สตม.เร่งตรวจสอบเหตุฝ้าเพดานถล่ม ย้ำไม่กระทบโครงสร้าง
สตม.ชี้แจงกรณีฝ้าเพดานถล่มห้องประชุม เร่งตรวจสอบ-ย้ำไม่กระทบโครงสร้างอาคาร
จากกรณีที่มีข่าวเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับเหตุฝ้าเพดานถล่มในอาคารสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ล่าสุด สตม.ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงว่า เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2568 เวลา 09.00 น. ได้เกิดเหตุฝ้าเพดานถล่มภายในห้องประชุมชั้น 3 (ห้องแจ้งยอดสุข) อาคารศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรและสวัสดิการ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ถนนพระราม 1 เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า สาเหตุเกิดจากระบบคอนเดนเซอร์ (Condenser) ของเครื่องปรับอากาศทำให้น้ำหยดสะสมลงบนฝ้าเพดานเป็นเวลานาน ส่งผลให้วัสดุเปื่อยยุ่ย และน็อตยึดฝ้าไม่สามารถรับน้ำหนักได้ จนเกิดการพังถล่มลงมาในที่สุด
ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้สั่งการให้กองโยธาธิการตำรวจ ร่วมกับบริษัทผู้รับผิดชอบงานระบบ เข้าไปตรวจสอบความเสียหายอย่างละเอียดทั่วทั้งอาคาร เพื่อค้นหาจุดที่อาจมีการรั่วซึมหรือเสี่ยงเกิดเหตุซ้ำเพิ่มเติม ยืนยันว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างของอาคารแต่อย่างใด และขณะนี้อยู่ระหว่างการเร่งดำเนินการแก้ไขและตรวจสอบเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งานอาคารต่อไป
ดาาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีภาพและข้อมูลเผยแพร่ในโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับเหตุฝ้าอาคารศูนย์ฝึกอบรมสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พังถล่ม ว่า ตนได้รับรายงานเหตุการณ์ดังกล่าวจากผู้ใต้บังคับบัญชาทันทีที่เกิดเหตุ ก่อนที่เรื่องจะถูกเผยแพร่ผ่านโซเชียล
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า จุดที่เกิดเหตุอยู่บริเวณห้องประชุมชั้น 3 (ห้องแจ้งยอดสุข) ฝ้าเพดานถล่มลงมาบางส่วน โดยสาเหตุมาจากระบบคอนเดนเซอร์ (Condenser) ของเครื่องปรับอากาศทำให้น้ำหยดลงบนฝ้าเพดานสะสมเป็นเวลานาน จนเกิดการเปื่อยยุ่ยและพังถล่มลงมา ไม่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างของตัวอาคารแต่อย่างใด
ผบ.ตร. ระบุว่า อาคารดังกล่าวมีการใช้งานมาแล้วประมาณ 3 ปี และยังไม่มีการล้างเครื่องปรับอากาศ ทำให้เกิดการอุดตัน กรองอากาศสกปรก ส่งผลให้ลมออกจากเครื่องได้น้อย และความเย็นสะสมอยู่ในระบบท่อแอร์ (PID) จึงต้องเร่งดำเนินการเปลี่ยนฟิลเตอร์ และล้างแอร์อย่างน้อยทุก 6 เดือน
ทั้งนี้ ผบ.ตร.ได้สั่งการให้กองโยธาธิการ สำนักงานส่งกำลังบำรุง (สกบ.) ร่วมกับ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ตรวจสอบฝ้าเพดานของห้องประชุมทั้งหมด พร้อมเร่งดำเนินการบำรุงรักษาระบบแอร์ และขยายผลตรวจสอบจุดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบปรับอากาศทั่วทั้งอาคารอย่างละเอียด
“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างของอาคาร เป็นเรื่องของการดูแลรักษาระบบแอร์ที่ต้องใส่ใจให้มากขึ้น เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานอาคารต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
