ทุบเด็กREDEMบาน (click ดูวิดีโอ)
@ดูทรงวันนี้”ลุง”อารมณ์ดี ไม่แต่เมื่อวานรับมอบแจกันดอกไม้พระราชทาน เนื่องในวันคล้ายวันเกิด 67ปี จากในหลวงราชินี หากแต่มาวันนี้ “นักข่าวทำเนียบฯ”ยังญาติดีกัน มอบการ์ดอวยพรวันเกิด ย้อนหลังให้ จนยิ้มแก้มปริ สัญญาว่าจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ต้องแก้ปัญหาของประเทศได้ในทุกเรื่องในทุกมิติ แต่ไม่ยอมพูดถึงสถานการณ์เคลื่อนไหวของม็อบ เด็กREDEM ที่ยังคงพุ่งเป้าการโจมตีสถาบันฯ
@โดย ลุงทำเนียบฯ ที่วันนี้เดินทางเข้าทำเนียบฯผ่านประตู3 เลี่ยงเข้าด้านหน้าที่มีม็อบหมู่บ้านทะลุฟ้า เคยตะโกนไล่วันก่อน เพื่อเข้าประชุมความมั่นคง กับบิ๊กทหารและหน่วยความมั่นคง สมช. ที่จับตากันทั้งประเด็นสถานการณ์เมียนมาที่ต้องระวังชายแดน สถานการณ์ใต้ และสถานการณ์ความสงบในประเทศ เปิดการ์ดที่มีเสียงเพลง Happy Birthday ดังแทนคำตอบกับนักข่าว ก่อนย้ำว่า “ขอทำดีๆให้ตนด้วยแล้วกัน”
@เป็นม็อบ เด็กREDEM ที่เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา(20มี.ค.) เคลื่อนไหวชุมนุมด้วยจำนวนคนไม่น้อย ที่สนามหลวง และเกิดเหตุการณ์ปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน ที่ปฏิบัติการแบบเข้มข้นจริงจังอย่างดุดัน มีเด็กนักเรียน เยาวชน รวมถึงนักข่าว ได้รับบาดเจ็บจากกระสุนยาง และมีภาพผู้ชุมนุมถูกเจ้าหน้าที่ทำร้ายทั้งมือเท้าระหว่างสลายชุมนุม และมีการจับกุมผู้ชุมนุม รวมถึงเยาวชนเด็กหญิง และเกิดเหตุการณ์หลายเหตุการณ์ ที่ยังถกเถียงกันว่าเป็นการสร้างสถานการณ์จากมือที่สามเท้าที่สี่หรือใคร ไม่นับรวมภาพการวิ่งหนีเจ้าหน้าที่เข้าตามตรอกซอกซอยของผู้ชุมนุมและถูกกลุ่มปกป้องสถาบันดักทำร้าย
@ที่ภาพความรุนแรง ที่ยกระดับมากขึ้นเรื่อยๆจากการชุมนุมแต่ละครั้งทำให้หลายฝ่ายแสดงความกังวลสถานการณ์ต่อไป ในจังหวะที่ รัฐบาล3ลุง รับและส่งสัญญาณ ไปถึงเจ้าหน้าที่ในการดำเนินการอย่างจริงจังทั้งมิติปฏิบัติการสนาม และมิติทางด้านกฎหมายการดำเนินคดีกับแกนนำผู้ชุมนุม ที่วันที่ 24มี.ค.ม็อบประกาศมีการนัดชุมนุมกันอีก
@อันเป็นจังหวะที่วันที่ 25มี.ค.แกนนำ 13คน อาทิ มายด์ ภัสราวลี, ครูใหญ่ อรรถพล, นายกรกช แสงเย็นพันธ์ หรือปอ ฯลฯ ที่เกี่ยวข้องคดีม.112 และ ม.116 กรณี ม็อบอ่านจดหมายเปิดผนึกหน้าสถานทูตเยอรมัน มีนัดกับอัยการฟังคำสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้อง ที่ สำนักงานอัยการสูงสุด อาคารกรุงเทพใต้ เจริญกรุง 53 ที่หากอัยการมีคำสั่งฟ้อง และขอฝากขังระหว่างพิจารณาคดี โดยที่ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว ทั้ง 13 คนจะถูกนำตัวคุมขังในเรือนจำ เช่น 7 แกนนำ อาทิ ทนายอานนท์, เพนกวิน, ไผ่, ไมค์, รุ้ง ก่อนหน้า
@โดยหลายฝ่ายประเมินว่า การชุมนุมที่ยังคงไม่มีแกนนำ และเกิดการแทรกซึมแทรกแซงได้ง่ายอย่างที่เห็นกับม็อบเมื่อวันเสาร์ 20มี.ค.ที่ผ่านมา มีความสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดความรุนแรงแบบยกระดับ จากภาพเข้มข้นที่เกิดขึ้นและสัญญาณที่ถูกส่งผ่าน ศูนย์อำนาจ ที่แสดงถึงความชัดเจนว่าจะไม่มีการพูดคุยกับเด็กอีก แม้ฝั่งม็อบเด็กจะมีทิศทางทั้งแบบทะลุเพดาน แบบ REDEM และ แบบที่”ลดสอบประเด็นเคลื่อนไหว” มาที่ ข้อ1 และ2 ไม่แตะข้อ3 เพื่อดึงแนวร่วม NGO โดยชูประเด็น การถูกรัฐบาลร่วมกับ สว.250 คว่ำรัฐธรรมนูญจากรัฐสภาสัปดาห์ก่อน มาเป็นพลังขับเคลื่อน โดยเริ่มมีการขัดกิจกรรมในมหาวิทยาลัยช่วงที่ผ่านมา
@โดย “รังสิมัน โรม”ส.ส.ก้าวไก ตั้งข้อสังเกตอย่างเป็นห่วงว่า ภาพสถานการณ์ ม็อบวันที่ 20มี.ค. กำลังไหลไปสู่ โมเดล 6ตุลา หรือเหตุการณ์ 6ตุลา2519 ที่เกิดปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่รัฐในการล้อมปราบนักศึกษา โดยมีกลุ่มนวพลกระทิงแดงร่วม และเกิดการสูญเสียจนเป็นบาดแผลประเทศไทย โดย”โรม”เห็นว่าสถานการณ์ของสังคมไทยกำลังเดินเข้าสู่ช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญและน่ากังวล ดังที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2519 นั่นคือการมีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่ใฝ่ฝันและปรารถนาดีต่อบ้านเมือง อยากเห็นประเทศชาติเปลี่ยนแปลงไปสู่ทิศทางที่ถูกต้อง โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่อยากมีชีวิตที่ดีกว่านี้ แต่กลับมีคนอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งมีอำนาจรัฐอยู่ในมือ ขัดขวางกีดกันทุกวิถีทาง พร้อมกับปลุกระดมให้ประชาชนกระทบกระทั่งกันเอง
@ทั้งหมดทั้งมวลต้องติดตามต่อว่าสถานการณ์ถัดไปจากนี้ที่ฝ่ายความมั่นคงและลุงทำเนียบฯกำลังพิจารณาทิศทางแนวทางการจัดการ โดยเฉพาะกับภาพการเคลื่อนไหวของ“ม็อบเด็ก” ที่ยังคงยืนยันการท้าทายอำนาจรัฐกับข้อเรียกร้องที่ไม่ลดลงจะจบลงแบบใด และจะเป็นไปอย่างที่หลายฝ่ายกังวลถึงปลายทางแบบอดีตหรือไม่ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับทุกฝ่ายรวมถึง”3ลุง”เช่นกัน.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
