fbpx
Home
|
ไลฟ์สไตล์

6 เรื่องลับน่ารู้ของวันฮาโลวีน ที่คุณอาจไม่เคยรู้

Featured Image

          พรุ่งนี้ก็จะถึงวันที่ 31 ตุลาคม หรือ “วันฮาโลวีน” เทศกาลที่ผู้คนจะแต่งตัวเป็นผี เพื่อปาร์ตี้ และเฉลิมฉลอง แต่จะมีใครรู้บ้างว่าวันฮาโลวีนนั้นคือวันอะไรกันแน่ ทำไมถึงต้องแต่งตัวเป็นผีกันนะ วันนี้เรา 6 เรื่องลับน่ารู้ของวันฮาโลวีนที่คุณอาจไม่เคยรู้ มาให้ทุกคนได้รู้กัน

1.ต้นกำเนิดวันฮาโลวีน

เทศกาลที่เป็นต้นกำเนิดของฮาโลวีนก็คือ เทศกาลของชาวเซลติคโบราณที่เรียกว่า Samhain ที่ได้จัดขึ้นเมื่อ 2,000 ปีก่อน ซึ่งตรงกับวันที่ 1 พฤศจิกายน ชาวเซลติคถือกันว่าวันที่ 31 ตุลาคมเป็นวันสิ้นสุดฤดูร้อน และเชื่อกันว่าเป็นวันที่คนและวิญญาณจะเปิดเชื่อมถึงกัน เหล่าวิญญาณจะหาร่างคนเพื่อหาที่สิง จึงเกิดเป็นความเชื่อและการปฏิบัติในยุคก่อนคริสตกาลว่าจะต้องทำการเผาคนที่คิดว่าอาจจะถูกผีสิง แต่ในปัจจุบันความเชื่อเรื่องผีสางค่อยๆเสื่อมถอยไป และได้เปลี่ยนจากการเผาคนมาเป็นเผาหุ่นแทน

 

2.แต่งผีเพื่อหลอกผี

เนื่องจากมีความเชื่อว่าวันฮาโลวีนผีจะหาร่างคนเพื่อสิง ผู้คนจึงแก้ไขด้วยการปิดไฟในบ้านทุกดวงและแต่งตัวเป็นผีเพื่อกลบเกลื่อนและส่งเสียงหวีดร้องโวยวายเพื่อให้ผีตัวจริงตกใจ จะได้ไม่มาเข้าใกล้ แต่ในปัจจุบันการจัดงานวันฮาโลวีนนั้นเปลี่ยนไปมาก การแต่งเป็นผีเป็นเพียงเพื่อสวยงามและความสนุกสนานเท่านั้น และมีงานเฉลิมฉลองด้วยแท่งไฟมากมายและประดับตกแต่งสถานที่ให้สวยงาม

 

3.Jack-O-Lanterns 

โคมไฟฟักทอง เป็นอุปกรณ์ตกแต่งสถานที่ยอดนิยมในคืนวันฮาโลวีน โดยจะใช้ผลฟักทองลูกใหญ่สีส้ม มาแกะสลักลวดลายให้คล้ายกับใบหน้าคนในอารมณ์ต่างๆ มีต้นกำเนิดมาจาก มีชายชื่อ Jack เป็นชาวนาที่กล้าต่อกรกับซาตานที่ชอบมาขอพืชผลจากชาวบ้านอยู่เสมอ จนวันนึงซาตานติดกับดักของแจ็คจึงทำให้ไปไหนไม่ได้ แจ็คได้ทีจึงบอกให้ซาตานรับปากกับเขาว่า หากเขาตายห้ามส่งเขาไปนรกเด็ดขาด และเมื่อเขาตาย ซาตานก็ทำตามสัญญา พร้อมทั้งให้แสงไฟที่มีผักกาดครอบอยู่กับแจ็คที่กลายเป็นวิญญาณเร่ร่อนเพื่อใช้นำทาง

จากนั้นทุกคืนวันฮาโลวีนวิญญาณของแจ็คจะล่องลอยอยู่ในความมืดพร้อมแสงไฟในหัวผักกาด ต่อมาเมื่อเทศกาลฮาโลวีนได้เข้ามาในอเมริกา ชาวอเมริกันเห็นว่า “ฟักทอง” หาง่ายกว่าและผลใหญ่กว่า เหมาะกับการนำมาแกะสลักมากกว่าผักกาด จึงได้เปลี่ยนมาเป็นฟักทองจนถึงปัจจุบันนั่นเอง

 

4.Trick or Treat

“Trick or Treat” หลอกหรือเลี้ยง เป็นการไปขอขนมตามหมู่บ้าน เริ่มต้นโดยชาวยุโรปราวคริสต์ศตวรรษที่ 9 โดยเชื่อกันว่าหากให้ขนมมากเท่าไหร่ เมื่อตายไปก็จะได้รับผลบุญมากเท่านั้น ในปัจจุบันได้กลายมาเป็นการละเล่นที่เด็กๆ จะแต่งตัวเป็นผีแล้วไปเคาะประตูตามบ้าน เลือกบ้านที่มีโคมไฟฟักทอง แต่ละบ้านจะเตรียมขนมหวานไว้รออยู่แล้ว

เมื่อเด็กๆไปเคาะประตูก็จะถามคนในบ้านว่า “Trick or Treat?” หากตอบว่า Treat จะเป็นการยอมแพ้ให้กับเด็กๆ และให้ขนมหวานกับเด็กๆ แต่หากตอบ “Trick” ก็จะเป็นการท้าทายให้เด็กๆแกล้งหลอกเป็นผี สุดท้ายก็จะให้ขนมกับเด็กๆ ด้วยเหมือนกัน

 

5.Apple Bobbing 

เป็นเกมที่ทุกบ้านจะต้องเล่นกันในค่ำคืนวันฮาโลวีนอย่าง Apple Bobbing หรือเกมงับผลแอปเปิ้ล วิธีการเล่นก็ผู้เล่นต้องพยายามคาบผลแอปเปิ้ลที่ลอยอยู่ในถังออกมาให้ได้ โดยจะต้องนำมือไขว้หลังในที่ระหว่างเล่น ถ้าใครงับแอปเปิ้ลสำเร็จก่อนถือว่าเป็นผู้ชนะ และคนที่งับผลแอปเปิ้ลได้ก็จะโชคดีไปตลอดปี นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวความเชื่อเกี่ยวกับการทำนายเนื้อคู่ด้วยการโดยการปอกเปลือกแอปเปิ้ล ซึ่งต้องปอกให้เป็นเส้นยาวโดยไม่ขาดออกจากกัน แล้วโยนเปลือกนั้นข้ามไหล่ไป เปลือกแอปเปิ้ลจะปรากฎเป็นตัวอักษรนำหน้าชื่อเนื้อคู่นั่นเอง

 

6.แม่มดในวันฮาโลวีน

มีความเชื่อต่อๆกันมาว่าถ้าเราอยากเห็นแม่มดตัวเป็นๆ จะต้องใส่เสื้อผ้ากลับด้าน และทำพิธีในตอนเที่ยงคืนของวันฮาโลวีน จากนั้นให้เดินถอยหลัง แล้วแม่มดจะมาปรากฎตัวให้เห็นในเวลาเที่ยงคืน

          รู้ที่มาที่ไปกันแบบนี้แล้ว น่าสนใจกันมากๆเลยใช่ไหมล่ะ ใกล้จะวันฮาโลวีนแล้ว ขอให้ทุกคนเฉลิมฉลองกันอย่างสนุกสนานนะ และหากใครชอบบทความที่ให้ความรู้แบบนี้อีกล่ะก็สามารถติดตามอ่านต่อได้อีกมากมายที่ iNN Lifestyle

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube