Home
|
ไลฟ์สไตล์

รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เปิดลงทะเบียนแล้ว! สรุปทุกเรื่องที่ควรรู้

Featured Image

รถไฟฟ้า 20 บาท เริ่มลงทะเบียนได้แล้ว ลงยังไง บัตรอะไรใช้ได้บ้าง มีสายไหนบ้าง

           นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เป็นอีกหนึ่งนโยบายที่ผู้คนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางลงได้มาก และเนื่องจากนโยบายดังกล่าวกำลังจะกลายเป็นความจริง ในวันนี้ INN จึงได้รวบรวมข้อมูลสำคัญมาอย่างครบถ้วน เพื่อให้พร้อมสำหรับการลงทะเบียนรถไฟฟ้า 20 บาท

 

รถไฟฟ้า 20 บาท

รถไฟฟ้า 20 บาท เริ่มวันไหน มีเงื่อนไขอะไรบ้าง

          รถไฟฟ้า 20 บาท จะเปิดให้ลงทะเบียนในวันที่ 25 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป ตั้งแต่เวลา 00.00 โดยไม่จำกัดจำนวนสิทธิ์ และจะเปิดให้ใช้บริการจริงวันที่ 1 ตุลาคม 2568 อย่างไรก็ตาม รถไฟฟ้า 20 บาท ยังมีเงื่อนไขต่าง ๆ ดังนี้

  • เฉพาะบุคคลธรรมดา สัญชาติไทยเท่านั้น
  • ต้องมีเลขบัตรประชาชน 13 หลัก
  • ต้องมีบัตรโดยสารรถไฟฟ้าที่ใช้อยู่ปัจจุบัน

 

วิธีลงทะเบียน รถไฟฟ้า 20 บาท

          สำหรับวิธีการลงทะเบียน รถไฟฟ้า 20 บาท จะต้องลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้งระบบ Android และ IOS โดยมีขั้นตอน ดังนี้

  • ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ลงในสมาร์ทโฟน
  • เข้าสู่ระบบแอปทางรัฐ และเลือกลงทะเบียนรถไฟฟ้า 20 บาท กรอกหมายเลขบัตรประชาชน 13 หลัก และดำเนินการตามขั้นตอนจนครบถ้วน
  • ระบบจะให้ผูกบัตรโดยสารกับบัตรรถไฟฟ้าที่ใช้อยู่ปัจจุบัน เพื่อใช้ชำระค่าโดยสาร
  • เมื่อผูกบัตรสำเร็จ บัตรดังกล่าวจะสามารถใช้สิทธิ์รถไฟฟ้า 20 บาทได้ทันที และในวันที่ 1 ตุลาคม 2568 สามารถนำบัตรมาใช้บริการเมื่อขึ้นรถไฟฟ้า 

 

รถไฟฟ้า 20 บาท

 

รถไฟฟ้า 20 บาท ต้องใช้บัตรอะไร

          อีกหนึ่งคำถามที่หลายคนสงสัยคือ รถไฟฟ้า 20 บาท ต้องใช้บัตรอะไร เนื่องจากรถไฟฟ้า 20 บาท จะครอบคลุมทั้ง BTS และรถไฟฟ้าสายอื่น ๆ เพื่อให้เดินทางข้ามสายได้อย่างราบรื่น จึงสามารถใช้บัตรที่แตกต่างกันตามระบบรถไฟฟ้าแต่ละเส้นทาง ดังนี้

  • บัตร Rabbit Card: บัตร Rabbit Card สำหรับขึ้น BTS สามารถใช้ลงทะเบียนรับสิทธิ์รถไฟฟ้า 20 บาทได้ 
  • บัตร EMV (บัตรเครดิต/บัตรเดบิต): เป็นบัตร Visa และ Mastercard ใช้แตะจ่ายของทุกธนาคาร ซึ่งจะมีสัญลักษณ์ Contactless คล้ายรูปคลื่นบนบัตร สามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์รถไฟฟ้า 20 บาทได้
  • บัตร Mangmoom EMV: บัตรแมงมุม เป็นบัตรที่ใช้แทนบัตรเครดิต หรือบัตรเดบิต โดยสามารถซื้อได้ที่ห้องจำหน่ายตั๋วโดยสารสถานีรถไฟฟ้า MRT
  • บัตร MRT Plus: สำหรับบัตร MRT Plus สามารถนำไปลงทะเบียนรับสิทธิ์รถไฟฟ้า 20 บาทได้เช่นเดียวกัน
  • บัตร ARL: สำหรับแอร์พอร์ตเรลลิงก์ สามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์รถไฟฟ้า 20 บาทได้

 

บัตรรถไฟฟ้า 20 บาท

 

รถไฟฟ้า 20 บาท มีสายไหนบ้าง

           เพื่อให้เข้าใจเส้นทางรถไฟฟ้า 20 บาท และสามารถเดินทางได้สะดวกยิ่งขึ้น สามารถดูเส้นทางที่เข้าร่วมโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทได้ ดังนี้

  • รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง: เส้นทาง กรุงเทพอภิวัฒน์ – รังสิต และ กรุงเทพอภิวัฒน์ – ตลิ่งชัน 
  • รถไฟฟ้าสายสีม่วง (MRT): สายฉลองรัชธรรม
  • รถไฟฟ้าสายสีชมพู: แคราย – มีนบุรี
  • รถไฟฟ้าสายสีเหลือง: ลาดพร้าว – สำโรง
  • BTS สายสีเขียว: สถานีคูคต -สถานีเคหะฯ
  • MRT สายสีน้ำเงิน: ครอบคลุมทั้ง 3 ช่วงหลัก ได้แก่ ช่วงหัวลำโพง – บางซื่อ, ช่วงหัวลำโพง – บางแค และช่วงบางซื่อ – ท่าพระ
  • รถไฟฟ้าสายสีทอง: ครอบคลุมทั้ง 3 สถานี ได้แก่ สถานีกรุงธนบุรี สถานีเจริญนคร และสถานีคลองสาน

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

รถไฟฟ้า 20 บาท หมดเขตเมื่อไหร่?

          รถไฟฟ้า 20 บาท สามารถลงทะเบียนได้เรื่อย ๆ หลังจากวันที่ 25 สิงหาคม 2568 จนกระทั่งรถไฟฟ้า 20 เปิดให้บริการ ก็ยังสามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้

รถไฟฟ้า 20 บาท เดินทางข้ามสาย จ่ายเพิ่มไหม?

          รถไฟฟ้า 20 บาท สามารถเปลี่ยนสายได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ผู้ที่เดินทางข้ามสายอาจต้องพกบัตร 2 ใบ แต่จะถูกเรียกเก็บค่าโดยสารเพียง 20 บาทเท่านั้น

ผู้สูงอายุ ได้ส่วนลดเพิ่มเติมจากลดไฟฟ้า 20 บาทไหม? 

          รถไฟฟ้า 20 บาท ผู้สูงอายุจะไม่ได้รับส่วนลดเพิ่มเติม แต่จะได้รับสิทธิพิเศษเช่นเดียวกับผู้โดยสารทั่วไป คือมีค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสาย

 

สรุปข้อมูลรถไฟฟ้า 20 บาท

          รถไฟฟ้า 20 บาท เป็นนโยบายที่จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายลงได้มาก สำหรับใครที่สนใจรับสิทธิ์​ แนะนำให้ติดตามข้อมูลและอัปเดตล่าสุดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่พลาดโอกาสในการเดินทางราคาประหยัด INN ยินดีเป็นตัวแทนในการนำข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วนอัพเดตให้คุณอย่างสม่ำเสมอ

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube