fbpx
Home
|
อาชญากรรม

ดีเจภูมิ พา 2 ผู้เสียหายถูกหลอกขายนาฬิกาสูญเงินกว่า 3 ล้าน

Featured Image
ดีเจภูมิ พา 2 ผู้เสียหายถูกหลอกขายนาฬิกาสูญเงินกว่า 3 ล้าน ร้องตำรวจไซเบอร์ ชี้ เหมือนทำกันเป็นขบวนการ

 

 

 

 

 

วันนี้ (17 พ.ย. 66) นายภาคภูมิ ตั้งสง่า หรือดีเจภูมิ Youtuber ชื่อดัง พา น.ส.เพ็ญพร วงศ์นพรัตน์เลิศ หุ้นส่วนบริษัทรองเท้าของดีเจภูมิ และนายวรินทร มิชาส์ ซึ่งทั้ง 2 เป็นผู้เสียหายถูกหลอกขายนาฬิกาหรู สูญเสียเงินมูลค่าไปรวมทั้งสิ้น 3 ล้านบาท เข้าร้องขอความช่วยเหลือกับ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1

 

 

 

 

 

 

ดีเจภูมิระบุว่า เนื่องจาก น.ส.เพ็ญพร ซึ่งเป็นหุ้นส่วนของบริษัท ต้องการจะลงทุนซื้อนาฬิกาหรูรุ่นเดียวกับที่ตนใส่ ซึ่งนาฬิการุ่นนี้ปกติแล้วราคาอยู่ที่ประมาณ 2 ล้านกว่าบาท แต่ปรากฏว่ามีเพื่อนของตน ส่งมาว่ามีเพจหนึ่งขายนาฬิการุ่นเดียวกันในราคาล้านกว่าบาท ชื่อเพจ Aaron Rolex Daytona Loki 2019 ซึ่งตอนนี้เพจดังกล่าวปิดหนีไปแล้ว ตนเห็นว่าราคาดี จึงส่งเพจนี้ให้ น.ส.เพ็ญพรดู เพื่อนำไปติดต่อซื้อขายนาฬิกา แต่กลายเป็นว่า เป็นเพจหลอกขายนาฬิกาที่สร้างความเสียหายนับล้านกว่าบาท และยังมีนายวรินทรเป็นผู้เสียหายอีกราย จึงพากันเข้ามาแจ้งความให้ตำรวจไซเบอร์ดำเนินคดีในเรื่องนี้

 

 

 

ด้าน น.ส.เพ็ญพร กล่าวว่า เมื่อตนได้ติดต่อไปในเพจดังกล่าว ทางเพจได้แจ้งว่าให้แอด Line ตนก็ดำเนินการแอดไลน์ไป หลังจากนั้นทางฝั่งผู้ขาย ก็ได้โทร LINE มาหาตน ทำให้ตนเชื่อใจว่าน่าจะเป็นของจริง แต่เนื่องจากติดขัดทางด้านภาษา เพราะฝั่งนู้นพูดจีน ปนอังกฤษ เลยเปลี่ยนมาเป็นการแชททางข้อความแทน

 

 

 

หลังจากนั้นช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ตนกับฝั่งผู้ขายจึงได้นัดหมายที่จะมาดูนาฬิกาที่เซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งทางฝั่งผู้ขายอ้างว่า เนื่องจากไม่สามารถพูดภาษาไทยได้ เลยจะส่งตัวแทนนำนาฬิกามาให้ดู เมื่อมาถึงตามที่นัดหมาย ตนก็ได้พบกับคนที่นำนาฬิกามาให้ ซึ่งภายหลังทราบว่าเป็นเจ้าของนาฬิกาตัวจริง โดยตนกับเจ้าของนาฬิกาก็ได้ตรวจเช็คนาฬิกาแล้วพบว่าเป็นนาฬิกาจริง

 

 

 

ไม่ใช่นาฬิกาปลอม จึงพิมพ์ไปยังผู้ขายว่าตกลงที่จะซื้อ ทางฝั่งผู้ขายจึงแจ้งมาว่า ขอให้โอนเงินเป็นสกุลคริปโตเคอเรนซี่แทน เพราะเนื่องจากการโอนเงินระหว่างประเทศมีข้อจำกัดหลายอย่าง เลยต้องการให้โอนเป็นสกุลดิจิตอลจะดีกว่า  ตนจึงโอนเงิน สกุลดิจิตอลไปประมาณ 40,000 USDT หรือตีเป็นเงินไทยประมาณ 1,500,000 บาท

 

 

 

ปรากฏหลังจากโอนเสร็จ ฝั่งผู้ที่นำนาฬิกามาให้ดู กลับบอกตนว่า เงินยังไม่เข้าและสอบถามตนว่าจะนำนาฬิกาไปที่ฮ่องกงยังไง เลยทำให้ตนเกิดข้อสงสัยเพราะตนต้องการซื้อนาฬิกามาไว้เป็นของตัวเอง ไม่ได้มีหน้าที่รับหิ้วนาฬิกาให้ใคร จึงทำให้เข้าใจในทันทีว่า ตอนนี้ตนกำลังโดนหลอกซื้อขายนาฬิกา

 

 

 

ขณะที่ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ ระบุว่า หลังจากนี้จะให้ทั้ง 2 เข้าให้ปากคำกับทีมพนักงานสอบสวน สอท.1 เพื่อนำข้อมูลไปดำเนินการสืบสวนสอบสวนทางคดี เรื่องนี้ทางตำรวจท้องที่ได้รับแจ้งความดำเนินการทางด้านคดีแล้ว ซึ่งตำรวจ สอท.1 จะลงไปตรวจดูในเรื่องทางเทคนิคและเส้นทางการเงินดิจิทัลเพิ่มเติมคู่ขนานกันไปกับตำรวจท้องที่ ยอมรับว่าเงินสกุลดิจิทัลค่อนข้างจะตามคืนได้ยาก แต่ทางตำรวจจะเร่งวิเคราะห์และหาทางเพื่อให้สามารถติดตามเงินคืนและระบุตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้

 

 

 

 

พร้อมฝากเตือนประชาชนว่า การซื้อของทางออนไลน์ นอกจากจะต้องระมัดระวังมิจฉาชีพที่ทำเพจหลอกซื้อขายแล้ว ต้องระมัดระวังเรื่องการโอนเงินโดยเฉพาะสกุลดิจิทัลที่มิจฉาชีพชอบนำมาใช้และตามคืนได้ยาก หากพบเห็นลักษณะการซื้อขายที่เป็นการโอนเงินดิจิทัล ขอให้ระมัดระวังว่าอาจจะเป็นมิจฉาชีพได้ ทางที่ดีควรโอนเป็นเงินปกติจะดีกว่า

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube