เปิดคลังศัพท์พี่กะเทยสุดไวรัล สู่ Pop Culture ของคนทุก Gen

ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา วัฒนธรรมของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ+) ได้รับการยอมรับมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในหมู่วัยรุ่นที่เปิดรับสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ วัฒนธรรม LGBTQ+ จึงค่อยๆ ซึมซับเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกระแสหลัก จนกลายเป็น “ป๊อปคัลเจอร์” ที่มีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของแฟชั่น ดนตรี สื่อบันเทิง หรือแม้แต่ภาษา
หนึ่งในวัฒนธรรมเด่นที่เติบโตควบคู่กันมาอย่างมีสีสัน ก็คือ “ศัพท์กะเทย” ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สนุก สดใหม่ และเต็มไปด้วยความสร้างสรรค์ เป็นเหมือนภาษาลับที่เริ่มต้นจากการใช้ภายในกลุ่มเพื่อเพิ่มอรรถรสในการสนทนา สร้างเสียงหัวเราะ แต่ไม่นานนักก็แพร่หลายจนกลายเป็นภาษาร่วมของวัยรุ่นเจนใหม่ ที่ใช้สื่อสารกันทั้งในโซเชียลมีเดียและชีวิตประจำวัน
ศัพท์กะเทยคืออะไร? ทำไมถึงกลายเป็นไวรัลในทุกยุคทุกสมัย?
หากภาษาเป็นสิ่งมีชีวิต ศัพท์กะเทยก็คือดีเอ็นเอที่วิวัฒน์เร็วที่สุดในโลกอินเทอร์เน็ต เพราะมันเกิดง่าย ดับไป และถือกำเนิดใหม่อยู่เสมอ มีทั้งคำที่ประดิษฐ์ขึ้นใหม่ คำที่หยิบยืมมาจากภาษาอื่น หรือแม้แต่คำธรรมดาที่ถูกนำมาใช้ในบริบทใหม่ จนเกิดความหมายเฉพาะตัวของมันเอง บางคำก็มีอายุเพียงไม่กี่สัปดาห์ แต่นั่นแหละคือเสน่ห์ของ “ศัพท์กะเทย”
หากย้อนกลับไปในยุคของซีรีส์ ไดอารี่ตุ๊ดซี่ส์ เดอะซีรีส์ เราอาจคุ้นหูกับคำอย่าง “ยิ้ม”, “ลำไย”, “แซ่บ”, “เบอร์นี้” หรือ “อรรถรส” ซึ่งกลายเป็นศัพท์ยอดฮิตที่ผู้คนหยิบมาใช้ในชีวิตประจำวัน ด้วยบริบทของตัวละครที่สะท้อนความจริงของสังคมร่วมสมัย ทำให้ผู้ชมรู้สึกเข้าถึง และนำภาษานั้นไปใช้ในสถานการณ์ชีวิตที่คล้ายคลึงกัน
ปรากฏการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่ากับศัพท์กะเทย ไม่ว่าจะมาจากซีรีส์ เน็ตไอดอล หรืออินฟลูเอนเซอร์ แสดงให้เห็นว่า “ภาษา” คือเครื่องมือที่มีชีวิต และสามารถเชื่อมโยงผู้คนได้แม้อยู่ต่างรุ่นต่างวัย
เมื่อภาษากลายเป็น “กำแพง”ของเจเนอเรชัน
แม้ศัพท์กะเทยจะเป็นภาษาสนุก ขบขัน แต่ในอีกมุมหนึ่งก็กลายเป็นกำแพงที่กั้นความเข้าใจระหว่างเจเนอเรชัน โดยเฉพาะคนรุ่นก่อนที่อาจไม่เข้าใจความหมาย หรือบริบทของศัพท์ใหม่ๆ ที่วัยรุ่นใช้กัน อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ไม่ใช่อุปสรรคหากเราต่างเปิดใจเรียนรู้ เพราะภาษาคือสิ่งมีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงได้เสมอ และการสื่อสารคือสิ่งที่ต้องอาศัยการปรับจูนเข้าหากัน
เปิดคลังศัพท์พี่กะเทยสุดโฮ่ง สู่ Pop Culture ของคนทุกเจน
เมื่อลองดูความเป็นไปของโซเชียลมีเดียไทยในตอนนี้ เราจะเห็นศัพท์กะเทยใหม่ๆ ที่กำลังฮิตและถูกใช้เป็นวงกว้าง ต่อไปนี้คือคำศัพท์กะเทยยอดฮิต ที่มักได้ยินกันบ่อยๆ บนโลกออนไลน์ พร้อมที่มาที่ไปคร่าวๆ ที่จะช่วยให้เข้าใจโลกของวัยรุ่นยุคนี้มากขึ้น
นอยด์อ่า
คำพูดติดปากจาก “ฟลุ๊ค กะล่อน” เน็ตไอดอลชื่อดังที่ชอบพูดไว้ในคอนเทนต์ VLOG WEEK คำว่า “นอยด์อ่า” หมายถึง อาการรู้สึกน้อยใจ ไม่สบายใจ หรือเซนซิทีฟกับเรื่องบางอย่าง ใช้ขยายอารมณ์แบบรู้สึกน้อยใจมากๆ เช่น “นอยด์อ่าาคุณน้า” และอีกคำฮิตของฟลุ๊ค คือ “กูจะเครซี่” ที่แปลว่า จะบ้าตาย เหนื่อยใจเหลือเกิน
โฮ่ง
เกิดจากกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์สายคอนเทนต์จากแก๊ง “หิ้วหวี” โดย “มิกซ์ เฉลิมศรี” ที่อธิบายว่า “โฮ่ง” แปลว่า เริ่ด ดี จึ้งสุดๆ เช่น “วันนี้นางแต่งหน้าโฮ่งมาก” เป็นคำชมในเชิงบวกที่เอาไว้ยกย่องความปังของใครบางคน
ทำถึง
คำชมเชยที่แปลว่า “ทำได้ดีมากๆ” หรือ “สุดยอด ทำดีสุดๆ” บางครั้งใช้ในเชิงตลกด้วย เช่น “แต่งตัวทำถึงมากแม่” แม้ไม่รู้ที่มาชัดเจน แต่กลายเป็นคำฮิตในหมู่คนรุ่นใหม่ที่ใช้กันอย่างกว้างขวาง
คุณน้า
จากเดิมเราคุ้นกับ “คุณแม่” ที่ใช้แทนผู้หญิงหรือพี่กะเทยที่ปัง เป็นที่เคารพ ถูกยกให้เป็นคนที่เลิศ ใครๆ ก็รัก ก็ชื่นชม จนกลายเป็นวลี “เริ่ดมากแม่” หรือ “งงมากแม่” รวมถึงคำว่าซิส, พส หรือเจ๊ แต่ตอนนี้คำว่า “คุณน้า” กลายเป็นภาษาอัปเกรด หรือเป็นคำที่ขั้นกว่าของคุณแม่ อย่างไรก็ตาม ฟลุ๊ค กะล่อน มักจะใช้คำนี้่ต่อท้าย เช่น “นอยด์อ่าคุณน้า” เป็นต้น
คนไทยคนแรก
คำนี้ฟังดูเหมือนคำชื่นชม แต่จริง ๆ แล้วสามารถตีความได้สองแบบ ขึ้นอยู่กับน้ำเสียงและบริบท ถ้าใช้ในเชิงบวก ก็หมายถึงการเป็นผู้ริเริ่ม เป็นคนแรกที่กล้าทำสิ่งใหม่ๆ น่าชื่นชมสุดๆ แต่ถ้าใช้ด้วยโทนประชดประชัน ก็อาจสื่อถึงความเว่อร์วัง หรือการกระทำที่ดูแปลกแยกจนต้องตั้งข้อสังเกตประมาณว่า ‘อุ๊ย คนไทยคนแรกเลยมั้งเรื่องนี้’ กลายเป็นมุกเหน็บแนมที่แพร่หลายในโซเชียล
ชั้น G
“ชั้น G” คำสแลงที่กำลังฮิต หมายถึง ระดับล่างสุด หรือ ชนชั้นล่าง ใช้เป็นคำพูดเชิงเหยียด หรือสถานะที่ไม่ได้ปัง แฝงความตลกแอบจิกกัดเบา ๆ เช่น “อินางชั้น G” ที่หมายถึง ชนชั้นล่างสุดนั่นเอง
กี่โมง
ดูเหมือนเป็นประโยคคำถามทั่วไปที่ใช้ถามเวลา แต่ในภาษากะเทย คำนี้ถูกพลิกแพลงให้กลายเป็นคำถามเชิงเปรียบเทียบ ที่ไม่ได้ต้องการคำตอบ จะออกแนวประชดประชัน ว่าจะเสร็จเมื่อไรประมาณนั้น
นอกจากนี้ยังมีคำศัพท์อื่นๆที่คนชอบใช้กัน เช่น
- บูด หมายความว่า ไม่ดี ไม่เริ่ด เหมือนแกงบูด
- ความโป๊ะเป็นศูนย์ หมายความว่า สวย เนียน ไร้ที่ติ
- สู้เค้าสิวะอีหญิง หมายความว่า สู้ๆ
- ตุย หมายความว่า เหนื่อย เพลีย ใช้แทนคำว่าตาย
- เยี่ยว หมายความว่า ยิ่งกว่าคำว่าเยี่ยม เริ่ดมาก
- พ.ส. และ น.ส. หมายความว่า พี่สาว และ น้องสาว
- ตุ้บ หมายความว่า ไม่ผ่าน หรือไม่ได้ไปต่อ
- บ้ง หมายความว่า พัง ไม่รอด ไม่ได้เลย
- จึ้งมาก หมายความว่า มันเริ่ด สวยมาก
- แฟ่ด หมายความว่า มากหรือเยอะแยะ
คำศัพท์กะเทยเป็นรูปแบบหนึ่งของภาษาสแลงที่ถือกำเนิดขึ้นตามยุคสมัย และอาจเลือนหายไปเมื่อเวลาผ่านไป คล้ายกับคำสแลงอื่นๆ ที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตผู้คนในแต่ละช่วงเวลา
โดยคำเหล่านี้ทำหน้าที่สะท้อนภาพสังคม ความคิด และพฤติกรรมของผู้คนในช่วงเวลานั้นๆ แม้จะได้รับความนิยมเพียงชั่วคราว แต่ก็เป็นอีกหนึ่งหลักฐานทางภาษาที่บอกเล่าความเป็นไปของยุคสมัยได้อย่างชัดเจน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews