ไทยรบกัมพูชาจริงๆใช่มั้ย ปะทะเดือด 8 วัน มี “นักรบรับจ้าง-อาวุธใหม่จีน”
การสู้รบไทย-กัมพูชา ผ่านมาแล้ว 8 วัน มีความสูญเสียกันทั้ง 2 ฝ่าย แต่ยังไร้วี่แวว กลับสู่โต๊ะเจรจา แม้ผู้นำโลก อย่าง”โดนัลด์ ทรัมป์” จะพยายามเจรจาแล้วก็ตาม แต่เหมือนเป็นการเติมเชื้อไฟเสียมากกว่า กับการที่พูดว่า ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิด เป็นอุบัติเหตุข้างทาง ทำให้รัฐบาลไทย โดยนายกฯอนุทิน ชาญวีรกุล ตอบโต้ด้วยท่าทีที่แข็งกร้าวกว่าเดิม
เช่นเดียวกับ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. ก็ส่งสัญญาณเดินหน้ารบต่อไป จนกวาจะทำลายศักยภาพทางทหารของกัมพูชา จนไม่อาจเป็นภัยคุกคามต่ออธิปไตยของไทยได้ โดยแม่แทัพภาค 1 และภาค 2 รวมถึงกองทัพอากาศ และกองทัพเรือ ก็ตอบสนอง ต่อท่าทีของผู้นำเป็นอย่างดี
จากการสู้รบทั้ง 8 วัน กองทัพไทย ทุกแนวรบ พยายามทวงคืนพื้นที่อธิปไตยของไทย ตามปผนที่ 1 ต่อ 5 หมื่น เพียงเท่านั้น ไม่ได้หมายจะรุกคืบเข้าไปในดินแดนกัมพูชาเลย และไม่ได้โจมตีเปาหมายอ่อนแอ หรือพลเรือนแต่อย่างใด
กลับกันกัมพูชาตอบโต้อย่างหนัก ด้วยปืนหญ่ ปืน ค. และ ปืนยิงจรวจดหลายลำกล้อง ที่สะเปะสะปะ ทำให้พลเรือนไทยได้รับผลกระทบ จนมีประชาชนเสียชีวิตจาก กระสุน BM21 อีกครั้ง และอาจทำให้ไทยต้องปรับยุทธวิธีป้องกัน หรือต้องรุกกลับเพื่อทำลาย BM21 ให้ได้มากขึ้น เพื่อลดความสูญเสียของทหาร และประชาชน
ยิ่งไปกว่านั้น ในการสู้รบ ช่วง 3-4 วันแรก พบมีการใช้โดรนพลีชีพ โดรนทิ้งระเบิดจำนวนมาก เหมือนกับสงครามรัสเซีย-ยูเครน ก่อนที่กองทัพภาค 2 จะพิสูจน์ทราบ จากซากโดรน ว่า เป็นฝีมือทหารรับจ้างชาติตะวันตก เป็นผู้บังคับอากาศยานไร้คนขับโจมตีทหารไทย
ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ไทยไม่ได้รบกับกัมพูชา เพียงอย่างเดียว แต่ยังมีทหารรับจ้าง ซึ่งยังไม่ยืนยันสัญชาติ และจำนวนด้วย เป็นหลักฐานชั้นดี ว่า กัมพูชา ไม่ได้แสวงหาสันติภาพ อย่างที่พยายามหลอกชาวโลก ก่อนที่กองทัพไทย ทั้งทัพบก และอากาศ จะประสานงานกันตอบโต้ โจมตีเป้าหมาย จุดควบคุมโดรนไปหลายพื้นที่
ก่อนที่ล่าสุด การเข้ายึด เนิน 677 ที่ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี ทหารไทยสามารถยึดระบบขีปนาวุธต่อต้านรถถังนำวิถี รุ่น GAM-102LR ได้จำนวนมาก ซึ่งอาวุธชนิดนี้ เป็นอาวุธใหม่ ที่กองทัพจีนที่เพิ่งเปิดตัว เมื่อต้นปี 2568 ถือเป็นการค้นพบอาวุธหนัก และทันสมัยที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในแนวรบ
โดยระบบขีปนาวุธต่อต้านรถถังนำวิถี ผลิตโดยบริษัทอาวุธชั้นนำของประเทศจีน พิสัยระยะทำยิงสูงสุดประมาณ 6-10 กิโลเมตร
ซึ่งหากเขมร นำขีปนาวุธต่อต้านรถถังนำวิถีมาใช้จริง หรือใช้เป็นทหารและประชาชนคนไทย อาจต้องสูญเสียมากกว่านี้ และจากการตรวจพบ ยึดได้ที่ เนิน 677 จำนวนมาก ก็บ่งบอกกับกองทัพไทย และรัฐบาลว่า กองทัพเขมรไม่ธรรมดา มีอาวุธที่ทันสมัย จากประเทศมหาอำนาจ ซึ่งไม่แน่ชัดว่าคอยสนับสนุน แบบเป็นทางการ หรือไม่เป็นทางการในการสู้รบกับไทยช่วงที่ผ่านมา
การยึดอาวุธสมัยใหม่ของจีนได้ ที่เนิน 677 อาจเป็นการบ้านข้อใหญ่ ข้อสำคัญ ที่รัฐบาลของ “นายกฯอนุทิน” จะต้องทวงถามข้อเท็จจริงจากเอกอัคราชทูตจีน หรือถามไปยังรัฐบาลปักกิ่ง ตลอดจนต้องแจ้งไปยัง ชาติมหาอำนาจ ที่พยายามเข้ามาแทรกแซง ว่า กัมพูชา มีการครอบครองอาวุธยุทโทปกรณ์แบบไหนอยู่บ้าง
การวางทุ่นระเบิดของกัมพูชา และทหารไทยเหยีบบนั้น มันไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เป็นการวางแผนมาเป็นอย่างดี
ไทยจำเป็นต้องดำเนินการตอบโต้ และต้องทำลายขีดความสามารถนั้นให้ได้ เพื่อไม่ให้เป็นภัยคุกคามในอนาคต แต่ก็มีคำถามตามมาอีกว่า มีกี่ชาติ ที่เข้ามาช่วยกัมพูชาสู้รบที่ชายแดน ทหารไทยไม่ได้สู้รบกับ หทารกัมพูชาเพียงชาติเดียวใช่หรือไม่ …
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





