Home
|
ข่าว

สวีเดน ห่วงไทย–กัมพูชา ใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์

Featured Image
สวีเดน ห่วงไทย–กัมพูชา ใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์ “มาริษ” เตรียมหยิบยกหารือเวที UN เจนีวา ขณะ “ไทย-สวีเดน” ยกระดับสัมพันธ์สู่หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ เดินหน้าความร่วมมือรอบด้าน สะท้อนมิตรภาพยาวนาน

 

นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยภายหลังหารือทวิภาคีกับนางมารีอา มัลเมอร์ สเตเนอร์การ์ด รมว.ต่างประเทศสวีเดน ระหว่างการเยือนสวีเดนอย่างเป็นทางการ ว่า ได้ชี้แจงถึงสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา โดยเฉพาะการยั่วยุด้วยการใช้พลเรือนเป็นเครื่องมือในพื้นที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ซึ่งถือเป็นการละเมิดกฎบัตรสหประชาชาติ และเข้าข่ายการใช้ “โล่มนุษย์” อันไม่ควรกระทำอย่างยิ่ง

 

นายมาริษระบุว่า การใช้พลเรือนเข้ามาเกี่ยวข้องทำให้การทำงานของฝ่ายทหารซับซ้อน เสี่ยงสร้างความตึงเครียดเพิ่มขึ้น พร้อมย้ำว่าหน่วยงานพลเรือนต้องเข้ามาดูแลใกล้ชิด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการปะทะ พร้อมเผยว่าในการประชุม UN ที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ วันที่ 27 ส.ค.นี้ ไทยจะหยิบยกประเด็นดังกล่าวเพื่อนำเสนอความห่วงกังวลต่อเวทีนานาชาติ

 

สำหรับความสัมพันธ์ไทย–กัมพูชา นายมาริษย้ำว่า ยังไม่ส่งทูตไทยกลับไปประจำพนมเปญ จนกว่ากัมพูชาจะแสดงความจริงใจในการแก้ปัญหา เนื่องจากแม้ไม่มีการปะทะทางทหาร แต่ยังคงมีการใช้พลเรือน มากดดันชายแดน ซึ่งบั่นทอนความเชื่อมั่นระหว่างประเทศ

 

ส่วนการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย–กัมพูชา (JBC) ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพเดือนหน้า มีเป้าหมายเพื่อกำหนดแนวทางการเจรจาเรื่องเขตแดน ลดความตึงเครียด และย้ำถึงการปฏิเสธการใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือสร้างแรงกดดัน

 

นายมาริษทิ้งท้ายว่า ไทย–กัมพูชาเปรียบเสมือน “คนในครอบครัว” แม้มีการกระทบกระทั่งในประวัติศาสตร์ แต่สุดท้ายต้องอยู่ร่วมกัน เป้าหมายของรัฐบาลไทยคือการหาทางออกด้วยสันติวิธี เพื่อให้คนรุ่นหลังอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข

 

ขณะเดียวกัน นายมาริษ เปิดเผยด้วยว่า การหารือทวิภาคีกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสวีเดน ในโอกาสการเยือนอย่างเป็นทางการ โดยทั้งสองฝ่ายได้ร่วมลงนามใน เอกสารยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคี สู่การเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์อย่างเป็นทางการ ถือเป็นหมุดหมายสำคัญในประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ไทย-สวีเดน

 

การหารือครั้งนี้ครอบคลุมหลากหลายมิติ ทั้ง ความร่วมมือด้านเทคโนโลยีป้องกันประเทศ นวัตกรรม สตาร์ทอัพ การจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืน พลังงานสีเขียว รวมถึงการส่งเสริมการค้าและการลงทุน โดยเฉพาะการเร่งรัดเจรจา FTA ไทย-อียู และการผลักดันยกเว้นวีซ่าเชงเกนให้แก่ผู้ถือหนังสือเดินทางไทย อีกทั้งยังมีการแลกเปลี่ยนมุมมองต่อสถานการณ์ในภูมิภาคและระหว่างประเทศ

 

นายมาริษ ระบุว่า ความสัมพันธ์ไทย-สวีเดนถือเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์มานานแล้ว การลงนามครั้งนี้เป็น “สัญลักษณ์” ที่สะท้อนถึงความร่วมมือที่เกิดขึ้นจริง ไม่ว่าจะเป็นด้าน การศึกษา การผลิตที่ใช้เทคโนโลยี และความร่วมมือในภาคเอกชน พร้อมย้ำว่าความสัมพันธ์ทางยุทธศาสตร์จะต้องขับเคลื่อนไปสู่การปฏิบัติที่จับต้องได้

 

นอกจากนี้ ไทยยังได้ใช้โอกาสนี้ ชี้แจงต่อรัฐบาลสวีเดนถึงสถานการณ์ตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา โดยยืนยันว่าไทยปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศและกฎบัตรสหประชาชาติอย่างเคร่งครัด พร้อมระบุว่ากัมพูชามีพฤติกรรมละเมิดข้อตกลงหยุดยิง และใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์ ขัดต่ออนุสัญญาเจนีวา

 

ทั้งนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศไทย เปิดเผยว่า รัฐบาลสวีเดนชื่นชมการดำเนินการของไทย โดยเฉพาะหลังจากการลงนามซื้อเครื่องบินขับไล่กริฟเพน ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของสวีเดนว่าการปฏิบัติการ ทางทหารของไทยเป็นไปตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ เพื่อปกป้องอธิปไตยและยับยั้งการรุกราน

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube