หยุดการเมือง ร่วมกันสู้น้ำท่วม #Saveหาดใหญ่ #Save ภาคใต้
โซเชียลมีเดีย แตกเป็น 2 ฝ่ายอย่างชัดเจน เมื่อมีการวิพากษ์วิจารณ์โจมตีการทำงานของ รัฐบาล และ นายกฯ อนุทิน ชาญวีรกุล ในการรับมือ แก้ปัญหาน้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์ ที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ว่าทำงานไม่เป็น มือไม่ถึง ขาดประสบการณ์ ทำงานล่าช้า ต่างๆนานา
รวมถึงประเด็น การลงพื้นที่ จนมีคนพูดว่า “ไปก็โดนด่า ไมไปก็โดนด่า” แล้วพาทัวร์ไปลงกับทุกคณะของนักการเมือง ที่ลงพื้นที่ไปช่วยเหลือ ไปให้กำลังใจ พี่น้องชาวหาดใหญ่ ที่กำลังประสบภัย ถือว่าไม่เหมาะสมสักเท่าไหร่นัก ต้องตัดอคติออกไปก่อน เพราะเวลานี้ ไม่ใช่เรื่องของการแข่งขัน แก่งแย่งการเมือง แต่เป็นการช่วยเหลือภัยพิบัติ ช่วยเหลือคนที่กำลัง เดือดร้อนจนวนมาก
ใครทำอะไรได้แค่ไหน ช่วยได้มากช่วยได้น้อย ก็เป็นไปตามกำลัง ไม่ควรมองเป็นเรื่องของการเมืองไปเสียทั้งหมด แม้ใจอนาคตอันใกล้ จะมีเรื่องของการยุบสภา มีการเลือกตั้งใหม่ รออยู่ข้างหน้าก็ตาม ต้องวางการเมืองลงก่อนเพื่อ #Saveหาดใหญ่ #Save ภาคใต้
“นายกฯอนุทิน” ลงพื้นที่หาดใหญ่แล้ว 3 รอบ นับเป็นมิติใหม่ของฝ่ายบริหาร ที่เข้าถึงพื้นที่อย่างทันท่วงที แต่ละครั้งก็มีภารกิจ ที่แตกต่างกันไป ประชุมสั่งการ ประเมินสถานการณ์ติดตามผล รวมถึงพบปะประชาชน ถือเป็นเรื่องปกติ ทุกรัฐบาลก่อนหน้านี้ ก็ทำกันมาตลอด
และไม่แปลกใจที่หลายคนจะมองว่า เป็นการทำพื้นที่ของพรรคภูมิใจไทย เพราะนายกฯ มีอีกหัวโขนคือหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย แต่ต้องชื่นชม “นายกฯหนู”เป็นอย่างมาก คือความรวดเร็วในการเข้าถึงพื้นที่ ซึ่งก่อนหน้านี้ มีเหตุถนนสามเสนทรุดตัว ก็ไปติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเช่นกัน
“ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” รองนายกฯ และรัฐมนตรีเกษตรฯ ก็เป็นอีกคนหนึ่ง ที่ลงพื้นที่ร่วมกับ “อนุทิน” ตั้งแต่วันแรก มีภาพการลุยน้ำช่วยเหลือประชาชน มีการสั่งการเรื่องระบายน้ำ เพราะเป็นผู้กำกับดูแลกรมชลประทาน และได้รับแต่งตั้ง เป็นผู้บัญชาการศูนย์
ในการดูแลพื้นที่ ก็ต้องได้รับคำชื่นชมเช่นกัน แม้จะถูกมองว่าเป็นการหาเสียงของพรรคกล้าธรรม ก่อนน้ำท่วมจะรุนแรงขึ้น จนต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่งตั้งผู้บัญชาการทหารสูงสุด” เข้ามาดูแลเพิ่มอีกคน
“อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เสนอแนะมาตรการช่วยเหลือน้ำท่วมภาคใต้ และนำคณะผู้บริหารพรรครุ่นใหม่ ลงพื้นที่ช่วยเหลือน้ำท่วมหาดใหญ่ สมทบกับ “จูรี นุ่มแก้ว” รองหัวหน้าพรรค ที่อยู่ในพื้นที่ คอยประสานงานและช่วยชาวบ้านมาตั้งแต่วันแรก จนตอนนี้กลายเป็นผู้ประสบภัยด้วย
แม้ “อภิสิทธิ์”จะถูกโจมตีไม่ต่างจาก “อนุทิน” แต่ก็ไม่ได้เกินความคาดหมาย เพราะก่อนหน้านี้ “อภิสิทธิ์” ก็เคยมา ก่อนน้ำท่วม ประมาณ 1 สัปดาห์ ก็มีทั้งคำชื่นชม และเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไม่น้อยเช่นกัน
ถัดมา “ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ” ผู้นำพรรคประชาชน ก็ลงพื้นที่เช่นกัน ตามหลัง”อภิสิทธิ์” มาเล็กน้อย พร้อมกับย้ำในข้อเสนอ เกี่ยวกับการช่วยเหลือประชาชนว่า ศูนย์บริหารสถานการณ์ที่ตั้งขึ้นมาควรต้องมีการ รวมศูนย์ข้อมูลที่เป็นไปในทิศทางเดียว
คำสั่งต้องแน่ชัดเป็นทิศทางเดียวกัน กระจายกำลังทุกส่วนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด หรือแม้แต่ “จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยังไม่เดินทางลงพื้นที่ แต่ก็มีแอคชั่นได้ระดม ทีมอาสา และสิ่งของเครื่องใช้ ในนามของพรรคเพื่อไทย มาช่วยเหลือ พี่น้องประชาชน ชาวหาดใหญ่อย่างเต็มที่ ด้วยเช่นกัน
ดังนั้น การที่นักการเมือง บางคนลงพื้นที่น้ำท่วม หรือไม่ลงพื้นที่น้ำท่วมหาดใหญ่ หรือจังหวัดอื่นในภาคใต้ แต่ช่วยเหลือสนับสนุนในด้านอื่นๆ ก็ไม่ควรถูกวิพากษ์วิจารณ์ กล่าวหาในเชิงการเมือง ว่าเป็นการหาเสียงล่วงหน้า เพราะการช่วยเหลือในยามลำบาก เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องช่วยกัน
ส่วนอนาคตประชาชนจะเลือกใคร นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เวลานี้ทุกฝ่ายต้องวางเรื่องของการเมืองลงก่อน และต้องช่วยกันเร่งมือช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ที่กำลังเดือดร้อนจากน้ำท่วมเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด #Saveหาดใหญ่ #Save ภาคใต้.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





