวมากขึ้นตั้งแต่ ไตรมาส2 เป็นต้นไป โดยคงคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวไว้ที่ 5 – 6 ล้านคน

 

ส่วนการจัดกิจกรรมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ รัฐบาลก็ยังคงอนุญาตให้สามารถดำเนินการได้ โดยหอการค้าไทยขอให้ทุกภาคส่วนปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด และคงไม่ใช่หน้าที่ของภาครัฐเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ภาคเอกชนและประชาชนจะต้องร่วมมือกันอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาที่กระทบต่อความเชื่อมั่น จนนำไปสู่การยกเลิกการจัดกิจกรรมฉลองปีใหม่เหมือนที่หลายประเทศได้มีมาตรการออกมาแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาบรรยากาศของประเทศเริ่มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงขอให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกันเพื่อให้กิจกรรมปีใหม่นี้เป็นไปได้อย่างราบรื่น

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebookhttps://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitterhttps://twitter.com/innnews

Youtubehttps://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTokhttps://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account@innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube