fbpx
Home
|
อาชญากรรม

ศาลยกคำร้องปล่อยอานนท์,เพนกวิน,สมยศ,เเบงค์

Featured Image
ศาลอุทธรณ์ ยกคำร้องปล่อยตัวชั่วคราว 4 แกนนำราษฏร “อานนท์-เพนกวิน-สมยศ-หมอลำเเบงค์” ชี้ ความผิดอัตราโทษสูง

ศาลอาญาอ่านคำสั่งศาลอุทธรณ์ ในคำร้องที่ น.ส.ภาวิณี ชุมศรี ทนายความของ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน จำเลยในคดี อ.286/2564 พร้อมด้วยนายพงษ์สิทธิ์ นาเมืองรักษ์ ทนายความของ นายพริษฐ์ นาย อานนท์ นำภา, นายปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม หรือหมอลำแบงค์ ,นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำและแนวร่วมกลุ่มราษฎร จำเลยในคดี อ.287/2564

เดินทางมายื่นอุทธรณ์คำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัวของศาลอาญา ในคดีที่กลุ่มจำเลยถูกพนักงานอัยการส่งฟ้องข้อหาตามความผิด ม.112, ม.116, ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปฯ ป.อาญา ม.215, ฝ่าฝืน พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะฯ, ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ,กีดขวางทางสาธารณะฯ, ร่วมกันกีดขวางการจราจรฯ, ตั้งวางวัตถุบนถนนอันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายฯ, ทำลายโบราณสถานฯ, ทำให้เสียทรัพย์ฯ และร่วมกันโฆษณาเครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ รวม 11 ข้อหา จากคดีการชุมนุม 19-20 ก.ย. 2563 ที่ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์-สนามหลวง (เพนกวินมีชุมนุมม็อบเฟสฯ14 พ.ย.ด้วย)

โดยศาลอุทธรณ์ มีคำสั่งในคำร้องประกอบด้วยสำนวนที่มีนายพริษฐ์เป็นจำเลย สำนวนนี้ ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าความผิดตามฟ้องมีอัตราโทษสูงการกระทำตามฟ้อง มีลักษณะเป็นการร่วมกันกระทำความผิดของกลุ่มบุคคลอันอาจก่อให้เกิดความเสียหาย หรือความวุ่นวายขึ้น และส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง และน่าเชื่อว่าจำเลยอาจจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยในระหว่างพิจารณาคำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวนั้นชอบแล้วให้ยกคำร้อง

ส่วนสำนวนที่ 2 คือสำนวนที่มี 2 คำสั่ง ในส่วน นายนายพริษฐ์ นาย อานนท์ เเละนายสมยศ เเละสำนวนของนายปติวัฒน์ หรือหมอลำเเบงค์ โดยทั้ง 3 สำนวนศาลให้เหตุผลในทำนองเดียวกันสรุป ว่า พิเคราะห์แล้วเห็นว่าความผิดตามฟ้องมีอัตราโทษสูง การกระทำตามฟ้องมีลักษณะเป็นการร่วมกันกระทำความผิดของกลุ่มบุคคลอันอาจก่อให้เกิดความเสียหาย หรือความวุ่นวายขึ้น และส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ในระหว่างพิจารณาคำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวนั้นชอบแล้วให้ยกคำร้อง

 

 

ศาลอนุญาตให้ประกัน 8 ผู้ต้องหา ร่วมชุมนุมม็อบ 13 ก.พ. 64

ความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุการณ์ปะทะระหว่างมวลชนกลุ่มคณะราษฎร กับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ บริเวณหน้าศาลฎีกา และศาลหลักเมือง ถนนราชดำเนินกลางเมื่อวันที่ 13 ก.พ. ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก โดยทางตำรวจสามารถจับกุมผู้ชุมนุมได้ 8 ราย ก่อนนำไปคุมตัวที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค1 (ตชด.ภ.1) พร้อมยื่นคำร้องขอฝากขังผัดแรกในวันนี้

โดยนางสาวคุ้มเกล้า ส่งสมบูรณ์ ทนายความเพื่อสิทธิมุษยชน เป็นทนายความของผู้ต้องหาทั้ง 8 ราย มาที่ศาลอาญารัชดาภิเษก เพื่อรับมอบอำนาจทำเรื่องขอยื่นประกันทั้ง 8 ผู้ต้องหา หลังศาลรับคำร้องฝากขัง ทั้งนี้ นางสาวคุ้มเกล้า เปิดเผยว่า ตนรับมอบอำนาจจากผู้ปกครองเเละญาติของผู้ต้องหา นำเงินสดมายื่นขอประกันตัวทั้ง8คนต่อศาล โดยยื่นประกันต่อคน คนละ 35,000 บาท ให้เหตุผลว่าทั้งหมดให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ไม่มีพฤติกรรมยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน มีเเหล่งที่อยู่อาศัยชัดเจน ตามตัวได้ สำหรับ 1ใน 8 ผู้ต้องหา ที่เป็นเยาวชน อายุ 19 ปี และเป็นอาสาสมัครทีมเเพทย์ โดยปรากฏภาพถูกเจ้าหน้าที่ทำร้ายขณะเข้าจับกุมในวันเกิดเหตุนั้น

เบื้องต้นเจ้าตัวปฏิเสธว่าไม่ได้ร่วมขว้างปา ทำลายข้าวของ หรือทำร้ายเจ้าหน้าที่ เเต่ที่อยู่ในที่เกิดเหตุ เนื่องจากปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือด้านการพยาบาล จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่าอาสาทางการแพทย์คนดังกล่าวมีร่องรอยบาดเจ็บเป็นรอยลักษณะเป็นทางยาวที่บริเวณหลังและแขนน่าจะถูกกระบองฟาด ทั้งนี้อยู่ระหว่างการปรึกษากันกับครอบครัวผู้บาดเจ็บว่าหลังจากนี้เตรียมเเจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ที่ทำร้ายอาสาสมัครทางการเเพทย์รายนี้ รวมถึงผู้ต้องหาในคดีนี้อีก 7 คนด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังศาลรับคำร้องขอประกันปล่อยตัวชั่วคราวจากทนายความเเล้ว ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นศาลได้อนุญาตให้ประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 8 คน โดย
หลังจากนี้ทั้งหมดจะถูกปล่อยตัวจากกองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค1 (ตชด.ภ.1)

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube