Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

จำนำข้าว “ยิ่งลักษณ์” กับ อนาคตนโยบายพรรคการเมือง

22 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด สร้างแรงสั่นสะเทือนต่อการเมืองไทยครั้งสำคัญ เมื่อมีคำสั่งให้ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ชดใช้ค่าเสียหาย 10,028 ล้านบาท กรณีการระบายข้าวจีทูจี ในโครงการ “จำนำข้าว” ซึ่งเป็นการตัดสินขั้นสุดท้ายในคดีแพ่ง เกี่ยวกับความเสียหายโครงการนี้ และตามมาด้วยเสียงโอดครวญของอดีตผู้นำหญิง “หนี้ 10,000 ล้านบาท ชดใช้ทั้งชีวิต ยังไงก็ไม่มีวันหมด”

 

ในขณะ “นรวิชญ์ หล้าแหล่ง” ทนายความของ”ยิ่งลักษณ์” เล็งรื้อคดี “จำนำข้าว” ใหม่ จะยื่นหลักฐานใหม่ใน 90 วัน ถ้าชนะอาจทำให้อดีตนายกฯ ไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายแม้แต่บาทเดียว ส่วน “ศิริกัญญา ตันสกุล” รองหัวหน้าพรรคประชาชน ก็ตั้งคำถามว่า ความผิดที่ศาลปกครองสูงสุดใช้คำว่าประมาทเลินเล่อโดยร้ายแรง ตกลงแล้วต้องทำแค่ไหนจึงถือว่าไม่ประมาทเลินเล่อ และคำตัดสินนี้ส่งผลต่อการคิดนโยบายของพรรคการเมืองอย่างมีนัยยะสำคัญ

 

นโยบายรับจำนำข้าว เป็นนโยบายหาเสียงหลักของพรรคเพื่อไทยในปี 2554 โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือชาวนาด้วยการรับซื้อข้าวในราคาตันละ 15,000 บาท เพื่อให้เกษตรกรได้รับเงินสดทันที และลดภาระหนี้สิน 7 ตุลาคม 2554 เริ่มต้นโครงการ สามารถช่วยเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรจำนวนมากในช่วงแรก แต่โครงการกลับเผชิญกับปัญหาหลายด้าน ทั้งขาดความโปร่งใสในการบริหารการตั้งราคาจำนำสูงเกินจริง และการระบายข้าว G2G ที่มีข้อสงสัยว่าไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์

 

ทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบตลาด และงบประมาณของรัฐอย่างรุนแรง “15 ตุลาคม 2555” โดนฝ่ายค้านยื่น ป.ป.ช. ตรวจสอบ, 28 มกราคม 2557 ป.ป.ช. ตั้งคณะกรรมการชุดใหญ่ไต่สวน
และใช้เวลา 21 วัน ในการแจ้งข้อกล่าวหา ก่อนวันที่ 8 พฤษภาคม 2557 ป.ป.ช. มีมติเอกฉันท์ให้ “ยิ่งลักษณ์ ” ถูกถอดถอน หลัง “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นำ คสช. ทำรัฐประหาร ,ป.ป.ช.
มีมติเอกฉันท์ชี้มูล “ยิ่งลักษณ์” มีความผิดจำนำข้าวในคดีอาญา วันที่ 17 กรกฎาคม 2557 จากนั้น 19 กุมภาพันธ์ 2558 อัยการสูงสุดยื่นฟ้อง “ยิ่งลักษณ์” ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของ
ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และ วันที่ 13 ตุลาคม 2559 รัฐมนตรีคลัง เซ็นคำสั่งทางปกครองให้ “ยิ่งลักษณ์” ชดใช้ค่าเสียหาย ก่อนที่ 26 มกราคม 2560
ศาลปกครองกลางรับฟ้องคดีที่ “ยิ่งลักษณ์” ขอให้เพิกถอนคำสั่งชดใช้ค่าเสียหายต่อมาศาลมีคำสั่งไม่ทุเลาบังคับคดี จนกระทุ่ง

 

ในคดีอาญา ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาจำคุก “ยิ่งลักษณ์” 5 ปี ฐานละเว้น ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ อดีตนายกฯ เดินทางออกนอกประเทศ ก่อนตัดสินเพียงวันเดียว ตั้งแต่ปี 2560 ส่วนอดีตรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องคดีทุจริตระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) “บุญทรง เตริยาภิรมย์” ถูกตัดสินจำคุก 48 ปี “ภูมิ สาระผล” ถูกตัดสินจำคุก 36 ปี และคนอื่นๆ ได้รับโทษลดหลั่นกันลงไป และทั้งหมด ได้รับการพักโทษแล้ว

 

ส่วนในคดีแพ่ง เดิมทีเรียกค่าเสียหายจาก “ยิ่งลักษณ์” 35,000 ล้านบาท และ 5 นักการเมือง-เจ้าหน้าที่รัฐรวม”ภูมิ และบุญทรง” อีกกว่า 2 หมื่นล้านบาท และในที่สุดศาลปกครองสูงสุดพิพากษาให้ “ยิ่งลักษณ์” ชดใช้ความเสียหายระบายข้าวจีทูจี เป็นเงิน 10,028 ล้านบาท ลดลงจากยอดเดิมอย่างมีนัยสำคัญ ศาลเห็นว่า ความรับผิดของ “ยิ่งลักษณ์” จำกัดเฉพาะการกำกับดูแลที่บกพร่องในส่วน G2G ไม่ครอบคลุมความเสียหายทั้งหมดของโครงการ

 

จากคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ถือเป็นการสร้างบรรทัดฐานใหม่ และเป็นบทเรียนสำคัญให้นักการเมืองพรรคการเมืองทั้งหลาย เกี่ยวกับการออกแบบนโยบายสาธารณะ ที่ต้องคำนึงถึงความโปร่งใส และการบริหารที่มีประสิทธิภาพ แม้นโยบายจะมีเป้าหมายที่ดี แต่หากเกิดความเสียหาย นักการเมือง และพรรคการเมือง ต้องรับผิดชอบ ต่อนโยบายต่างๆด้วย

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube