“กับดักดีลลับ”- หลังพ.ค. “ทักษิณ-อิ๊งค์” อันตราย
“สัญญานการเมือง” ร้อนปะทุ ในห้วง2 เดือนจากนี้ ที่การเมืองและนักสังเกตการณ์ วิเคราะห์ตรงกันว่า เข้าโซน “อันตราย”กับไทม์ไลน์ที่โยงไปยังตัว “ผู้นำจิตวิญญาณเพื่อไทย”อย่าง “ทักษิณ ชินวัตร” ที่วันนี้ (27พ.ค.2568) ต้องสยบข่าวลือว่ารู้แกวไม่แคล้วจะไม่รอดจากคดี “คนชั้น14” ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงดำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนวันที่ 13มิ.ย. และอาจต้องกลับเข้าคุกยาว ทำให้มีการหลบหนีไปต่างประเทศผ่านช่องทางธรรมชาติของเพื่อนบ้านกัมพูชา
โดยวันที่ 27พ.ค. 2568 ทักษิณปรากฏตัว ในฐานะ “กุนซือประธานอาเซียน อันวาร์” มาบรรยาย เรื่องการแก้ไขปัญหายาเสพติด ที่ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่แพทยสภามีมติฟัน 3 หมอทำให้เขาเฟดตัวก้มต่ำดูทิศทางลม
ถึงแม้จะมีการมองอาการใจดีสู้เสือหรือมั่นใจอย่างที่นักข่าวถามตั้งแต่ แพทองธาร ชินวัตร ยืนยันว่า “พ่อไม่หนี” จนมาถึง “พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง” รมว.ยุติธรรม ที่เลี่ยงจะตอบว่าทักษิณ มีความั่นใจในคดีชั้น14 กับคำถาม การออกมาปรากฏตัวของนายทักษิณ ถือว่าเป็นความได้เปรียบในคดีวันที่ 13 มิ.ย.หรือไม่ ว่า ไม่มีประเด็นในเรื่องนี้ มีแต่เรื่องของประชาชน หากแต่ในทางการเมือง สถานการณ์ช่วงหลังเดือนพ.ค.68 ก็ถูกจับตา ว่า มีความสุ่มเสี่ยงที่จะเกิด “ความเปลี่ยนแปลง” หลังการพิจารณางบประมาณ 69 (28-31 พ.ค. 2568) ผ่านไป
แต่ในขณะเดียวกัน “คดีคนชั้น14” ในวันที่ 13มิ.ย.หากแต่ยังมีนัดของศาลอาญา ที่นัดสืบพยานคดีม.112ที่ทักษิณตกเป็นจำเลย ฝ่ายโจทก์ตั้งแต่วันที่ 1-3ก.ค. ฝ่ายจำเลย 15-23ก.ค. ก่อนทำการตัดสิน ไม่นับรวมปัญหาความขัดแย้งรุนแรงในรัฐบาลระหว่างค่ายแดง-น้ำเงิน เพื่อไทย-ภูมิใจไทยผ่าน“คดีฮั้วเลือกตั้งสว.” เกม “นิติสงคราม”ตอบโต้ที่เล่นแรงแบบเอาถึงตายทางการเมือง ลามถึงคนในครอบครัวและถึงขั้นจะยุบพรรคที่ถูกจับตา “เกมโต้” จากสีน้ำเงินวันที่ 30 พ.ค. ที่ “สว.สำน้ำเงิน” นอกจากจะไล่ “เช็คบิล”บรรด “นักร้อง”ยังมีรายงานการเร่งสปีดพิจารณา สรรหา“กรรมการในองค์กรอิสระ” 4-5องค์กร ที่ยังไม่ครบ อันส่งผลกระทบ อาจนำไปสู่การปรับครม. หรือ ความเปลี่ยนแปลงผู้นำรัฐบาล ไม่นับรวมสัญญานการลงถนนของม็อบไล่ทักษิณและรัฐบาล
สถานการดังกล่าวทำให้ผู้คนการเมือง เริ่มมีการกลับมาพูดถึงดีลลับการเมือง ที่เป็น “สารตั้งต้น”ในการกลับมาของ “ทักษิณ”ในช่วงปลายของ “รัฐบาลลุงตู่”ทำนองผ่านมาเกือบ2ปี มีข้อสรุปจาก “ผู้กุมดีล”ว่า “ทักษิณเอาท์”กับการ “แก้โจทย์ยากวิกฤติเศรษฐกิจ” ไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์เศรษฐกิจได้อย่างที่คาดหวัง ตั้งแต่ช่วง “รัฐบาลข้ามขั้ว”ที่ “เศรษฐา” เป็นนายกคนที่ 30 จนมาถึง “รัฐบาลอิ๊งค์”ทำให้เริ่มมีการมองถึง “ตัวเลือกใหม่”ที่จะเข้ามา “แก้โจทย์ประเทศ” ภายใต้การนำของ“พรรคสีน้ำเงิน” ภูมิใจไทย ที่ทำให้เกิดภาพ “ตายเป็นตายเจ๊งเป็นเจ๊ง”กับนิติสงครามคดี“ฮั้วเลือกตั้งสว.สีน้ำเงิน”ที่ลามมาถึงแกนนำพรรคภูมิใจไทย
สอดรับกับที่ “ธนาพล อิ๋วสกุล” บรรณาธิการบริหารสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน ผู้ที่อยู่ในกลุ่มใกล้ชิด “นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ประธานคณะก้าวหน้า เคยโพสต์ไว้ใน Facebook ก่อนหน้านี้โดยจั่วหัว“4 ดีลพิสดารของทักษิณ ชินวัตร ที่นำไปสู่ความพ่ายแพ้ทุกครั้ง”ประเมินว่าทุกดีลพิสดาร ของ “ทักษิณ”จะเริ่มต้นด้วยความสำเร็จแต่จบด้วยการถูก “หักหลัง”ทั้งสิ้น ไล่ตั้งแต่ ปี 2549 ทำดีลขายชินคอร์ปให้เทมาเซค ที่ จบลงด้วยม็อบพันธมิตรฯ“สนธิ ลิ้มทองกุล”และการรัฐประหาร 2549
ปี 2556 ทำดีลนิรโทษกรรมเหมาเข่ง อยากกลับบ้านแบบเท่ๆ แบบไม่ติดคุก ดันพ.ร.บ.เหมาแข่งแบบสุดซอย จนเกิดม็อบกปปส. ของ “ลุงกำนัน-สุเทพ เทือกสุบรรณ”และรัฐประหาร 22 พ.ค.57, ปี 2562 ทำดีลพิสดาร พรรคไทยรักษาชาติ ที่จบลงด้วยการถูก “ยุบพรรค” , ปี 2566 ทำดีลพิสดาร ตระบัดสัตย์ตั้งรัฐบาลข้ามขั้วถีบก้าวไกลออกรวมกับ “พรรค2ลุง” เพื่อแลกกับการกลับบ้านแบบไม่ติดคุกแม้แต่วันเดียว
ที่ถือว่าเป็นความเสียรู้เหมือนปี2557 เพราะหลังจากนั้น “เศรษฐา”ถูกสอย หลุดจากเก้าอี้ไปในปี 2567 และทำท่าว่า“อุ๊งอิ๊ง” ลูกสาว อาจจะมีชะตากรรมไม่ต่างกันในปี 2568 และว่า สุดท้าย ชะตากรรม ของ “ทักษิณ” แขวนบนเส้นด้ายอาจจะต้องกลับไปติดคุก ขณะที่ลูกสาว แม้จะไม่ติดคุกแต่ก็มีโอกาสถูกสอยจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรีสูงมาก เมื่อถึงเวลานั้น สส. พรรคเพื่อไทยจะกลายเป็นผึ้งแตกรังที่ทั้งหมดเริ่มมาจากความอหังการของ “ทักษิณ” ที่เชื่อว่าคุมเกมการเมือง ทุกอย่างไว้หมดแล้ว แต่สุดท้ายก็ถูกหลอกทุกครั้ง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
