Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

มาริโอ้ มั่นใจไม่ผิด คดีสวมทะเบียนรถ

Featured Image
วันนี้นายมาริโอ้ เมาเร่อ ดารานักแสดงชื่อดัง เข้าพบพนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ตำรวจไซเบอร์ เพื่อให้ปากคำ

 

 

กรณีเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการสวมทะเบียนรถโดยแอบใช้รหัสบัญชีและพาสเวิร์ดของเจ้าหน้าที่ขนส่ง เข้าไปเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อมูลรถยนต์ โดย มาริโอ้ ซื้อรถยนต์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการดังกล่าว

 

มาริโอ้ เปิดเผยสั้น ๆ ภายหลังสอบปากคำเสร็จแล้วว่า วันนี้มาให้ปากคำในฐานะพยาน ไม่มีความกังวล เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าทราบที่มาของทะเบียนรถที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ มาริโอ้ตอบว่า ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกระบวนการ และได้ให้ปากคำกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจหมดแล้ว และยังยืนยันว่าซื้อมาถูกต้อง ส่วนเรื่องของรายละเอียดขอให้ถามทางผู้ใหญ่ ที่เหลือนอกจากนี้ยังไม่สามารถพูดอะไรได้ขอให้เป็นไปตามกระบวนการ

 

ด้าน พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ รอง ผบช.สอท. กล่าวว่า วันนี้ตำรวจเรียกพยานมา 3 คน เพื่อสอบสวนเกี่ยวกับการครอบครองรถ โดยมาริโอ้ เป็นหนึ่งในคนที่มีชื่อในทะเบียนรถ ส่วนอีกคนชื่อก้อง เป็นผู้ที่เอารถมาขายให้ รู้จักกันมา 2-3 ปี ส่วนอีกคนเป็นพี่ชายของนายก้อง ซึ่งรู้จักกับผู้ต้องหา 2 คนที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้

 

จากการสอบสวนมาริโอ้ เชื่อว่าน่าจะไม่รู้เห็นด้วย เพราะซื้อมาอีกทอดหนึ่งจากนายก้อง โดยทั้งสองคนเคยซื้อเฟอร์นิเจอร์กันไปมา ก่อนจะมาเสนอขายรถ ซึ่งมาริโอ้ก็ไว้ใจและสนใจซื้อ เพราะปกติเล่นรถอยู่แล้ว เป็นการซื้อรถยนต์ยี่ห้อเบนซ์ รุ่น G300 ในราคา 1.5 ล้านบาท ทำสัญญามัดจำไว้แล้ว 500,000 บาท เมื่อช่วงเดือนธันวาคม 2565 จะส่งมอบภายใน 60 วัน

 

โดยนายก้องแจ้งว่าทะเบียนถูกเปลี่ยนชื่อเป็นของมาริโอ้แล้ว แต่ในระยะเวลา 60 วัน ไม่สามารถทำรถได้ทัน จึงยกเลิกสัญญากัน และคืนเงินมัดจำกลับมาให้ ประเด็นสำคัญวันนี้ที่มาริโอ้ให้การคือไม่รู้เรื่องการกระทำความผิด เชื่อว่าคงไม่ผิดเรื่องรับซื้อของโจร เท่าที่รับฟังอาจจะเป็นผู้เสียหายรอง

 

ผบช.สอท. กล่าวอีกว่า มาริโอ้ ยอมรับว่ามีความกังวล แต่ก็มั่นใจว่าไม่ผิด เพราะหลักยกเลิกสัญญาก็แจ้งให้นายก้องนำทะเบียนไปดำเนินการต่อตามขั้นตอนก่อน ซึ่งเจ้าตัวได้นำสำเนาสัญญาซื้อขายมาประกอบการสอบปากคำวันนี้ด้วย

 

ส่วนความคืบหน้าทางคดี ตอนนี้ดำเนินคดีไปแล้ว 2 คน ส่วนผู้ที่เกี่ยวข้องกับรถทั้ง 65 คัน จำนวน 65 คน ต้องเรียกมาสอบปากคำว่ารู้เห็นกับการกระทำความผิดหรือไม่ ซึ่งสอบปากคำไปเกือบครบแล้ว ยังเหลือบางคนที่อยู่ต่างประเทศ ส่วนรถยนต์ขณะนี้ยึดมาได้แล้ว 16 คัน ขณะที่กรมการขนส่งทางบก ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ที่อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดครั้งนี้แล้ว

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube