แม้คดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม ใกล้ขึ้นสู่ชั้นศาลหลังพนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนคดีให้พนักงานอัยการพิจารณาและอัยการนัดฟังคำสั่งฟ้องผู้ต้องหาปลายเดือนนี้ แต่สังคมยังมีข้อครางแคลงใจถึงการทำคดีของตำรวจว่โดยเฉพาะการออกมาเคลื่อนไหวของ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ที่เปิดโปงการทำคดีของตำรวจในคดี
โดยได้เข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ร้องเรียนให้ดำเนินการตรวจสอบวินัยร้ายแรงและย้าย4 ตำรวจภูธรภาค1ประกอบด้วย พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภาค 1 และพล.ต.ต.วสันต์ เตซะอัครเกษม ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.จ.นนทบุรี และ พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี เมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา
กระทั่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงตำรวจทั้ง 4 นายว่ากระทำผิดจริงตามที่มีการร้องเรียนหรือไม่ โดยให้ พล.ต.อ.มนตรี ยิ้มแย้ม ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานกรรมการตรวจสอบ และมีคณะกรรมการ เลขานุการและผู้ช่วยเลขานุการรวม 14 นายดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน
พล.ต.อ.มนตรี ยิ้มแย้ม ในฐานะประธานตรวจสอบข้อเท็จจริง เปิดเผยว่าเมื่อมีการร้องเรียนมาก็จะต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จเพื่อให้ความเป็นธรรมว่าสิ่งที่ทำมาจริงไม่จริงอย่างไรขออย่าเพิ่งตัดสินว่าผิดทันทีแต่ต้องรอการตรวจสอบก่อน สุดท้ายประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินเองว่าที่ทำมาผิดหรือถูก ซึ่งในวันที่ในวันที่ 20 พ.ค.นี้ คณะกรรมการฯได้เชิญ นายอัจฉริยะ และ พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี
เข้าให้ถ้อยคำซึ่งการสอบสวนจะดำเนินการตามประเด็นที่นายอัจฉริยะ ร้องเรียน โดยในส่วนของนายอัจฉริยะ จะสอบสวนในประเด็นที่ติดใจสงสัยรวมถึงพยานหลักฐานที่อ้างถึง ส่วน พ.ต.อ.จาตุรนต์ฯ ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี จะสอบสวนตามความรับผิดชอบในคดี พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภาค 1 และพล.ต.ต.วสันต์ เตซะอัครเกษม ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.จ.นนทบุรี ได้ทำหนังสือแจ้งเข้ามาให้ข้อมูลแล้ว โดยคณะกรรมจะตรวจสอบตามกรอบเวลาจากนั้นจะสรุปผลการตรวจสอบและเสนอบทลงโทษให้ ผบ.ตร.พิจารณาสั่งการ
” ยังไม่มีอะไรที่มันเป็นเรื่องของการดำเนินการทางวินัย /เป็นการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ความเป็นธรรม/เป็นธรรมข้อที่1 ก็คือ /คุณอัจฉริยะก็จะได้รู้ว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ/ได้มีการตรวจสอบตามที่ร้องเรียนมา/สองคือให้ตำรวจที่ทำงานมาได้มีการชี้แจงว่าทำอะไรมาบ้าง/เพราะทุกวันนี้สื่อเราก็อาจจะเสนอข่าวไปในส่วนหนึ่ง/ตำรวจก็อาจจะไม่ได้ชี้แจง”
พล.ต.อ.มนตรี ยืนยันว่า ตรวจสอบข้อเท็จจริงจะแยกกันกับคดีอาญาที่มีการสรุปสำนวนให้อัยการไปแล้ว ยกเว้นกรณีตรวจสอบพบพยานหลักฐานใหม่ ก็สามารถเสนออัยการนำเข้าประกอบสำนวนได้ ไม่ถือเป็นความบกพร่องของพนักงานสอบสวนที่ตรวจไม่พบตั้งแต่ต้น ยืนยันว่าการตรวจสอบทำด้วยความโปร่งใส แม้เป็นเพื่อนร่วมรุ่นนักเรียนนายร้อยตำรวจ(นรต.)รุ่นเดียวกับ ผบช.ภ.1 ก็ตาม และย้ำว่าไม่ได้ทำตามกระแสสังคม แต่ต้องการทำความจริงให้ปรากฎ ส่วนจะสังคมจะมองอย่างไรนั้นก็เป็นความคิดเห็น แต่การทำงานของคณะกรรมการชุดนี้เป็นแบบไหนอย่างไรนั้นก็เหมือนการปรุงรสของอาหารขอให้รอชิมอย่าเพิ่งไปดูกระบวนการขั้นตอนทำงาน
มีการมองว่าการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเป็นการลดกระแสสังคมหรือเปล่า พล.ต.อ.มนตรี : ก็ลองดูสิครับว่าเป็นแบบนั้นหรือเปล่า/นั่นคือความคิดเห็นก็ไม่ผิด/ประชาชนหรือว่านักข่าวจะคิดเห็นแบบไหนอย่างไรแต่ว่าการทำงานของคณะกรรมการชุดนี้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นแบบไหนอย่างไรเนี่ย/ก็เหมือนการปรุงรสของอาหารขอให้รอชิมอย่าเพิ่งไปดูกระบวนการขั้นตอนทำงาน”
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
