“กล้าธรรม” วันนี้ “ภูมิใจไทย” ในอดีต โมเดลเดียวกัน
คงไม่มีใครปฏิเสธ ว่า “กล้าธรรม” พรรคการเมืองน้องใหม่ ที่มี “อาจารย์แหม่ม-นฤมล ภิญโญสินวัฒน์” เป็นหัวหน้า “ผู้กองธรรมนัส พรหมเผ่า” เป็นประธานที่ปรึกษาทำการเมืองแบบถึงไหนถึงกัน ใจถึงพึ่งได้ คือพรรคการเมืองที่เนื้อหอมสุดๆ โดดเด่นมากๆ หลังคว้าชัยชนะเลือกตั้งซ่อมนครศรีธรรมราช มีนักการเมืองมากหน้าหลายตา
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มคนที่เคยร่วมงานกันภายใต้ปีกของเพื่อไทย และพลังประชารัฐ ทยอยเข้าสังกัดกลายเป็นพรรคการเมืองที่น่าจับตา ท่ามกลางสถานการณ์การเมืองที่ซับซ้อน ซ่อนเล่ห์ มีข่าวลือต่าง ๆ มากมาย
“กล้าธรรม” กลายเป็นพรรคการเมืองแถวหน้า เข้าร่วมรัฐบาล “แพทองธาร ชินวัตร” โดยมีที่มาที่ไป จากปัญหาขัดแย้งทางความคิดในพลังประชารัฐ “ผู้กองธรรมนัส” เห็นต่างจาก “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” เจ้านายเก่า จึงนำลูกทีมอำลาบ้านหลังเดิม เป็นครั้งที่ 2 เมื่อปี 67 มาปักหลักกับ “กล้าธรรม” ที่เตรียมการรอไว้แล้ว และขยายฐานอย่างรวดเร็วทั่วทุกภูมิภาค สังเกตุได้จาก เลือกตั้งท้องถิ่น ระดับ อบจ. และ เทศบาลที่ผ่านมา ปัจจุบันมี ส.ส.มากถึง 25 คน และยังมีการสะสม ส.ส.แฝงตัว อยู่ในพรรคอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง ที่พร้อมจะย้ายมาเข้าสังกัด เพื่อร่วมสนามเลือกตั้งรอบหน้า
การเติบโต อย่างโดดเด่น “กล้าธรรม” ในช่วงนี้ ทำให้หวนคิดถึง “ภูมิใจไทย” เป็นอย่างมาก เพราะมีเส้นทางที่คล้ายกัน โดยครั้งนั้น “สส.กลุ่มเพื่อนเนวิน” ของ”เนวิน ชิดชอบ” ภายใต้สังกัด
พรรคพลังประชาชน พรรคการเมืองที่ต่อยอดมาจากไทยรักไทยถูกยุบ เห็นต่าง ส.ส.ส่วนใหญ่ของพรรคในการโหวตเลือกนายกฯ หลัง “สมัคร สุนทรเวช” พ้นจากตำแหน่ง และเป็นที่มาการแยกตัวมาก่อตั้งพรรคภูมิใจไทย เหมือน “เนวิน” หันหลังให้ “ทักษิณ ชินวัตร” หลังพรรคพลังประชาชนถูกยุบ
เบื้องต้นมี ส.ส.รวมประมาณกือบ 30 คน สนับสนุน “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” เป็นนายกรัฐมนตรี “ภูมิใจไทย” ก็เติบโตขึ้น หลังเลือกตั้ง ปี 2562 มี ส.ส.ถึง 51 คน ร่วมรัฐบาลกับพลังประชารัฐ และในระหว่างนั้นก็สะสมกำลัง ดูดงูเห่า ดึงนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามมาสมทบจำนวนมาก
ก่อนจะกลายเป็นพรรคอันดับ 3 ในการเลือกตั้ง 2566 มี ส.ส.70 คน เป็นพรรคร่วมอันดับ 2 ของรัฐบาล “เศรษฐา ทวีสิน” และต่อเนื่องมาถึงยุค “แพทองธาร”
นับได้ว่าเส้นทางการเติบโตของ “กล้าธรรม” และ “ภูมิใจไทย” มีความใกล้เคียงกันเป็นอย่างมาก แตกต่างกันแค่ระยะเวลา “ภูมิใจไทย” ที่มีสโลแกน “พูดแล้วทำ” ใช้เวลากว่า 15 ปี จนกลายเป็นพรรคขนาดใหญ่ได้ในปัจจุบัน แต่ “กล้าธรรม” เพิ่งใช้เวลา แค่ 8 เดือนเศษ เติบโตอย่างก้าวกระโดด ข้ามหัวพรรคเก่าแก่บางพรรค ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลักฐานสำคัญ คือชัยชนะเลือกตั้งซ่อมนครศรีธรรมราช ตอบคำถามได้เกือบทั้งหมด ชัดเจน แจ่มแจ้ง แนวทางการเมือง
“กล้าธรรม” ตอบโจทย์ อะไรหลายๆอย่าง ในสถานการณ์การเมืองยุคปัจจุบัน เหลือเวลาอีก 2 ปี กว่าจะถึงเลือกตั้งใหญ่ มีเวลาให้ “กล้าธรรม” สะสมกำลังพลอีกพอสมควร ในการเดินไปสู่เป้าหมาย หรือเติบโตจากพรรคขนาดกลาง กลายเป็นพรรคขนาดใหญ่ที่มี ส.ส.เกิน 70 คน ถึง 100 คนขึ้นไป เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ ว่า การเติบโตของ “กล้าธรรม” จะเดินตามรอย และก้าวขึ้นไปแทนที่ “ภูมิใจไทย” ได้หรือไม่ หรือ 2 พรรคนี้ ซึ่งมีโมเดลเดียวกัน จะเติบโตไปด้วยกัน กลายเป็นตัวแปรสำคัญ หรือขั้วการเมืองไทยในอนาคต
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews