Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

ไม่ให้ค่า “เขมร” เฟคนิวส์ ฉะเจตนาร้าย ไทยขอประณาม

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงคืบหน้าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยไม่ให้ค่าเฟกนิวส์เขมร กรณีเจ้าหน้าที่ไทยล่วงละเมิดผู้ลักลอบเข้าเมือง ที่ จ.จันทบุรี มองว่า ไม่มีมูล เป็นเจตนาร้าย พร้อมยืนยัน ไทยยึดมั่นตามกฎหมายสากล-สิทธิมนุษยชน และขอย้ำอีกว่า ไทย แยกเจรจาการค้าภาษีสหรัฐฯ ออกจากความมั่นคงฯ ขออย่านำ 2 เรื่องไปเชื่อมโยงกัน

 

โดยวันนี้ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยความคืบหน้าสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา หลังคณะผู้สังเกตการณ์ AOT ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายน ทั้งที่ห้วยตามาเรีย จ.ศรีสะเกษ บ้านหนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี และที่ปราสาทคนา จ.สุรินทร์ พบ “ทุ่นระเบิดใหม่” ในหลายจุดเสี่ยง ขณะที่ไทยเปิดพื้นที่ให้ตรวจสอบ อย่างโปร่งใส เพื่อสร้างความเข้าใจต่อประชาคมโลก

 

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่า ตลอดช่วงที่ผ่านมา ฝั่งกัมพูชายังคงใช้ “สงครามข้อมูลข่าวสาร (Information Warfare)” ผ่านการเผยแพร่ข่าวปลอมและกล่าวหาไทยอย่างต่อเนื่อง ทั้งการกล่าวหาว่าทหารไทย เตรียมโจมตีพื้นที่ธมอดา–โอพลุกด็อมเร็ย ในวันที่ 18 พฤศจิกายน และการกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ไทยใช้ความรุนแรงต่อผู้ลักลอบเข้าเมืองที่จันทบุรี

 

ซึ่งการตรวจสอบทุกหน่วยงานชี้ชัดว่า “ไม่เป็นความจริง” ดังนั้น ไทยไม่ให้ค่าในข้อกล่าวหาดังกล่าว เพราะข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูล มีเจตนาร้าย พร้อมยืนยันว่า การปฏิบัติต่อผู้หลบหนีเข้าเมืองเป็นไปตามกฎหมาย มีสักขีพยานกำกับทุกขั้นตอน และยึดหลักสิทธิมนุษยชน

 

โดยขอประณามข้อมูลบิดเบือนที่มีเป้าหมายทำลายความน่าเชื่อถือของฝ่ายไทย พร้อมขอให้สื่อและประชาชนตรวจสอบข้อมูลจากแหล่งข่าวทางการ เพื่อไม่ตกเป็นเหยื่อสงครามข้อมูลที่กำลังปะทุรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ

 

นายนิกรเดช ยังระบุถึง การประสานงานระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ภายหลังการหารือระหว่างนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เมื่อ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ด้วยว่า ล่าสุด เมื่อวานนี้ (18 พ.ย.) นายกรัฐมนตรี มีหนังสือ 1 ฉบับ ถึง นายโดนัลด์ ทรัมป์ ย้ำถึงการละเมิดข้อตกลง (Joint Declaration) ของกัมพูชา โดยขอให้กัมพูชาไม่ขัดขวาง การปฎิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดของไทย และแสดงความจริงใจที่จะปฏิบัติตาม และกลับสู่เส้นทางสันติภาพร่วมกับไทย

 

โดยท่าทีของไทยกับการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ยังคงเป็นเหมือนเดิม เพราะเป็นการแยก 2 ประเด็นนี้ ออกจากกัน คือ ประเด็นความมั่นคงและเรื่องการค้า ที่สำคัญฝ่ายไทยไม่เห็นด้วยกับการผูกสองเรื่องนี้ไว้ด้วยกัน แต่หากสหรัฐฯ จะมีบทบาทที่สร้างสรรค์ในเรื่องนี้ ก็ขอให้สหรัฐฯ กดดันกัมพูชาให้ปฏิบัติตามข้อตกลง อย่างเคร่งครัดด้วย และขอให้มั่นใจว่า หน่วยงานไทยทุกหน่วยงานจะดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อปกป้องไทยทุกมิติ

 

 

ขณะกรณีที่สหรัฐฯ ประกาศจะลดภาษี 2% ตามที่นายกฯ ให้สัมภาษณ์นั้น ซึ่งมีการเอาเรื่องความมั่นคงมาโยงกับการเจรจาภาษี นายนิกรเดช ยืนยันว่าเรื่องนี้เราไม่ได้เป็นคนเริ่ม เราไม่เห็นด้วยเกี่ยวกับการโยงอะไรทั้งนั้น การเจรจาการค้าเป็นเรื่องบวกทั้งสหรัฐฯ และไทย แต่เมื่อมีการพูดขึ้นมาว่าเราละเมิด และหากเราละเมิดก็จะกระทบการเจรจาการค้า เราจึงตอบตามโจทย์ที่มีการโยง แต่เราไม่ต้องการโยง

 

 

และนายกฯ ยืนยันว่า ทั้งสองเรื่อง แยกออกจากกัน แต่ถ้าประเทศไหนต้องการโยงเรื่องนี้ มองว่า ควรจะกดดัน จะรู้สึกขอบคุณมากกว่า หากจะเล่นบทสร้างสรรค์ ก็ไปกดดันประเทศที่ละเมิด นั่นคือท่าทีของไทย ซึ่งสหรัฐฯไม่ได้รับปาก เพียงแต่บอกว่าจะไปคุยให้

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube