คกก.แข่งขันเข้มแพลตฟอร์มการค้าออนไลน์
คกก.แข่งขัน คุมเข้มแพลตฟอร์มการค้าออนไลน์ รองรับรูปแบบการค้าที่เปลี่ยนแปลงไป
นายสกนธ์ วรัญญูวัฒนา ประธานกรรมการการแข่งขันทางการค้า เปิดเผยว่า รูปแบบการค้าที่เปลี่ยนแปลงไปสู่อีคอมเมิร์ซ ทำให้ภาวะการแข่งขันสูงขึ้น จึงเกิดแนวโน้มที่ผู้ประกอบธุรกิจ หันมาควบรวมธุรกิจมากขึ้นด้วย ซึ่งจะส่งผลให้เกิดธุรกิจรายใหญ่ ที่มีอำนาจเหนือตลาด หรือมีการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม ในปี 2565 นี้ ทางสำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า จึงเน้นเข้าไปกำกับดูแลการแข่งขันในธุรกิจอีคอมเมิร์ซทุกรูปแบบ
โดยหลังจากกฎหมายแข่งขันทางการค้า บังคับใช้มาตั้งแต่ปี 2561 มีเรื่องร้องเรียนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง รวม 134 เรื่อง ในปี 2564 มีเรื่องร้องสูงสุดถึง 71 เรื่อง เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าจากปี 2563 กลุ่มที่มีการร้องเรียนมากที่สุดคือ ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ รองลงมาเป็นแฟรนไชส์ และการผลิตการค้าส่งค้าปลีก ส่วนใหญ่เป็นพฤติกรรมการใช้อำนาจเหนือตลาด การค้าไม่เป็นธรรม และตกลงร่วมกัน
ซึ่งได้มีการดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเข้มงวด และที่สำคัญปีนี้ เป็นปีที่มีการรวมธุรกิจมากที่สุดถึง 32 เรื่อง โดย 3 ปีที่ผ่านมา มูลค่าการควบรวมธุรกิจรวมมากกว่า 3 ล้านล้านบาท ถือเป็น 1 ใน 4 ของขนาดเศรษฐกิจประเทศที่ 14 ล้านล้านบาท
ทำให้ทิศทางการทำงานในปี 2565 นี้ จึงจะคุมเข้มการกำกับดูแลในการธุรกิจอีคอมเมิร์ซ เพราะมีการขยายตัวรวดเร็ว โตเฉลี่ยร้อยละ10 ต่อปี ในปี 2564 มีมูลค่าธุรกิจสูงถึง 4 ล้านล้านบาท โดยเฉพาะแพลตฟอร์มตลาดออนไลน์ เพราะเริ่มเห็นการขยายธุรกิจไปสู่การโฆษณา การให้บริการจ่ายเงิน รวมถึงการขนส่ง ที่เป็นของตนเองทั้งหมด
แม้ในแง่ผู้บริโภคอาจจะไม่กระทบ แต่ผู้ประกอบการในกลุ่มบริการกลุ่มนี้จะได้รับผลกระทบ จึงต้องหยิบยกประเด็นนี้ มาติดตามเพื่อหาแนวทางปฏิบัติไม่ให้เกิดการเอาเปรียบ หรือ ให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด จากเจ้าของแพลตฟอร์มออนไลน์
รวมถึงการกำกับดูแลการรวบรวมธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจด้านเทคโนโลยีที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น รวมถึงเริ่มเห็นการควบรวมกับธุรกิจข้ามชาติสูงขึ้นด้วย ซึ่งเริ่มเข้าข่ายมีอำนาจเหนือตลาด จึงต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เพื่อรักษาโอกาสธุรกิจของคนไทย และการส่งเสริมและสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบธุรกิจ SMEs สามารถแข่งขันได้ด้วย
ส่วนประเด็นการควบรวมกิจการสื่อสาร ของ ดีแทค กับ ทรู นั้น อยู่ในการกำกับดูแลของ กสทช. โดยคณะกรรมการแข่งขันฯ ไม่สามารถเข้าไปก้าวล่วงได้ แต่ได้มีการส่งเจ้าหน้าที่เข้าร่วมให้ข้อมูลแล้ว อยู่ภายใต้คณะกรรมการของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งต้องยอมรับว่า เรื่องนี้มีความซับซ้อน จากกระแสข่าว เป็นการรวมกับของบริษัทแม่ ของทั้ง 2 บริษัท รวมถึงการประกอบธุรกิจ ก็ต้องมีข้อมูลพิจารณามาพิจารณาทั้งเชิงกฎหมาย และการประกอบธุรกิจ

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews





