“ทวี” เผย 3 เดือนรู้ผลสอบคดี “ฮั้ว สว.”
สำหรับความคืบหน้า การสอบสวนคดีฮั้วเลือก สว. ภายหลังคณะกรรมการคดีพิเศษ หรือ กคพ. มีมติ 11 เสียง รับเรื่องสืบสวนที่ 151/2567 หรือ คดีฮั้วเลือก สว. ไว้เป็นคดีพิเศษ กรณีการสมคบกันในความผิดฐานฟอกเงินของบุคคลหรือคณะบุคคล ที่กระทำความผิดตามมาตรา 209 แห่งประมวลกฎหมายอาญา หรือ อั้งยี่ และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
และล่าสุด พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ลงนามคำสั่ง ตั้งคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ 41 คน เพื่อสอบคดีฮั้วเลือก สว. โดยมีตัวของอธิบดีดีเอสไอ เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนเอง และมีอำนาจหน้าที่หลักๆ คือทำการสอบสวนเพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเพิ่มเติมตามคำสั่งของอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือตามที่ผู้บังคับบัญชาสั่งการ
ทางด้าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผย ว่า ในการสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ มีหลักว่าเรื่องนี้ต้องสอบสวนร่วมกับอัยการก่อนจะเริ่มสอบสวน ซึ่งหลังจากรับเป็นคดีพิเศษแล้ว พนักงานสอบสวน และพนักงานอัยการ จะต้องมีการประชุมร่วมกัน และเสนอแผนการสอบสวน ซึ่งทราบว่า อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ จะทำหนังสือไปถึงอัยการสูงสุด ในการประสานงาน และสำนักงานอัยการสูงสุด ก็จะตั้งเป็นคณะทำงาน เพราะคดีนี้ มีพยานที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก โดยหลังจากนี้จะเป็นเรื่องของพยานหลักฐาน
เมื่อถามว่า หลังจากรับเป็นคดีพิเศษแล้ว จะมีการหารือกับอัยการเพื่อวางกรอบระยะเวลาไว้เท่าใด พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ตามกฎหมายระบุไว้ว่า ให้สอบสวนโดยเร็ว ซึ่งในคดีนี้เรารู้ชื่อพยานเยอะแล้ว และในการชี้แจงก็จะมีข้อมูลอยู่แล้ว หากจะให้เสร็จโดยเร็ว ตนก็คาดว่า น่าจะใช้เวลา 3 เดือน หากมีคนผิดก็จะแจ้งข้อกล่าวหา และหากจะสรุปสำนวนส่งฟ้องอัยการ ก็อาจจะใช้เวลามากกว่านั้นนิดหน่อย
ขณะที่การตั้งคณะพนักงานสอบสวน 41 คน ที่เป็นเจ้าหน้าที่จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ จะถูกมองว่า เป็นเกมการเมืองในการบังคับคดีหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี ยืนยันว่า ไม่ใช่มีบุคลากรจากกรมสอบสวนคดีพิเศษอย่างเดียว แต่จะมีเจ้าหน้าที่จากอัยการ และหลังจากนี้จะใช้อำนาจของนายกรัฐมนตรี ตั้งบุคคลภายนอก เช่น ตำรวจ และผู้เชี่ยวชาญต่างๆ
ส่วนกรณีที่ สว.ไปร้องกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อ้างว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษไม่มีอำนาจในการทำคดี พ.ต.อ.ทวี ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้งใคร เราดูทั้งกฎหมาย และประสานงานกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดย กกต.ตอบกลับว่า ในคดีที่เกี่ยวกับการได้มาซึ่ง สว.นั้น ไม่ได้มีการตัดอำนาจ ซึ่งวันนี้ กกต.ก็ยังไม่ได้เรียกสำนวน ทั้งที่ได้แจ้งให้ทาง กกต.ทราบแล้ว ซึ่งตามกฎหมายนั้น ต้องเรียกสำนวนภายใน 7 วัน อีกทั้งเอกสารมีค่อนข้างมาก และเป็นความลับ รวมถึงพยานจำนวนมาก ส่วนใหญ่ก็จะขอคุ้มครองพยาน
เมื่อถามต่อว่า สว.ที่ไปร้อง ป.ป.ช. ได้ตั้งข้อสังเกตว่า ว่าพยานหลักฐานต่างๆ ที่ ดีเอสไอ มี ดูไม่น่าเชื่อถือ พ.ต.อ.ทวี ระบุว่า ยินดีให้ตรวจสอบ เมื่อท่านถูกเรียกเข้ามาให้การหรือแจ้งข้อกล่าวหา เราก็ให้ความร่วมมือ และพร้อมให้ความเป็นธรรม
ส่วนตัวเลขของ สว.ที่จะต้องตรวจสอบในโพยนั้น มีจำนวนเท่าไหร่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า อย่างน้อยมีชื่ออยู่ในโพยที่ต้องถูกสอบประมาณ 140 คน สำหรับกรณีที่ สว.เสนอให้ยุบกรมสอบสวนคดีพิเศษนั้น พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ก็เป็นสิทธิ์ พร้อมกล่าวว่า “เผอิญว่าเขาคงเข้าใจ และคงคิดว่าเขามีชื่ออยู่ในโพย” ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษต้องรับฟัง และต้องพิจารณาให้ความเป็นธรรมโดยชอบตามกฎหมาย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews