เช็คปีชง 2564
วันนี้ทีม INN จะพาทุกคนไปเช็คปีชงของแต่ละปีนักษัตรกัน จะมีปีไหนที่ชงกันบ้าง ไปเช็คพร้อมๆกันเลย
ปีชง 2564 มีทั้งหมด 4 ปีด้วยกัน
1.ปีชง คือ ปีที่ได้รับผลเสียมากที่สุดหรือที่เราเรียกกันว่าชงโดยตรง (ชง 100%) ได้แก่ ปีมะแม
2.ปีคัก คือ ปีที่เป็นปีนักษัตรเดียวกับปีนั้นๆ ได้แก่ ปีฉลู
3.ปีเฮ้ง คือ ปีที่ได้รับผลกระทบในเรื่องเคราะห์กรรม ได้แก่ ปีมะโรง
4.ปีผั่ว คือ ปีที่ได้รับผลกระทบในเรื่องสุขภาพ ได้แก่ ปีจอ
- ปีฉลู ปีชงคือ ปีมะแม ตรงกับคนที่เกิดปี พ.ศ. 2474, 2486, 2498, 2510, 2522, 2534, 2546, 2558
- ปีชงร่วม คือ ปี ฉลู, มะโรง, จอ ตรงกับคนที่เกิดปี พ.ศ. 2465, 2468, 2471, 2477, 2480, 2483, 2489, 2492, 2495, 2501, 2504, 2507, 2513, 2516, 2519, 2525, 2528, 2531, 2537, 2540, 2543, 2549, 2552, 2555, 2561
ข้อควรระวังสำหรับคนปีชง
สำหรับคนที่เกิดปีนักษัตร ปีมะแม ปีฉลู ปีมะโรง และปีจอ ตามความเชื่อของคนจีนได้บอกไว้ว่าดังนี้
- ควรหลีกเลี่ยงการไปงานศพ แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆให้พกกิ่งทับทิมไปงานศพด้วย ซึ่งชาวจีนโบราณม่ีความเชื่อว่าทับทิมจะป้องกันเราจากสิ่งชั่วร้ายต่างๆและช่วยปัดเป่าสิ่งที่ไม่ดีจากอวมงคลที่อยู่ในงานศพได้ เพราะดวงของบางคนตามโหราศาสตร์จีนจะสัมพันธ์กับคนตาย การพกใบทับทิมเปรียบเสมือนพกไปเพื่อการแก้ดวงสำหรับคนชง นอกจากใบทับทิบแล้ว คุณยังสามารถแก้เคล็ดด้วยวิธีอื่นได้อีก ลองไปดูได้ที่นี่
- ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางไกล หรือหลีกเลี่ยงทริปที่เสี่ยงอันตราย เช่น เดินป่า ปีนเขา ล่องเรือ แต่ถ้าจะหลีกเลี่ยงไม่ได้อาจจะต้องใช้ความระวังเป็นพิเศษ เพื่อความอุ่นใจเราสามารถพกยันต์ติดตัวไปเพื่อความสบายใจ ทุกคนสามารถหาซื้อได้ที่ศาลเจ้าจีนหรือวัดจีนได้
- หลีกเลี่ยงการไหว้ไฉ่ซิงเอี๊ยเป็นคนแรก เนื่องจากช่วงปีใหม่จีนนั้นจะมีการไหว้บูชาเทพเจ้าแห่งโชคลาภหรือ ไฉ่ซิงเอี๊ย เพราะฉะนั้นไม่ควรให้คนเกิดปีชงไหว้เป็นคนแรก ต้องให้ผู้อื่นไหว้นำให้เสร็จก่อน แล้วจึงจะเริ่มไหว้ตามได้
และนี่ก็คือ 4 นักษัตรที่ชงในปี 2564 สำหรับใครที่รู้แล้วว่าปีนี้เป็นปีชงของตัวเอง แต่ยังไม่รู้ว่าจะต้องไปแก้ชงอย่างไร ต้องไปที่ไหน ทีม INN อยากแนะนำให้ลองไปดูสถานที่แก้ปีชงได้เลยนะทุกคน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
