Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

ส่งด่วน! 53,900 รายชื่อยื่น กกต. ขอทำประชามติ เอา-ไม่เอา “กาสิโน”

 

การคัดค้าน “กาสิโกถูกกฎหมาย” ในประเทศไทยเป็นประเด็นที่มีการถกเถียงกันมานาน โดยฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยมักอ้างถึงผลเสียทางสังคม ศีลธรรม และผลกระทบระยะยาวต่อประชาชนและประเทศ และมีการรวมตัวเป็นกลุ่มในนามของภาคประชาชนหยุดพนัน

 

ล่าสุดวันนี้ ภาคประชาชนหยุดพนัน  เกือบ 100 คนพร้อมขบวนไรเดอร์นำส่ง 53,900 รายชื่อประชาชนต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือ กกต. ตรวจสอบรายชื่อเพื่อขอคณะรัฐมนตรีเห็นชอบจัดทำประชามติ “เอา-ไม่เอากาสิโน”  ตามพ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ

 

นายธนากร  คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน กล่าวว่า “การจัดประชามติเพื่อให้ประชาชนเจ้าของประเทศเป็นผู้ตัดสินใจว่า “เห็นชอบหรือไม่กับการจะเปิดให้มีกาสิโน และการพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย” จะเป็นผลดีต่อหลายฝ่าย   ข้อแรก จะเป็นผลดีต่อรัฐบาลด้วย เพราะนโยบายนี้ถูกติติงว่า มีความเสี่ยงต่อการฝ่าฝืนกฎหมายสำคัญหลายฉบับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ร.บ.การจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีเพราะอาจจะขัดต่อแนวทางของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9

 

ซึ่งเป็นประเด็นที่มีความอ่อนไหว รวมทั้งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง จึงเสี่ยงต่อสถานะของรัฐบาล และพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลทั้งหมดหากตัดสินใจเดินหน้าเรื่องนี้ ฉะนั้น หากมีการทำประชามติแล้วประชาชนส่วนใหญ่ เห็นชอบกับนโยบายนี้ ก็เท่ากับรัฐบาลได้รับฉันทานุมัติจากประชาชน

 

ข้อ 2 จะเป็นผลดีต่อนักลงทุน เช่นเดียวกับรัฐบาล หากมีการทำประชามติแล้วประชาชนส่วนใหญ่เห็นชอบกับการมีสถานบันเทิงครบวงจรที่มีกาสิโนเป็นส่วนประกอบสำคัญ ก็จะทำให้นักลงทุนมั่นใจได้ว่าจะไม่ได้รับการต่อต้านจากมวลชนในพื้นที่ต่าง ๆ ในอนาคต จึงเป็นผลดีต่อบรรยากาศการลงทุน

 

และข้อสุดท้าย เป็นผลดีต่อประชาชน การทำประชามติถือเป็นวิธีการลดความขัดแย้งระหว่างกลุ่มผู้มีความเห็นต่างอย่างสร้างสรรค์ เพราะเป็นการตัดสินของคนส่วนใหญ่อย่างชอบธรรม ผลการประชามติย่อมเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย โอกาสจะเกิดความแตกแยกในสังคมจากนโยบายนี้จึงมีน้อย

 

 

ทางด้าน นางสาววศิณี  สนแสบ เครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่พนันกล่าวว่า “การตัดสินใจจะมีกาสิโนและพนันออนไลน์ถูกกฎหมายหรือไม่ ในวันนี้ คือการส่งมอบมรดกบาปให้แก่คนรุ่นหลัง จึงควรรับฟังความเห็นของทุกฝ่ายอย่างรอบด้าน โดยเฉพาะเด็กเยาวชนที่จะต้องอยู่กับสิ่งนี้ไปอีกนาน  รัฐบาลจะอ้างสิทธิว่าส.ส.เป็นตัวแทนของประชาชนแล้วการลงมติของส.ส.เท่ากับมติของประชาชนคงไม่ได้

 

สำหรับขั้นตอนในการลงรายมือชื่อเพื่อประชามติครั้งนี้ ภาคประชาชนใช้เวลารวม 120 วัน ตั้งแต่ปลายเดือนมกราคมจนถึงเดือนพฤษภาคม กว่าจะรวบรวมรายชื่อได้ตามข้อกำหนดของพ.ร.บ.ว่าด้วยออกเสียงประชามติ  ขั้นตอนต่อจากนี้กกต.จะตรวจความครบถ้วนของรายชื่อทั้งหมดให้เสร็จภายใน 30 วัน  หากรายชื่อทั้งหมดครบถ้วน กกต.จะนำส่งรายชื่อทั้งหมดต่อสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีซึ่งเท่ากับได้ส่งถึงมือรัฐบาล”

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube