Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

“อนุทิน” ขอเปิดศึกใหญ่ ล้างบางสแกมเมอร์ทั่วประเทศ

วันนี้ ที่ห้องประชุมแจ้งยอดสุข อาคารศูนย์ฝึกอบรมตรวจคนเข้าเมือง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานแถลงข่าว ผลการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

 

ภายใต้แนวคิด“รวมพลังคนไทย ต้านภัยสแกมเมอร์” (United Thailand Against Scammers) โดยมีหน่วยงานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนผู้แทนจากหน่วยงานรัฐ เอกชน และสถาบันการเงิน ที่ต่างมุ่งมั่นร่วมกันขจัดภัยสแกมเมอร์ให้หมดสิ้นก่อนเริ่มการแถลงข่าว นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชม การทำงานของศูนย์ปฏิบัติการ Anti Scam Warroom

 

ซึ่งเป็นศูนย์กลางประสานข้อมูลด้านการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ พร้อมพูดคุยให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติการ และผู้เสียหายจากคดีหลอกลวงทางออนไลน์ ที่สามารถติดตามทรัพย์สินคืนมาได้สำเร็จ

 

สำหรับผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรมทางเทคโนโลยีทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 27 ตุลาคม ถึง 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา รวมระยะเวลา 13 วันเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้กว่า 7,000 คดี รวม 7,174 คน ตรวจยึดซิมการ์ดผีและบัญชีม้าเกือบ 800 ราย

 

พร้อมทลายโกดังเชื่อมโยงเครือข่ายหลอกขายสินค้าออนไลน์ตัดวงจรซิมสายเสาตามแนวชายแดนกว่า 1,600 จุดและปิดกั้นเว็บไซต์ แพลตฟอร์ม รวมถึงสื่อออนไลน์ที่เกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์ จำนวนมากรวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้กว่า 41 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีการคืนเงินให้ผู้เสียหายตามโครงการ Money Cash Back

 

โดยในวันนี้ มีผู้เสียหาย 33 ราย เดินทางมารับเงินคืน รวมมูลค่ากว่า 15 ล้านบาทและนับตั้งแต่เริ่มโครงการเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาสามารถคืนเงินให้ผู้เสียหายแล้วกว่า 322 ราย รวมมูลค่ากว่า 312 ล้านบาท

 

นายอนุทิน กล่าวระหว่างการแถลงว่าการปราบปรามสแกมเมอร์ครั้งนี้ เป็นการประกาศจุดยืนของรัฐบาลอย่างชัดเจนว่า “ประเทศไทยจะไม่ยอมให้ขบวนการหลอกลวงออนไลน์มาทำร้ายประชาชนอีกต่อไป” พร้อมยกระดับการแก้ปัญหาเป็น “วาระแห่งชาติ”

 

โดยจัดตั้งคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานและได้ลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกับกว่า 15 หน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน
และสถาบันการเงินเพื่ออุดช่องโหว่ระบบการเงิน ป้องกันการฟอกเงิน และตัดเส้นทางการเงินของเครือข่ายอาชญากรรมให้สิ้นซาก

 

นายกรัฐมนตรีกล่าวย้ำว่า หากพบเจ้าหน้าที่รัฐหรือนักการเมืองเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง รัฐบาลจะดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด ไม่มีข้อยกเว้น พร้อมให้ความคุ้มครองกับผู้ที่กล้าเปิดเผยข้อมูลเพราะการแก้ปัญหานี้จะเกิดผลได้ ก็ต่อเมื่อทุกคนร่วมมือกันอย่างจริงจัง

 

ด้าน พลตำรวจโท จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รายงานเพิ่มเติมว่าข้อมูลจากสถิติทั่วโลกพบว่า ความเสียหายจากอาชญากรรมสแกมเมอร์สูงถึง 1.03 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับประเทศไทย มีคดีอาชญากรรมออนไลน์สะสมกว่า หนึ่งล้านเคส สร้างความเสียหายรวมกว่า หนึ่งแสนล้านบาท

 

โดยเฉพาะในรอบปีที่ผ่านมา เกิดคดีใหม่กว่า 300,000 เคส หรือเฉลี่ยวันละกว่า 1,000 เคสสร้างความเสียหายไม่ต่ำกว่า 70 ล้านบาทต่อวันรัฐบาลจึงเดินหน้าเร่งรัดทุกมาตรการ ทั้งการปิดกั้นเว็บไซต์เถื่อน

 

เพิ่มประสิทธิภาพการติดตามเส้นทางการเงินและสร้างความรู้เท่าทันให้ประชาชน ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของขบวนการมิจฉาชีพออนไลน์เพราะ “ภัยสแกมเมอร์” ไม่ได้เป็นเพียงอาชญากรรมไซเบอร์ธรรมดา แต่คือภัยที่คุกคามความมั่นคงของเศรษฐกิจ และความปลอดภัยของประชาชนทุกคน

 

นายกรัฐมนตรีปิดท้ายด้วยการเชิญชวนให้คนไทยทุกภาคส่วนร่วมมือกันเป็นหูเป็นตา แจ้งเบาะแส และไม่ส่งต่อ ข้อมูลหลอกลวงเพื่อให้ประเทศไทยก้าวสู่สังคมดิจิทัลที่ปลอดภัย โปร่งใส และเป็นธรรมเพราะนี่…ไม่ใช่เพียง “ภารกิจของเจ้าหน้าที่รัฐ”

 

แต่คือ “ภารกิจของคนไทยทั้งประเทศ”ที่จะ “รวมพลังคนไทย ต้านภัยสแกมเมอร์”และนำพาประเทศไทยก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและปลอดภัย

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube