ศึกชายแดนไทย–กัมพูชา สะเทือนความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยวช่วงปีใหม่หรือไม่
สถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ที่ยังคงเกิดการปะทะเป็นระยะในบางพื้นที่ ได้กลายเป็นประเด็นที่ถูกจับตามองในระดับนานาชาติ โดยเฉพาะในช่วงโค้งสุดท้ายของปี ซึ่งเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวสำคัญและช่วงเทศกาลปีใหม่ของประเทศไทย
แม้ฝ่ายความมั่นคงของไทยจะยืนยันว่า การปะทะจำกัดอยู่เฉพาะแนวชายแดน และยังสามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อแหล่งท่องเที่ยวหลักหรือเมืองท่องเที่ยวสำคัญ แต่ภาพข่าวและรายงานสถานการณ์ความตึงเครียดที่เผยแพร่ผ่านสื่อและโซเชียลมีเดีย กลับสร้างความกังวลให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่น้อย
ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวประเมินว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงไม่ใช่เหตุการณ์ในพื้นที่จริง หากแต่เป็น “ภาพลักษณ์ด้านความปลอดภัย” ของประเทศ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากยุโรปและเอเชียตะวันออก ที่มักตัดสินใจเดินทางจากข้อมูลข่าวสารและคำเตือนด้านความปลอดภัยของรัฐบาลตนเอง หากมีการตีความสถานการณ์ว่าไทยอยู่ในภาวะความขัดแย้ง อาจส่งผลให้เกิดการชะลอการเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่และงานเคาท์ดาวน์
ขณะเดียวกัน แหล่งท่องเที่ยวหลักอย่างกรุงเทพมหานคร ภูเก็ต เชียงใหม่ พัทยา และหัวหิน ยังคงมีการเตรียมความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวตามปกติ กิจกรรมเฉลิมฉลองปีใหม่และเคาท์ดาวน์ในหลายพื้นที่ยังเดินหน้าตามแผนเดิม โดยหน่วยงานรัฐและภาคเอกชนยืนยันว่า ไม่มีการยกเลิกกิจกรรม และระดับความปลอดภัยยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ด้านการท่องเที่ยวชี้ว่า หากสถานการณ์ชายแดนยืดเยื้อ หรือมีความรุนแรงเพิ่มขึ้นจนถูกขยายผลในสื่อระหว่างประเทศ อาจกระทบต่อความเชื่อมั่นในระยะสั้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัวและนักเดินทางระยะไกล ซึ่งให้ความสำคัญกับความมั่นคงเป็นอันดับต้น ๆ
ทั้งนี้ ภาคการท่องเที่ยวเห็นตรงกันว่า การสื่อสารเชิงรุกจากภาครัฐมีความสำคัญอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นการยืนยันพื้นที่ปลอดภัย การชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสื่อสากล และการสร้างความเชื่อมั่นว่าสถานการณ์ความไม่สงบไม่ได้ลุกลามไปยังเมืองท่องเที่ยว
เพื่อไม่ให้เหตุการณ์ชายแดนกลายเป็นปัจจัยบั่นทอนบรรยากาศการท่องเที่ยวไทยในช่วงเทศกาลแห่งความสุขท่ามกลางความกังวลดังกล่าว บทพิสูจน์สำคัญของประเทศไทยในช่วงปีใหม่นี้ จึงไม่ใช่เพียงการดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการบริหารภาพลักษณ์ประเทศ เพื่อรักษาความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้ยังคงเลือกประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางในการเฉลิมฉลองส่งท้ายปี
ด้าน นายไพศาล สุขเจริญ นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ (ตอนบน) เปิดเผยว่า ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่กระทบต่อการท่องเที่ยวไทยในขณะนี้ คือภาพข่าวความรุนแรงตามแนวชายแดนที่ถูกนำเสนอออกไปสู่สื่อระดับนานาชาติ ซึ่งส่วนใหญ่มักสื่อสารในภาพรวมว่า “ประเทศไทยเกิดการสู้รบ” โดยไม่ได้ระบุว่าเป็นเพียงบางพื้นที่ ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเกิดความกังวลด้านความปลอดภัย และตั้งคำถามว่าการเดินทางมาเที่ยวไทยจะได้รับผลกระทบหรือไม่
นายไพศาล ระบุว่า หากสถานการณ์ชายแดนยังไม่สามารถหาข้อยุติในทางบวกได้ จะกลายเป็นปัจจัยหลักที่กดดันภาคการท่องเที่ยวไทย ทั้งในช่วงเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปีเก่า 2568 ต้อนรับปีใหม่ 2569 รวมถึงกระทบต่อการเติบโตของการท่องเที่ยวตลอดปี 2568 และเศรษฐกิจในภาพรวม
นอกจากนี้ แรงส่งด้านการท่องเที่ยวในช่วงปลายปีนี้ยังถือว่าน้อยกว่าทุกปีที่ผ่านมา เนื่องจากต้องเผชิญปัญหาสะสมหลายด้าน ทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง เหตุแผ่นดินไหว น้ำท่วมใหญ่ซ้ำซ้อนทั้งภาคเหนือและภาคใต้ รวมถึงสถานการณ์การสู้รบชายแดนที่ทำให้บรรยากาศการเดินทางตึงเครียดมากยิ่งขึ้น
ขณะเดียวกัน ความไม่แน่นอนทางการเมืองภายในประเทศ หลังรัฐบาลประกาศยุบสภา ยิ่งซ้ำเติมความกังวลของภาคเอกชน โดยก่อนหน้านี้ผู้ประกอบการยังมีความหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ทั้งการลดค่าครองชีพ การสนับสนุนการท่องเที่ยว และราคาพืชผลทางการเกษตรที่ปรับตัวดีขึ้น ทำให้ประชาชนมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น แต่การยุบสภาอย่างกะทันหัน ทำให้ทิศทางการบริหารประเทศต้องหยุดชะงัก
นายไพศาล กล่าวว่า สิ่งที่ภาคธุรกิจไม่ต้องการมากที่สุด คือ “ความไม่แน่นอน” โดยเฉพาะความไม่แน่นอนทางการเมืองที่ส่งผลโดยตรงต่อการตัดสินใจเดินทาง การลงทุน และการบริหารประเทศ
พร้อมแสดงความหวังให้การเลือกตั้งใหม่ในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า รวมถึงการจัดตั้งรัฐบาล เป็นไปอย่างรวดเร็วและชัดเจน เพราะหากกระบวนการล่าช้า อาจกระทบถึงการจัดทำงบประมาณประจำปี และทำให้ทุกภาคส่วนต้องสะดุดไปพร้อมกัน
ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงทั้งภายนอกและภายในประเทศ ภาคการท่องเที่ยวยังคงจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมภาวนาว่าความไม่แน่นอนต่าง ๆ จะคลี่คลายลงโดยเร็ว เพื่อฟื้นความเชื่อมั่น และประคองเศรษฐกิจไทยให้เดินหน้าต่อไปได้ในปีหน้า
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





