fbpx
Home
|
ข่าว

สัญญาณ”รวมศูนย์”3ป.

สัญญาณ”รวมศูนย์”3ป. (click ดูวิดีโอ)

@ภาพตัดฉากความชื่นมื่น รัฐบาลไทยภายใต้การนำของ ศูนย์อำนาจ 3ป. นำโดย “ลุงทำเนียบฯ”ถ่ายรูปหมู่ ครม.ประยุทธ2/4 แบบมาไวเคลมเร็ว แบบไม่มีสิ่งรบกวนทั้งภาพและเสียงจากข้างทำเนียบฯที่ทำให้หงุดหงิดมาหลายสัปดาห์ จาก “ม็อบหมู่บ้านทะลุฟ้า” ที่เพิ่งถูกตำรวจชุดคุมฝูงชนสลายการชุมนุมจับตัวไปดำเนินคดีไป เมื่อวันอาทิตย์ (28มี.ค.)โดยอ้างขัดพ.ร.บ.โรคติดต่อ และ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

@ในขณะที่ห่างกันไม่ไกลทำเนียบฯวันเดียวกัน มีอีเว้นต์ใหญ่แต่งชุดไทยเล่นสเก็ตบอร์ด ที่จัดโดยส.ส.รัฐบาล จนมี”หมอ”ออกมาไม่เห็นด้วยกับการใช้กฎหมายเป็น”ข้ออ้าง” ที่ไม่ได้อยู่บนเหตุผลด้านความเสี่ยงด้านสาธารณสุข และติงการนำกฎหมายที่มุ่งเน้นเพื่อจัดการ public health crisis ไปเป็นเครื่องมือทางการเมืองของฝ่ายรัฐ จะส่งผลร้ายต่อการร่วมมือ และยอมรับการจัดการกับสถานการณ์โรคระบาด ในยามที่รัฐบาลจำเป็นต้องอาศัยการยอมรับและร่วมมือของประชาชน ที่อย่าลืมว่าสถานการณ์ โควิด แม้เข้าโซนฉีดวัคซีนเข็ม2 ก็ใช่ว่าจะยังไม่มีการระบาดของคลัสเตอร์ใหม่เมื่อวาน

@ที่กรณีนี้เป็นเพียงหนึ่งใน “หนังตัวอย่าง” ของการบริหารจัดการ โดยเฉพาะการ”เก็บตกม็อบเด็ก” ของศูนย์อำนาจ ที่ประเมินการฝ่อตัวจากการไร้หัวของม็อบก่อนหน้านี้ ที่แกนนำถูกดำเนินคดีและถูกคุมตัวในเรือนจำ ในจังหวะที่สถานการณ์โดยรวมใช่ว่าจะนิ่ง จากผลแรงกระฉอก ในผลกระทบ จากการจัดการสลายม็อบ ทั้งเคสหมู่บ้านทะลุฟ้า ที่ยังมีติดลายนวมนัดชุมนุมบ่ายสองวันนี้ (30มี.ค.) จนตำรวจต้องเตรียมกำลังมาตั้งตู้คอนเทนเนอร์ รวมทั้ง ม็อบ20มี.ค. ที่นำโดย กลุ่มREDEM ที่สะสมมาจากผลแห่ง การเบี้ยวสัญญา ไม่แก้รัฐธรรมนูญ ของทั้งฝ่ายบริหาร และนิติบัญญัติ

@ที่ฝ่ายปฏิบัติการ มีการจัดหนักจัดเต็มความรุนแรง ทั้งแก๊สน้ำตา กระสุนยาง และการทุบทำร้าย แถมด้วยกองกำลังลับคอยไล่สอยเด็กที่วิ่งหนีตามตรอกซอกซอย จนส่งผลบีบคั้นออกมาเป็นภาพความหนาแน่นของกลุ่มผู้คนปัญหาต่างๆ ของ ‘ม็อบ24มี.ค.” ที่จัดโดยกลุ่มธรรมศาสตร์และแนวร่วม ที่แกนนำแถว2 อย่าง”น้องมายด์-ครูใหญ่” ซึ่งมีคิวเลื่อนอัยการส่งฟ้องศาลจาก 25มี.ค. ไป 13พ.ค.ในคดีอ่านแถลงการณ์หน้าสถานทูตเยอรมัน ยังคงขึ้นเวทีปล่อยของแบบไม่กลัวโดนแบบแกนนำแถว1 เพนกวิ้น, ทนายอานนท์, ไผ่, ไมค์, รุ้ง ที่โดนคุมในเรือนจำ โดยยังคงยิงตรงทะลุเพดานเช่นเคย ที่ฝ่ายตำรวจส่งสัญญาณแล้วว่าจะมีการดำเนินคดีตามมา

@ก่อนจะตามมาด้วยภาพเมื่อวานของการประกาศให้ลงโทษประหารชีวิตจาก”สมยศ”และภาพนั่งรถเข็นให้น้ำเกลือของ”เพนกวิน”ที่สร้างแรงกระเพื่อมใน“กลุ่มคลับเฮ้าส์”คืนที่ผ่านมาถึงประเด็นการเรียกร้องให้แก้ ม.112 และการวิพากษ์กระบวนการยุติธรรมที่เชื่อมโยงศูนย์อำนาจ

@ที่แรงกระเพื่อมจากเคสผู้ต้องหาที่ถูกคุมขังจาก ม.112 กำลังกลับถูกขยายผ่านภาพการเชื่อมสารพัดม็อบปัญหา ที่ต่างเจเนอเรชัน ไม่ว่าการออกมาของ “หมอประเวศ”เมื่อวาน หรือการประกาศรับเป็น”เจ้าภาพ”ของ”ตู่ จตุพร”และการประกาศหนุนช่วย “ม็อบเด็ก”ของ”ณัฐวุฒิ ใสเกื้อ”วันนี้ ที่ทุกคนเหมือนมีเป้าไปที่ศูนย์อำนาจ โดยเฉพาะ “ลุงทำเนียบฯ” ที่นาทีนี้นอกจาก”ศึกโควิดเศรษฐกิจ”ยังมีประเด็นการเตรียมรับมือการจัดการปัญหาความมั่นคงและมนุษยธรรมกับอีกฉากสถานการณ์ในประเทศเพื่อนบ้าน เมียนมา ที่เลยไปไกลสู่จุดการนองเลือดของประชาชน จากการปราบปรามอย่างดุเดือดด้วยอาวุธหนักจากกองทัพทหารตำรวจ ภายใต้การปกครองของ มิน อ่อง หล่าย ผู้นำทหารที่ยึดอำนาจจากรัฐบาลเลือกตั้งภายใต้การนำของ อองซาน ซูจี ที่ทั่วโลกจับตาว่าจะมีการไหลไปสู่สูตรสงครามกลางเมือง แบบที่เกิดขึ้นใน ซีเรีย หรือบางประเทศในตะวันออกกลางหรือไม่ หากมหาอำนาจสองซีกโลกปรากฏตัวเข้ามาเล่นในเกมชัดขึ้นจากท่าทีที่เริ่มมีการกดดันผ่านกลุ่มประเทศอาเซียน และไทยในฐานะสมาชิกและเพื่อนบ้านรั้วติดกัน

@เรียกได้ว่าถัดจากนี้ ถือได้ว่าทุกอย่างทุกเรื่องทั้งการบ้าน การเมือง ทั้งศึกใน ศึกนอก ที่ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาหน้าไหน ล้วนมีผลกระทบกำลัง”รวมศูนย์”พุ่งตรงไปยัง “ศูนย์อำนาจ3ป.” ที่หน้างานกำลังเผชิญกับกระแสความท้าทายในการตัดสินใจจากแรงกดดันอีกครั้งจากแดนไกลในกรอบที่เหนือไปกว่านโยบายอาเซียน ที่ไม่ยุ่งกิจการภายในสมาชิก อย่างที่”สุรเกียรติ เสถียรไทย”เพิ่งออกมาสะกิด”ลุงทำเนียบฯ” ว่า สถานการนองเลือด”นายพล4ร้อยศพ”นั้น ก้าวข้ามเงื่อนไขที่จะเป็น”ลุงเฉย”ต่อไปได้แล้ว จนเริ่มเห็น”ลุงทำเนียบฯ”เริ่มเปรยดัง ออกตัวว่าไทยไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรงกับประชาชน หลังถูกจับผิดเรื่องการส่งกำลังบำรุงทั้งข้าวและอาวุธ รวมถึงกรณีส่งตัวแทนไปร่วมวันกองทัพพม่าเมื่อวันเสาร์ ที่มีปฏิบัติการสังหารประชาชน114ศพ.

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube