fbpx
Home
|
เศรษฐกิจ

YLG เผยปี64ทองไทยพุ่ง6%สวนทางตลาดโลก

Featured Image
YLG เผยภาพรวมปี 64 ทองคำโลกลดลง 5% แต่ทองไทยพุ่ง 6% เดือนสุดท้ายของปีมีโอกาสดีดตัวขึ้นอีก ต้องจับตาประชุมเฟด 14-15 ธ.ค.นี้

 

นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หรือ YLG เปิดเผยว่า ภาพรวมตลอดทั้งปี 2564 ที่ผ่านมา พบว่า เป็นอีกหนึ่งปีที่เกิดการเปลี่ยนแปลงกับตลาดทองคำในประเทศไทย 2 ด้านหลัก ประกอบด้วย ราคาทองคำในประเทศที่เปลี่ยนแปลงสวนทางกับราคาทองคำในตลาดโลก และพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันไปสู่การซื้อทองคำแบบออนไลน์มากขึ้น

 

โดยในรอบปีที่ผ่านมาพบว่าราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวลดลงประมาณร้อยละ 5 แต่ราคาทองคำในประเทศกลับปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 6 ซึ่งเป็นผลมาจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง

 

อย่างไรก็ดีราคาทองคำในปี 2564 ทั้งปียังถือว่าเป็นอีกหนึ่งปีที่ได้รับอานิสงส์จากการระบาดของโควิด -19 ที่ทำให้นักลงทุนหันไปหาทองคำในสินทรัพย์ปลอดภัย โดยเฉพาะในรูปแบบออนไลน์ที่ได้รับความนิยมมากขึ้น และคาดว่าแม้ในอนาคตหากสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น แต่นักลงทุนจะยังนิยมการลงทุนในออนไลน์ต่อไปเพราะเริ่มคุ้นเคย และมีความสะดวก

 

โดยในปีหน้าแม้จะมีปัจจัยลบเข้ามาต่อตลาดทองคำ เช่น การลดวงเงินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณของสหรัฐ หรือ QE แต่มองว่าการลด QE ช่วงนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อทองคำมากนักเพราะสถานการณ์เงินเฟ้อปัจจุบันอยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วง ส่วนกรณีที่มีสินทรัพย์ดิจิทัลเข้ามาเป็นทางเลือกของนักลงทุนในปัจจุบันซึ่งอาจจะกระทบการลงทุนในทองคำนั้น มองว่าไม่ใช่ปัจจัยที่น่ากังวล เพราะโดยปกตินักลงทุนจะกระจายความเสี่ยงการลงทุนไปในสินทรัพย์ต่างๆ เช่น พันธบัตร อัตราแลกเปลี่ยน และหุ้น อยู่แล้ว การที่มีสินทรัพย์ดิจิทัลเข้ามาก็ถือเป็นการเพิ่มทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจ แต่ทุกครั้งที่นักลงทุนต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยก็จะกลับมาลงทุนในทองคำ

 

ทั้งนี้ YLG ยังคงคำแนะนำนักลงทุนแบ่งสัดส่วนการลงทุน โดยการมีทองคำในพอร์ต ร้อยละ 5-15 เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยง อย่างไรก็ดีปัจจุบันการลงทุนในทองคำสามารถทำได้ง่าย ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะผู้ที่มีเงินทุนสูง แต่นักลงทุนรายย่อยหรือผู้ที่เริ่มลงทุนก็สามารถเข้าถึงการลงทุนในทองคำได้ โดยการลงทุนในรูปแบบของการออมทอง ซึ่งสามารถเริ่มออมได้เพียงเงินลงทุน 100 บาท ด้วยขั้นตอนที่สะดวกผ่านสมาร์ตโฟนหรือดีไวซ์ต่างๆ โดยผู้ออมที่สะสมทองคำไปจนครบจำนวน 1 กรัมขึ้นไป สามารถเลือกได้ว่าจะไถ่ถอนนำทองคำกลับไป หรือถอนเป็นเงินสด หรือ จะออมต่อเนื่อง

 

ซึ่งขั้นตอนการสมัครง่ายๆ เพียงเปิดบัญชีออมทองที่ www.ylggoldsaving.com ใช้เอกสารเปิดบัญชีเพียง 3 อย่าง ประกอบด้วย บัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน และหน้าสมุดบัญชีเงินฝาก เมื่อสมัครเปิดบัญชีพร้อมแนบไฟล์เอกสารและถ่ายรูปคู่บัตรประชาชนเรียบร้อยแล้ว สามารถเริ่มต้นการออมทองได้ทันที โดยเลือกออมได้ 2 รูปแบบ ทั้ง การออมทอง แบบรายวัน เริ่มเพียง 100 บาท สามารถกดออมในระบบด้วยตนเอง ตามวัน เวลา ที่สะดวก โดยไม่จำเป็นต้องออมทองทุกวัน สามารถเพิ่มยอดการออม และจำนวนครั้งในการออมต่อวันได้เช่นกัน

 

ส่วนรูปแบบที่ 2 คือ การออมทอง แบบรายเดือน เริ่มต้น 1,000 บาทต่อเดือน ในรูปแบบของการหักผ่านบัญชีอัตโนมัติ ซึ่งสามารถกำหนดวันตัดรอบบิลได้ด้วยตนเอง และยังสามารถกดออมทองรายวันเพิ่มได้เช่นกัน นอกจากนั้น การถอนเงินจากระบบออมทอง จะไม่เสียค่าธรรมเนียมใดๆในการทำธุรกรรมเมื่อถอนเงินขั้นต่ำ 3,000 บาท ขึ้นไป

 

นอกจากนี้ YLG ยังมองราคาทองคำในช่วงที่ผ่านมาอยู่ในช่วงการปรับฐาน แต่หลังจากราคาปรับตัวลดลงมาสักระยะหนึ่งแล้ว ทำให้ในช่วงเดือนสุดท้ายของปี คาดว่าราคาทองคำจะมีโอกาสดีดตัวขึ้นเป็นระยะ โดยให้กรอบภาพใหญ่ไว้ที่ 1,877 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ 30,200 บาท ระยะสั้นมองที่แนวต้าน 1,803-1,833 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ 29,100-29,300 บาท แนวรับที่ 1,751-1,707 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือ 28,150-27,450 บาท อย่างไรก็ดี มีปัจจัยเสี่ยงที่นักลงทุนต้องใช้ความระมัดระวังในการลงทุน คือ การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ในช่วงวันที่ 14-15 ธันวาคมนี้

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube