“นายกฯอิ๊งค์” ติวหนัก ศึกซักฟอก ผ่านแน่นอน
น่าติดตามเป็นอย่างยิ่งกับยุทธศาสตร์ทางการเมืองที่ฝ่ายค้านนำโดยหัวหน้าเท้ง “ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ” แห่งพรรคประชาชน ที่ลั่นกลองรบยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยล็อกเป้านายกรัฐมนตรี “แพทองธาร ชินวัตร” เพียงคนเดียว เนื่องจากไม่มีคุณสมบัติ และไม่มีความเหมาะสมในการดำรงตำแหน่ง ทั้งนี้ศึกซักฟอกจะเริ่มขึ้นในวันที่ 24 มี.ค. 2568
สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.คุยกับ “รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย” อาจารย์ประจำสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ โดย “รศ.ดร.ยุทธพร” กล่าวว่า นี่คือยุทธศาสตร์ทางการเมืองของฝ่ายค้านที่พุ่งเป้าโจมตีไปที่นายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว แต่ถ้าถามว่าสังคมจะได้อะไรหรือไม่กับการอภิปรายครั้งนี้ คำตอบ ก็คือไม่ได้
“การยื่นอภิปรายครั้งนี้ จริงๆแล้วเป็นที่น่าเสียดาย ว่าฝ่ายค้านยื่นที่นายกฯเพียงคนเดียว ซึ่งการยื่นในลักษณะนี้ผมมองว่าสังคมไม่ได้อะไร แต่กลายเป็นเรื่องยุทธศาสตร์ทางการเมือง เพราะว่าในเบื้องต้น ครั้งแรกมีข่าวว่าจะยื่นนายกฯ 1 คน บวกกับ รัฐมนตรีอีก 9 คนรวมทั้งหมดเป็น 10 คน ซึ่งตรงนี้จะทำให้ประชาชนได้รับทราบหลายๆปัญหา
ซึ่งคนก็ยังมีข้อสงสัยอยู่ ไม่ว่าจะเป็นในกรณีเรื่องของนโยบาย เช่นรัฐธรรมนูญ นิรโทษกรรม หรือประเด็นเฉพาะบุคคลเช่น เรื่องของอัลไพน์ เรื่องของเขากระโดง เรื่องของสปก.ต่างๆเหล่านี้ รวมถึงการบริหารทางเศรษฐกิจหรือแม้กระทั่งประเด็นปัญหาทางสังคม เช่นเรื่องของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ปัญหาอุยกูร์ อะไรต่างๆเหล่านี้เป็นต้น”
นอกจากนี้ “รศ.ดร.ยุทธพร” กล่าวย้ำว่า สิ่งที่ฝ่ายค้านต้องการทำให้เห็นในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ก็คือ ความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งจะสะท้อนมายังการลงคะแนนเสียงโหวตไว้วางใจนายกรัฐมนตรี
“พอยื่นนายกฯเพียงคนเดียวก็กลายเป็นเรื่องยุทธศาสตร์ทางการเมือง ซึ่งต้องการทำให้เห็นภาพความสัมพันธ์ในพรรคร่วมรัฐบาล ถ้ากรณีที่นายกฯได้คะแนนต่ำอย่างมีนัยสำคัญ คือผ่านคงผ่านแน่นอน แต่ว่าอาจจะได้คะแนนต่ำอย่างมีนัยยะสำคัญหรือไม่ เป็นสิ่งที่สังคมจับตา หรือว่ากลายเป็นประเด็น เช่นว่าต้องการที่จะให้นายกฯทดสอบว่าสามารถบินเดียวได้ไหม อะไรได้ไหม ซึ่งผมมองว่าถ้าเป็นแบบนี้เป็นเรื่องการเมืองเกินไป สังคมจะไม่ได้ประโยชน์อะไรมากนัก”
และเมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรี “แพทองธาร” จะต้องทำการบ้านติวเข้มเพื่อรับมือกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจมากน้อยเพียงใด “รศ.ดร.ยุทธพร” กล่าวว่า ต้องทำการบ้านหนักขึ้นอย่างแน่นอน
“ผมคิดว่านายกต้องทำการบ้านหนักขึ้นเพราะว่าสุดท้ายแล้วนายกฯเองก็อาจจะต้องตอบเป็นส่วนใหญ่แม้ว่าในหลายๆ เรื่อง นายกฯอาจจะให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องตอบก็ได้ในฐานะที่เป็นผู้กำกับในเรื่องของการบริหารราชการในแต่ละกระทรวงทั้งหมดในภาพใหญ่ภาพรวม แต่อะไรก็ดีนายกก็ต้องทำการบ้านไม่น้อย และโดยเฉพาะเชื่อว่าฝ่ายค้านน่าจะพุ่งเป้าไปที่ประเด็นเรื่องของคุณทักษิณ ไม่ว่าจะเป็นประเด็นเรื่องของความเป็นอิสระในการบริหารงาน ประเด็นเรื่องชั้น 14”
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่เกินความคาดหมายที่ฝ่ายค้านพุ่งเป้าอภิปรายมาที่ตนเอง ถือเป็นสิทธิของฝ่ายค้าน ส่วนญัตติของฝ่ายค้านรุนแรงหรือไม่ ที่กล่าวหาว่า นายกรัฐมนตรีไม่มีวุฒิภาวะเป็นผู้นำ ทำให้ประเทศชาติเสื่อมเสีย และต่างชาติไม่เชื่อมั่น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ต้องดูข้อมูลว่าต่างชาติไม่เชื่อมั่นอย่างไร
ส่วนตัวเข้าใจ เพราะตลอด 8-9 ปีที่ผ่านมา เคยเป็นฝ่ายค้านมาร่วมกัน ดังนั้น จะตอบข้อสงสัย และจะตอบทุกข้อกล่าวหา พร้อมยืนยัน ว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะไม่ปล่อยลอยแพตนเอง โดยได้ส่งข้อความไปขอความช่วยเหลือกับทุกคนแล้ว ว่าเป็นมือใหม่ยังไม่เคยโดนอภิปรายมาก่อน ดังนั้น ทุกคนพร้อมที่จะสนับสนุน ถือเป็นกำลังใจ แม้พรรคร่วมรัฐบาลจะได้พูดคุยน้อยกว่าพรรคเพื่อไทย แต่เมื่อได้พูดคุยแล้ว ก็ได้รับการสนับสนุนและได้รับความอบอุ่น ความน่ารัก จากหัวหน้าพรรคทุกคน ถือเป็นกำลังใจอย่างมาก
จากนี้ต่อไปจะต้องจับตาประเด็นทางการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ ที่ฝ่ายค้านล็อกเป้ารอถล่มนายกรัฐมนตรี “แพทองธาร” อย่างใกล้ชิด เพราะนี่คือ หนึ่งในปัจจัยที่จะส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการบริหารประเทศ เชื่อมโยงกับภาวะผู้นำของนายกรัฐมนตรีในการนำพาเศรษฐกิจไทยให้เติบโตนั่นเอง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





