สรุปสถานการณ์ เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา รอบใหม่ เกิดอะไรขึ้น?

สรุปสถานการณ์ เหตุปะทะชายแดนไทย- กัมพูชารอบใหม่ เกิดอะไรขึ้น? จนฝ่ายไทยเสียชีวิตเพิ่ม และฝ่ายความมั่นคงต้องเร่งอพยพประชาชน

 

จากสถานการณ์ เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 68 ที่ผ่านมาศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 รายงานว่า ฝ่ายกัมพูชามีการยกระดับความพร้อมรบสูงสุด หลังเหตุปะทะที่ “พลาญหินแปดก้อน” โดยเร่งเสริมที่มั่น สร้างที่กำบัง ตรวจหาวัตถุระเบิดในพื้นที่รับผิดชอบ ลำเลียงอาวุธไปเก็บ และสั่งกำลังพลปิดโทรศัพท์มือถือทั้งหมด พร้อมเตรียมรับผู้บังคับบัญชาที่จะลงพื้นที่ เพื่อบัญชาการรบด้วยตัวเอง และยังคอยจับตาฝ่ายไทยอย่างใกล้ชิด ทั้งการใช้รถถัง การบินโดรน และการทำถนนหน้าแนวชายแดน

 

ความเคลื่อนไหวเด่นตามจุดต่าง ๆ ตรงข้ามช่องสายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ทหารกัมพูชาพื้นที่บ้านจุ๊บโกกีคางเกิด ได้ลำเลียงทุ่นอาวุธเข้าที่กำบังทันที

 

ตรงข้าม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หน่วยประจำปราสาทตาเมือนธม อ้างว่าสามารถทำลายโดรนไทยได้ 1 ลำ

 

ตรงข้าม อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ สั่งกำลังพลหน้าแนว “ห้ามเปิดอินเทอร์เน็ตเด็ดขาด” และห้ามถ่ายภาพลงสื่อทุกชนิด พร้อมสั่งให้ทุกหน่วยทำความสะอาดอาวุธ จุดกำบัง และฐานที่ตั้ง
เพื่อเตรียมรับการตรวจความพร้อมรบจากหน่วยเหนือ

 

ตรงข้ามช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ผู้บังคับบัญชากัมพูชาสั่งให้ทหารที่อยู่นอกพื้นที่ “กลับฐานภายใน 9–10 ธ.ค.” โดยประเมินว่า หากกัมพูชาเลือกใช้จรวดหลายลำกล้อง BM-21 จุดจู่โจมแรกจะอยู่บริเวณ อ.จอมกระสาน จ.พระวิหาร

 

จากเหตุดังกล่าว พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)

 

สั่งการด่วนให้สถานีตำรวจในพื้นที่แนวชายแดนของ 4 จังหวัด ได้แก่ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ช่วยอพยพประชาชนสู่พื้นที่ปลอดภัย หลังจากมีความเคลื่อนไหว สำคัญที่ชายแดนไทย – กัมพูชา ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากในพื้นที่บริเวณ ภูผาเหล็ก – พลาญหินแปดก้อน เกิดการปะทะกันอย่างต่อเนื่อง ทางกองทัพภาคที่ 2 ประเมินว่าสถานการณ์ยังมีความไม่แน่นอน แนวโน้มที่การปะทะอาจขยายวงกว้าง จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่แนวชายแดนดังกล่าวอพยพ

 

โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ผบ.ตร.กำชับให้ตำรวจทุกหน่วย โดยเฉพาะตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) และตำรวจภูธร (ภ.จว.) ทั้ง 4 จังหวัด เตรียมพร้อมกำลัง 100 % พร้อมร่วมยุทธการสนับสนุนกองทัพในภารกิจรักษาอธิปไตยทันที ที่มีการร้องขอ ขณะเดียวกันให้ดำเนินการตามแผนพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลังดูแลความปลอดภัย ในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน พร้อมทั้งอำนวยการการจราจรในพื้นที่ดังกล่าว เพื่อให้การดำเนินยุทธการ และการสัญจรของพี่น้องประชาชนเป็นไปโดยสะดวก

 

และหลายโรงเรียนในพื้นที่ปะทะ ชายแดนไทย-กัมพูชา ประกาศหยุดเรียนเป็นกรณีเศษ อาทิ โรงเรียนคาบเชิงวิทยา , โรงเรียนกันทรลักษ์วิทยา , iโรงเรียนบ้านรุน เป็นต้น

 

ซึ่งในวันนี้ 8 ธันวาคม 68 เวลา 08.30 น. กัมพูชาใช้อาวุธ BM-21 ลงพื้นที่บ้านเรือนประชาชนฝั่งไทย บ้านสายโท10 อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ และเมื่อเวลา เมื่อเวลา 9.28 น. พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทหารไทยเสียชีวิตเพิ่มอีก 1 นาย รวมเสียชีวิต 2 นาย บาดเจ็บรวม 4 นาย ขณะนี้ส่งโรงพยาบาลในพื้นที่แล้ว หน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ยังคงตรึงกำลังและเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมเร่งตรวจสอบเหตุปะทะตลอดแนว

 

สถานการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงความไม่จริงใจของกัมพูชาอีกครั้ง และนี่ก็เป็นอีกครั้งแล้วที่ประชาชนชาวไทยต้องสูญเสียจากการที่ทางฝั่งของกัมพูชาเปิดจากโจมตีก่อน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews