นายกฯ ตั้ง “ศบ.ทก.” บูรณาการ คุมเกมตอบโต้กัมพูชา
นายกฯ รับรายงานสถานการณ์ไทย-กัมพูชา สั่งตั้งศูนย์ “ศบ.ทก” ทำงานรายชั่วโมง ให้ข้อมูลการตัดสินใจแก้ปัญหาในทุกมิติ กับ สมช.และครม. โดยเชื่อมั่นสถาณการณ์จะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น
ในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ ที่ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน โดยได้ รับรายงานสถานการณ์ ไทย -กัมพูชา ซึ่งพลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ รายงานการแก้ไขปัญหา ทั้งระดับหน้างาน หรือชายแดนที่นายกรัฐมนตรีได้เคยมอบหมายให้กองทัพรับผิดชอบดำเนินการ และในส่วนของสภาความมั่นคงแห่งชาติ ที่ต้องประชุมเพื่อขออนุมัติดำเนินการต่างๆ ให้การแก้ไขสถานการณ์เป็นไปอย่างรวดเร็วมากขึ้นตามสถานการณ์ทุกวัน
โดยได้ตั้งศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา (ศบ.ทก.) ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีขึ้น เพื่อบูรณาการ การปฏิบัติงานของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา
โดยศูนย์มีหน้าที่และอำนาจติดตาม ตรวจสอบ วิเคราะห์ กลั่นกรอง และประเมินสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา อย่างใกล้ชิด ทุกเวลาและให้ความเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับมาตรการที่จำเป็นเพื่อเป็นประโยชน์ในการบริหาร สถานการณ์บริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา ต่อสภาความมั่นคงแห่งชาติ นายกรัฐมนตรี หรือคณะรัฐมนตรีแล้วแต่กรณี
และร่วมกันบูรณาการการปฏิบัติงานของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา ให้มีความเป็นเอกภาพ และเป็นศูนย์กลางในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เกี่ยวกับสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นบริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา ต่อสาธารณชน
ทั้งนี้ ให้มีอำนาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ คณะทำงาน หรือมอบหมายเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม และรายงานผลการปฏิบัติงานและการบริหารสถานการณ์ ชายแดนไทย – กัมพูชา ต่อสภาความมั่นคงแห่งชาติ นายกรัฐมนตรี หรือคณะรัฐมนตรี แล้วแต่กรณี เพื่อทราบเป็นระยะ โดยคณะกรรมการ ศบ.ทก.จะประชุมนัดแรก วันนี้ที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ
ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ย้ำว่า ประเทศไทยใช้กลไกการพูดคุยแบบทวิภาคี และพูดคุยกันอย่างเป็นทางการ ซึ่งทุกอย่าง ได้พูดคุยกันครบถ้วนหลายประเด็น แต่อยู่ที่การปฏิบัติว่าจะปรับอย่างไรได้
และเมื่อวานที่นายกรัฐมนตรีเรียกฝ่ายความมั่นคงไปพูดคุย ได้พูดคุยถึงสถานการณ์ทั้งหมด ก็เข้าใจตรงกัน ถ้าหากปรับกำลังทั้งสองฝ่ายตลอดแนวชายแดนได้อย่างที่ต้องการ ก็เป็นไปได้ที่จะสามารถปรับเรื่องด่าน เพราะไม่ต้องการปิดกั้นเรื่องค้าขาย
แต่ยืนยันว่าขณะนี้ความเสียหายเรื่องการปิดด่านบางเวลา ไม่ได้กระทบการค้าขายจนเป็นปัญหา อาจมีบ้างเล็กน้อย แต่ประชาชนตามแนวชายแดนก็ไม่มีปัญหา จึงมองว่าสถานการณ์ ชายแดนยังไม่ถึงขั้นวิกฤต เพียงแต่ระมัดระวังไม่ให้เกิดอะไรที่บานปลายขึ้น
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews