แม่นักโทษร้อง DSI ลูกถูกผู้คุมทําร้าย หวั่นซํ้ารอย “อดีต ผกก.โจ้”
ทนายรณณรงค์ พาแม่นักโทษถูกผู้คุมเรือนจํากลางเขาบิน ทําร้ายและกลั่นแกล้งร้อง ดีเอสไอ กลัวซํ้ารอยคดี “อดีต ผกก.โจ้”
วันนี้(12 มี.ค. 68) ทนายรณณรงค์ แก้วเพชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พาแม่ผู้ต้องขังเรือนจำกลางเขาบิน ยื่นหนังสือถึง พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หลังลูกชายถูกผู้คุมทําร้ายร่างกายเกรงว่าจะซํ้ารอยคดีการเสียชีวิตของ “อดีตผู้กํากับโจ้”
โดยแม่ของผู้ต้องขังที่ถูกทําร้าย เปิดเผยว่า เมื่อเดือน ธ.ค. 67 ที่ผ่านมา ตนได้เข้าไปเยี่ยมลูกชายในเรือนจํา ซึ่งลูกบอกว่า “ถูกทําร้ายร่างกายอย่างหนักมากจนเกือบเอาชีวิตไม่รอดและเกือบจะไม่ได้เห็นหน้าพ่อหน้าแม่ฝากให้พี่สาวร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยเหลือที“ ซึ่งการเยี่ยมต้องผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์
เนื่องจากลูกถูกขังอยู่ใน แดน 4 ซึ่งเป็นแดนควบคุมพิเศษ ทําให้ไม่สามารถบอกรายละเอียดได้มากนัก แต่มีเพื่อนของลูกชายที่พ้นโทษออกมาได้นําจดหมายน้อยมาให้และเล่าให้ฟังว่า ด้านในมีปัญหากันโดยแบ่งบ้านภาคกลางและภาคใต้และมีปัญหากันบ่อยจนเกิดการทะเลาะวิวาทหรือเหตุจลาจล ทําให้ผู้คุมที่เข้ามาระงับเหตุมีการใช้กระบองตีและกระทืบด้วยรองเท้าคอมแบทตามร่างกาย
อีกทั้งยังมีการใช้เคเบิ้ลไทร์มัดมือและให้นอนควํ่าหน้าลงไป ซึ่งลูกชายคือ 1 ใน 11 คน ที่ถูกทําร้ายอย่างหนัก จึงอยากให้กรมราชทัณฑ์ออกมาชี้แจงว่าเป็นการกระทําเกินกว่าเหตุหรือไม่
แม่ของผู้ต้องขัง กล่าวต่ออีกว่า ลูกชายเริ่มถูกทําร้ายหลังเกิดเหตุจลาจลและถูกย้ายจากแดน 3 ไป แดน 4 ซึ่งการออกมาร้องดีเอสไอวันนี้ เนื่องจากกลัวซํ้ารอยกับคดีการเสียชีวิตของ “อดีตผู้กํากับโจ้” เนื่องจากเหตุการณ์คล้ายกันจึงเป็นห่วงลูก และล่าสุดที่มีโอกาสเยี่ยมลูกเมื่อวันที่ 13 ม.ค. 68 ที่ผ่านมา พบว่า ลูกชายสูบผอมลงมากจนแทบจะจําหน้าลูกตัวเองไม่ได้ ซึ่งลูกบอกว่าถูกลดปริมาณข้าวทําให้ทานไม่อิ่ม อย่างไรก็ตามหลังเกิดเหตุได้มีการแจ้งความที่ สภ.เมืองราชบุรี แต่เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าทางพนักงานสอบสวนได้เข้าไปสอบสวนในเรือนจําแล้วหรือไม่
ด้านทนายรณณรงค์ ระบุว่า เรื่องการทําร้ายร่างกายเป็นสิ่งที่ไม่สามารถทําได้ แม้กรมราชทัณฑ์จะออกระเบียบแต่ก็ยังเล็กกว่า พ.ร.บ.อุ้มหายฯ ซึ่งการมาในวันนี้เป็นการมาเรียกร้องตามสิทธิ อย่างไรก็ตาทไม่ได้บอกว่าเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์มีความผิดแต่เมื่อมีการร้องเรียนก็ต้องมีการตรวจสอบและมีคำอธิบายได้ ซึ่งญาติต้องมีสิทธิที่จะเข้าถึงข้อมูลและตรวจสอบความเป็นอยู่ของผู้ต้องขังได้ แม้จะเป็นผู้กระทำผิดทางกฎหมายก็จริงแต่ผู้คุมไม่ใช่จะมีสิทธิไปซ้อมทรมานผู้ต้องขังเช่นนั้น
นอกจากนี้มีญาติของผู้ต้องขังที่เสียชีวิตในเรือนจำเดียวกันมายื่นหนังสือเพิ่มเติมเพราะยังติดใจสาเหตุการเสียชีวิ แม้ว่าก่อนหน้านี้ทางราชทัณฑ์และผู้บัญชาการเรือนจำจะออกมาชี้แจงแล้วก็ตาม
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
