“ศึกเขมร-ศึกหมอคนชั้น14” ฮุนเซน สมศักดิ์ ทักษิณ (คนละ)เรื่องเดียวกัน
“รังสิมัน โรม” แห่งพรรคเด็กประชาชน(ปชน.) ตั้งคำถามการเชื่อมโยงไทม์ไลน์ 2-3 เหตุการณ์สำคัญในช่วงนี้ ที่ล้วนสัมพันธ์กัน อันส่งผลกระทบทั้งมิติการเมืองภายในและภายนอก อย่างกรณี “ศึกเขมร” ที่จะมีการประชุมกรรมาธิการร่วมชายแดนไทย-กัมพูชา JBC ที่กรุงพนมเปญ (14มิ.ย.) กับ คดีคนชั้น14 ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวน “ทักษิณ”
และผู้คนที่เกี่ยวข้องต่อความจริงการให้การช่วยเหลือ “ทักษิณ”ไม่ติดคุกแม้วันเดียว ในวันพรุ่งนี้ (13มิ.ย.) ในขณะที่ วันนี้ (12มิ.ย.) แพทยสภา มีการยืนตามมติเดิม ให้ลงโทษ 3 หมอ กรณีช่วย “คนชั้น 14” หลังจากที่มติแพทยสภาวันที่ 8 พ.ค.ถูกวีโต้จาก “สมศักดิ์ เทพสุทิน” รมว.สาธารณสุข ที่มาเข้าร่วมประชุมด้วย แต่ หมอใหญ่หัวโต๊ะ อนุญาตให้ รัฐมนตรีแจมได้แค่ช่วงเปิดหัว15นาที
แถมให้เข้าคนเดียวไม่ให้นำคนติดตามเข้ามาในห้องประชุม
โดยการมาของ “สมศักดิ์”อยู่ในท่ามกลางเสียงโห่ไล่ และหวุดหวิดจะถูกปาสิ่งของใส่จาก “ม็อบหมอ” ที่นำโดย “หมอตุลย์” แกนนำม็อบเสื้อหลากสี ในจังหวะที่ “สมศักดิ์” แถลงติงแพทยสภา ถ้ารู้สึกผิดอยู่ในใจบ้าง ก็ขอให้ทบทวน โดยก่อนประชุม เขาออกตัวโพสต์ชี้แจงในFB ว่า “เหตุที่เข้าร่วมประชุมแพทย์สภา เพื่ออธิบายทำความเข้าใจ ไม่ใช่เพื่อกดดัน เพราะตามมาตรา 24 สามารถเข้าร่วมได้อยู่แล้ว และขอยืนยันว่า ทุกอย่างที่ทำยึดหลักกฏหมาย ไม่ได้ทำเพื่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง แต่เป็นการปกป้องวิชาชีพแพทย์ ให้เป็นไปตามบทลงโทษที่เหมาะสม ไม่หวั่นแม้จะโดนกดดันทุกรูปแบบ
ที่ดูอาการ ภาษากาย ของ “สมศักดิ์” วันนี้ ดูอึดอัดไม่น้อย ในสถานการณ์นี้ นับตั้งแต่วันที่เขาถูก “ทักษิณ” (27พ.ค.)ที่ให้สัมภาษณ์นักข่าวในงานเนชั่นโดยมีเขายืนอยู่ใกล้ โจมตีจริยธรรมแพทยสภาผ่านปมไลน์ หลุด โดยบอกว่า “เชื่อว่ารัฐมนตรีสมศักดิ์มีข้อมูลทุกอย่าง และต้องคิดเยอะหน่อย” นอกจากนี้ ทักษิณยังออกมาสำทับ(30 พ.ค.)อีกครั้งถึงหลังการ วีโต้มติแพทยสภาของ “สมศักดิ์” ว่าเป็นอำนาจหน้าที่ของ รมว.สธ. ส่วนจะเป็นผลดีกับตนเองหรือไม่ ไม่ทราบ แล้วแต่คนจะมอง โดยกรณี “สมศักดิ์” ที่ถูกวิจารณ์ ลุยงานเองแบบ เล่นใหญ่เปลืองตัว สวนกระแส ทั้งที่เขาเป็น “รัฐมนตรี” ที่ขึ้นชื่อ ว่า จับทิศทางลมการเมือง ได้แม่นยำ ไม่เคยพลาดการได้นั่งรัฐมนตรีในทุกรัฐบาล
โดยเหตุการณ์วันนี้ ที่จะสัมพันธ์ไปถึงคดี “คนชั้น14” วันพรุ่งนี้(13มิ.ย.) ยังถูกมองเชื่อมโยง ไปถึง การประชุมJBC ไทยเขมร ที่อยู่ในการดูแลของ 2 พ่อลูกตระกูลฮุนอย่าง “ฮุนเซน-ฮันมาเนต”
ที่ ฮุนเซนถูกตั้งข้อสังเกตก่อนหน้านี้ ทั้งจากคนไทย และจากฝ่ายค้านเขมร อย่าง “สม รังสี” ที่มักออกมายั่ว และปั่นหัว “ฮุนเซน” ว่ามีความสันพันธ์ที่ดีกับ ครอบครัวของทักษิณ ไม่กล้าลงมือจริงจัง กับสถานการณ์ “ศึกเขมร” โดย หลายฝ่ายทางการเมืองทั้งไทยเขมร ตั้งข้อสังเกตการ เล่นใหญ่ของ “ฮุนเซน” ในจังหวะที่ใกล้จะมีคดีสำคัญของ “ทักษิณ”
ที่ก็คล้ายกับที่ “รังสิมันต์ โรม” ตั้งข้อเกตวันนี้(12มิ.ย.)โดย ให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน ว่าการเจรจา JBC กับคดีของ “นายทักษิณ” และมติของแพทยสภาวันนี้ มีความเกี่ยวโยงกันหรือไม่ ขอให้ประชาชน เป็นผู้พิจารณาจากสิ่งที่รัฐบาลดำเนินการ สำหรับโจทย์ใหญ่ของรัฐบาลการเมืองภายในประเทศคือความเชื่อมั่น
เพราะประชาชนไม่เชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะใช้อำนาจหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา โดยชอบด้วยกฎหมาย ทำให้การบริหารงานของรัฐบาลในทุกเรื่องดำเนินไปได้ยาก ถือเป็นโจทย์ของรัฐบาลที่จะทำให้ประชาชนไม่รู้สึกว่า ความสัมพันธ์ส่วนตัว เรื่องครอบครัวไม่ใหญ่กว่าผลประโยชน์ของชาติ ปมปัญหาคดีชั้น 14 ก็จะเป็นปัญหาต่อไปอย่างแน่นอน และคิดว่าอยากให้ “นายกฯ” ที่เคยพูดไว้ในเวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า เรื่องชั้น 14 ขอฟังทางแพทยสภา
ตอนนี้แพทยสภาก็ออกมาขนาดนี้ จึงอยากรู้ว่าท่าทีที่ชัดเจน ของรัฐบาลจะทำอย่างไร และกระบวนการที่ทำอยู่ต่อไปก็อยากให้ระวังว่ามันจะทำลายศรัทธาของประชาชน
ส่วน เรื่องชั้น 14 ที่ศาลฎีกา รับคำฟ้องไว้มองว่า คงไม่จบวันที่ 13 มิ.ย. แต่เรื่องแพทยสภา อาจจะต้องดูให้ดีเพราะต้องเป็นไปตามผลทางวิทยาศาสตร์ และถ้าไม่ได้เป็นการช่วยเหลือกันจริง ๆ ก็ถือว่าจบ แต่ประเด็นนั้นวันนี้ดูแล้ว รัฐบาลต้องแบกรับภาระในการอธิบายกับประชาชนให้ดี
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews