เพื่อไทย แพ้ “น้ำเงิน” อีกแล้ว สะทือนเป้า 200 ที่นั่งไหม?
จากผลเลือกตั้งซ่อม กาญจบุรี เขต 4 “วิสุดา วิเชียรศิลป์” จากภูมิใจไทย “ลูกสาวของ” ศักดิ์ดา ” อดีต สส.เพื่อไทยที่แปรพักตร์ คว้าชัยชนะเหนือ ผู้สมัครจากค่ายสีแดง แบบขาดลอยกว่า 17,000 คะแนน
นับเป็นการปราชัยของ”เพื่อไทย” 2 สนามรวด ต่อ”สีน้ำเงิน” ถัดจากสนามศรีสะเกษ เขต 5 เมื่อปลายเดือนก่อน เป็นความพ่ายแพ้ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับจากเปลี่ยนสถานะมาเป็นฝ่ายค้าน และกระแสของพรรคที่ตกอย่างรุนแรง
จากประเด็นคลิปเสียง”อังเคิลฮุนเซน” การแก้ปัญหาชายแดน จนทำให้ สส.ของพรรคหลายคนกระโดดหนีไปขึ้นเรือลำอื่น จนเพื่อไทยต้องประกาศแคมเปญ เพื่อหยุดพลังดูด จัดแถว สส.ใหม่เพื่อเตรียมความพร้อม
“นายกฯอนุทิน ชาญวีรกุล” ผู้นำภูมิใจไทย พูดอย่างมั่นใจ ชัยชนะทั้ง 2 สนาม มาจากนโยบาย และการทำงานของพรรคภูมิใจไทยได้รับความเชื่อมั่นจากพี่น้องประชาชน จะพยายามทำงานให้มากที่สุด ให้ดีที่สุด ในขณะที่ “อดีตนายกฯแพทองธาร ชินวัตร” ผู้นำเพื่อไทย ระบุ “แม้ผลการเลือกตั้งจะไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง แต่ทุกเสียงคือกำลังใจอันมีค่า ที่จะผลักดันให้เดินหน้าทำงานเพื่อประชาชนอย่างไม่หยุดยั้ง”
จากสัญญาณ ที่ผู้นำของทั้ง 2 พรรคส่งออกมา หลังจบศึกเลือกตั้งกาญจนบุรี เปรียบเป็นสัญญาประชาคมว่า ทั้งภูมิใจไทย และเพื่อไทย จะมุ่งมั่นทำงานเพื่อประชาชน โดยมีเป้าหมายสำคัญอยู่ที่การเลือกตั้งใหญ่ที่จะมีขึ้นในต้นปี 2569 ให้ประชาชนได้ตัดสินใจกันอีกครั้ง
“ค่ายสีแดง” ทยอยเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ไปแล้วกว่า 200 คน ทั้งหน้าเก่า หน้าใหม่ เรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อย สู้กับกระแสพลังดูดของภูมิใจไทย และกล้าธรรม “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” แม่ทัพใหญ่ ในตำแหน่งผอ.เลือกตั้งเพื่อไทย ประกาศชัดเจน เป้าหมายอยู่ที่ 200 ที่นั่ง เพื่อกลับมาเป็นรัฐบาล สานต่อนโยบาย และอีกหลายโครงการที่ยังคั่งค้าง พร้อมกับประเมินว่าคู่แข่งสีน้ำเงิน คงได้แต่ 120-130 ที่นั่งเท่านั้น
ส่วน “พรรคส้ม” คู่ปรับสำคัญ กระแสตก น่าจะเหลือไม่ถึง 100 แต่จากผลเลือกตั้งซ่อม 2 สนามล่าสุด “พรรคแดง” กลับแพ้น้ำเงิน แบบราบคาบทั้งที่เป็นพื้นที่ของตัวเอง ก็สะเทือนไปถึงพรรคเพื่อไทยว่า สิ่งที่”สุริยะ”คาดหวัง จะยังคงมีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด การเสียฐานที่มั่นในศรีสะเกษ และ กาญจนบุรี
สนามเลือกตั้งซ่อม เพื่อไทย ต้องปรับยุทศาสตร์ ในการสู้กับค่ายน้ำเงินอย่างไร ถือเป็นโจทย์ใหญ่ ที่ “แพทองธาร และ สุริยะ” ต้องประเมิน หากยังหวังจะกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง
“ชลน่าน ศรีแก้ว” อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พูดเอาไว้ค่อนข้างน่าสนใจ เพื่อไทยมาถึงจุดนี้มีอย่างน้อย 3 องค์ประกอบ ที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของพรรคอย่างชัดเจน
1.ต้องยอมรับว่าการขับเคลื่อนพรรค และรัฐบาล ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ยังไม่ได้ตอบโจทย์ หรือไม่เป็นที่พึงพอใจของประชาชน
2.ปัจจัยภายนอกทั้งมิติเศรษฐกิจ ความมั่นคง สังคม และการเมืองระหว่างประเทศ ซึ่งมีผลสำคัญมาก
3. นิติสงคราม และรัฐธรรมนูญ ซึ่งส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
อย่างไรก็ตาม การที่ “น้ำเงินชนะแดง” 2 สนามติดต่อกัน ก็ยังไม่ใช้คำตอบไปเสียทั้งหมด ว่าเลือกตั้งใหญ่ ผลจะออกมาเป็นแบบนี้ เพราะเลือกตั้งใหญ่ มีตัวแปรหลายปัจจัย แถมตัวเลือกแต่ละพื้นที่ก็ไม่ได้มีแค่ 2 พรรค
ประกอบกับสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน ก็ได้ไม่มีแค่ 3 ก๊ก “แดง-น้ำเงิน-ส้ม” อย่างที่หลายคนวิพากษ์วิจารณ์ เพราะยังมีพรรคการเมืองใหม่ๆ รวมถึงพรรคเก่าๆ ที่พยายามฟื้นฟู ก็พร้อมกลับเป็นทางเลือกให้กับประชาชนเช่นกัน
การที่พรรคแดง แพ้น้ำเงิน 2 ยก คงไม่กระเทือนเป้าหมาย 200 ที่นั่งมากนัก แต่ต้องปรับกลยุทธ์ ในการต่อสู้ใหม่ เพื่อไปให้ถึงเป้าที่วาดหวังเอาไว้ คงไม่ “แพ้แล้ว แพ้อีก แพ้ต่อไป”หรอกมั้ง แต่เพื่อไทย จะกลับมาสู้สีน้ำเงิน และส้ม ได้อย่างไร ในสนามเลือกตั้งใหญ่ต้นปีหน้า ยังคงต้องหาคำตอบกันต่อไป กับเวลาที่มีไม่ถึง 4 เดือน ตามที่ “นายกฯอนุทิน” ประกาศไว้ว่าจะยุบสภา…
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





