ย้อนคดี “ลิม กิม ยา” ถูกลอบสังหารในไทย สะท้อนความเหิมเกริมผู้นำกัมพูชา

เหตุการณ์อุกอาจ ที่สร้างแรงสั่นสะเทือนต่อทั้งสังคมไทยและเวทีการเมืองระหว่างประเทศ ในคดีลอบสังหาร นายลิม กิมยา นักเคลื่อนไหวทางการเมืองกัมพูชา ผู้เป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย และยืนหยัดต่อต้านระบอบเผด็จการของ ฮุน เซน มาอย่างยาวนาน

พร้อมกับคำถามที่ว่า มันคือความเสี่ยงที่นักเคลื่อนไหวทางการเมืองในภูมิภาคอาเซียนต้องเผชิญ แม้ในดินแดนที่ควรเป็น “พื้นที่ปลอดภัย”

 

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 ม.ค. 2568 นายลิม กิม ยา ถูกคนร้ายลอบยิง บริเวณตรงข้ามวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร ถนนบวรนิเวศน์ แขวงวัดบวรนิเวศ เขตพระนคร กทม. ขณะที่เขาเพิ่งเดินทางด้วยรถบัสจากกัมพูชา มาถึงประเทศไทย พร้อมกับภรรยาชาวฝรั่งเศส

 

หลังเกิดเหตุตำรวจสืบสวนจนกระทั่ง ขอศาลออกหมายจับ คนร้ายที่ก่อเหตุยิง คือ “เอกลักษณ์ แพน้อย” หรือ จ่าเอ็ม อายุ 41 ปี อดีตทหารเรือ ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พกอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และติดตามจับกุมตัวได้ ขณะหลบหนีอยู่ที่ จ.พระตะบอง ประเทศกัมพูชา และนำตัวกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย

 

ทั้งนี้ จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ ทราบว่า กลุ่มผู้ร่วมก่อเหตุ ได้ติดตาม นายลิมกิมยา มาตั้งแต่อยู่ที่ประเทศกัมพูชา ต่อเนื่องมาจนถึงการขึ้นรถบัสมาในคันเดียวกันจาก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จนมาถึงตรงข้ามวัดบวร ถนนข้าวสาร กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นจุดยิง โดยมี นายพิช กิมสริน เป็นคนชี้เป้า ส่งสัญญาณให้ จ่าเอ็ม เข้าประกบยิงในระยะประชิดตัว

 

คดีนี้ผ่านมากว่า 10 เดือน กระทั่งศาลอาญา ได้มีคำพิพากษา ประหารชีวิต จ่าเอ็ม แต่จำเลยให้การรับสารภาพ จึงลดโทษเหลือโทษจำคุกตลอดชีวิต แม้จะมีคำพิพากษา ออกมาแล้ว แต่ทางครอบครัวของ นายลม กิม ยา เอง ยังมีข้อสงสัยของผู้สั่งการ

 

โดยเฉพาะ นางแอน-มารี ลิม ภรรยาชาวฝรั่งเศสของนายลิม กิมยา ที่ระบุว่า ต้องการทราบเหตุผลของอาชญากรรมนี้ และใครคือคนสั่งการ นั่นคือสิ่งที่ต้องการทราบมากที่สุด” เพราะ สามีของเธอคิดเพียงแต่จะทำความดีและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ชาวกัมพูชา “นั่นคือสาเหตุที่เขาอยู่ฝ่ายค้าน”

 

สำนวนการสืบสวน มีการระบุชื่อของ นายลี รัตนรัศมี มีชื่อไทยว่า นายสมหวัง บำรุงกิจ ที่ถูกระบุเป็นผู้จ้างวาน และ มีนายพิช กิมสริน คนชี้เป้า ยังไม่ถูกจับตัวแต่ถูกออกหมายจับเป็นหมายแดงของตำรวจสากล

 

เมื่อตรวจสอบ ข้อมูลเบื้องหลังของ นายลีรัตนรัศมี หรือนายสมหวัง บำรุงกิจ พบว่าสื่อต่างชาติเคยให้ข้อมูลว่าเกี่ยวข้องกับคนใกล้ชิด นายฮุนเซน ตามรายงานแม้ในระยะแรกนายลี รัตนรัศมี จะมีทัศนคติทางการเมืองอยู่คนละฝั่งกับฮุนเซน แต่ภายหลัง เปลี่ยนใจ มีช่วงระยะหนึ่ง เขาเคย หลบหนีเข้ามาอยู่ในประเทศไทย ถือบัตรประจำตัวคนไม่มีสัญชาติไทย หรือ บัตรชมพู

 

ในชื่อ สมหวัง บำรุงกิจ เคยทำงานเป็น พนักงาน รปภ. จากลักษณะเป็นคนกว้างขวางสามารถเปิดบริษัทร่วมกับคนไทย จัดหาคนทำมาทำงานใน จ.ชลบุรี และที่นี่เขาได้รู้จัก “จ่าเอ็ม” ส่วนจำเลยอีกคน คือนายพิช กิมสริน มีข้อมูลว่าเป็นคนในครอบครัวนักการเมืองในกัมพูชา ระดับทายาทของผู้ว่ากรุงพนมเปญทำให้ปมการสั่งสังหารนายลิม ยังเป็นปมเห็นต่างทางการเมือง

 

อีกหนึ่งข้อมูลที่น่าสนใจว่า การเสียชีวิตของนายลิม กิม ยา ที่ประเทศไทยนั้น อาจจะมาจากใบสั่งทางการเมืองในกัมพูชา หลังจากเพจ CSI LA เปิดเผยคลิปเสียง โดยอ้างอิงจาก สำนักข่าว Al Jazeera แฉคลิปเสียงหลุด! ฮุนเซน สั่ง “นายฮวด” ไล่ล่าคนเห็นต่างในไทย ไม่สนว่าจับได้จะ “เป็นหรือตาย

 

ฉะนั้น การที่คนร้ายเลือกที่จะลงมือสังหารคนที่เห็นต่างทางการเมือง ไม่ว่าจะอยู่ที่ประเทศไหน ก็อาจเป็นการส่งสัญญาณเชิงข่มขู่ ผู้เห้นต่างคนอื่น ว่า แม้จะหลบหนีออกนอกประเทศ ก็ไม่อาจรอดพ้นการตามล่า การก่อเหตุในต่างแดนยังสะท้อนถึงความเหิมเกริมของผู้มีอำนาจในประเทศเพื่อนบ้าน ที่พร้อมจะละเมิดอธิปไตยของรัฐอื่น เพื่อกำจัดศัตรูทางการเมืองของตัวเอง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews