Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

ยุบสภา เลือกตั้งใหม่ … อีก 4-5 เดือน กว่าจะได้นายกฯคนใหม่

ภายหลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า นายกรัฐมนตรีได้นำความกราบบังคมทูลฯ สมควรยุบสภาผู้แทนราษฎร เพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่ มีผลทันทีในวันนี้

 

และให้ประธานกรรมการการเลือกตั้งรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้ เท่ากับ การเมืองไทย เข้าสู่โหมดเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ โดยกระบวนการขั้นตอนหลังจากนี้ ไปจนถึงการได้นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย ประมาณ 4-5 เดือน

 

โดยรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 มาตรา 103 และ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ได้กำหนดไว้ชัดเจนว่า ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปภายใน 45 วัน แต่ไม่เกิน 60 วัน นับจากวัน ที่มีพระบรมราชโองการประกาศยุบสภา  โดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีหน้าที่กำหนดวันเลือกตั้ง วันสมัครรับเลือกตั้ง

 

รวมถึงออกระเบียบ และกำกับดูแลการเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย บริสุทธิ์ยุติธรรม และต้องประกาศผลรับรองผล ภายใน 60 วัน นับจากวันเลือกตั้ง จากนั้นจึงจะมีการเปิดประชุมสภา เพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีต่อไป โดยไม่มีกำหนดว่าจะต้งได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ภายในกี่วัน

 

แต่เมื่อครั้ง เลือกตั้ง 2566 มีการโหวตนายกฯ ถึง 3 ครั้ง กว่าจะได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ โดยเมื่อมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่แล้ว ก็จะเป็นกระบวนการฟอร์มทีมคณะรัฐมนตรีชุดใหมต่อไป

 

ส่วนที่หลายคน หลายฝ่ายกังวลกันว่า การยุบสภา จะทำให้มีปัญหาใญ่ตามมาหรือไม่ เพราะยังมีการปะทะสู้รบชายแดนไทนกัมพูชาอยู่ ก็ต้องเอาคำพูดของ”อนุทิน” มายืนยันอีกรอบว่า ยุบสภา ไม่กระทบกับ ความมั่นคงชายแดนแน่นอน เพราะในระหว่างนี้ นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ยังคงมีอำนาจเต็ม ในการรักษาการ จนกว่าจะมีคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่ เข้ารับหน้าที่

 

ก็เท่ากับยังสามารถบริหารจัดการดูแล เรื่องความมั่นคง หรือเรื่องอื่นๆได้เหมือนเดิม ยกเว้นแค่บางเรื่องเท่านั้น ที่ไม่สามารถทำได้ คือ

1.ไม่กระทำการอันเป็นการใช้อำนาจแต่งตั้งหรือโยกย้ายข้าราชการ หรือให้บุคคลพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ หรือพ้นจากตำแหน่ง หรือให้ผู้อื่นมาปฏิบัติหน้าที่แทน เว้นแต่จะได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการการเลือกตั้งก่อน

2. ไม่กระทำการอันมีผลเป็นการอนุมัติให้ใช้จ่ายงบประมาณสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เว้นแต่จะได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการการเลือกตั้งก่อน

3.ไม่กระทำการอันมีผลเป็นการอนุมัติงาน หรือโครงการ หรือมีผลเป็นการสร้างความผูกพันต่อคณะรัฐมนตรีชุดต่อไป

4.ไม่ใช้ทรัพยากรของรัฐ หรือบุคลากรของรัฐ เพื่อกระทำการใดซึ่งจะมีผลต่อการเลือกตั้ง และไม่กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืน ข้อห้ามตามระเบียบที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนด

 

ดังนั้นหลังจากนี้ เราก็จะได้เห็นกิจกรรมทางการเมือง ของพรรคภูมิใจไทย, พรรคประชาชน,พรรคเพื่อไทย,พรรคกล้าธรรม,พรรคพลังประชารัฐ, พรรครวมไทยสร้างชาติ,พรรคประชาธิปัตย์,พรรคไทยภักดี, พรรคไทยสร้างไทย, พรรคประชาชาติ,พรรคไทยก้าวใหม่, หรือแม้กระทั่ง พรรครักชาติ ที่เพิ่งเปิดตัวหมาด ทวีความเข้มข้นยิ่งขึ้น

 

โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับกระบวนการเลือกตั้ง ที่แต่ละพรรคการเมือง จะต้องเฟ้นหาตัวผู้สมัคร สส. ต้องเฟ้นหาตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เตรียมตัวในการยื่นสมัครรับเลือกตั้ง เมื่อ กกต.ประกาศวันเลือกตั้ง และวันรับสมัครเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ รวมไปถึงการลงพื้นที่หาเสียงเลือกตั้งต่อไป

 

ทั้งหมดนี้ คือสิ่งที่จะเกิดขึ้น หลังจากมีการยุบสภา คืนอำนาจให้กับประชาชน ได้ตัดสินใจเลือกผู้บริหารประเทศชุดใหม่กันอีกครั้ง …

 

 

 


 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube