@จังหวะปลายทางใกล้สิ้นสุดทางเลื่อนครบวาระ 23 มี.ค. ที่คาดการณ์กันว่า “นายกฯลุงตู่” จะมีการกดปุ่มยุบสภาก่อน
ราววันที่ 20 มี.ค. ก่อนจะไปเลือกตั้งอาจเป็นวันที่ 7 หรือ 14 พ.ค. ทำให้การประชุมครม.วันนี้ ถูกจับตาเป็นพิเศษตั้งแต่ก่อนประชุม ทำนองจะเป็นการสั่งลาอะไรกันหรือไม่ ทั้งในมิติการเมือง และ มิติการบ้านการบริหารบ้านเมืองที่ย่อมมีประเด็นการพิจารณาของแต่ละกระทรวงที่แต่ละพรรคดูแลตกค้างที่ต้องรีบเคลียร์ แม้จะปรากฏในทางการเมืองจะมีรัฐมนตรีรวมถึง “ลุงป้อม” ลาการประชุมถึง 7 คน
รวมถึงที่มีข่าวว่าการประชุมนัดนี้ มีการนำเสนอ“วาระจร” เข้ามาเป็นร้อยเรื่องโดยมีรายงานก่อนหน้านี้ ว่า หนึ่งในนั้นเป็นเรื่องที่กำลังถูกกล่าวขวัญถึง คือ“โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม” ที่ก่อนหน้าถูก “จอมแฉชูวิทย์” กัดติดไม่ปล่อยในการออกมาแฉความไม่ชอบมาพากลและเตือนแกมขู่ครม.ลุงตู่ไว้แล้วว่า ระวังติดคุกหากมีการผ่านเรื่องนี้ จนมีการวิจารณ์เหตุ รมต.หลายรายลาประชุมจะเกี่ยวข้องกับอาการหลอนที่จะต้องร่วมรับผิดชอบกับบางวาระร้อนประเด็น รถไฟฟ้าส้มนี้หรือไม่
@ยิ่งก่อนประชุมครม.วันนี้ ตั้งแต่เมื่อวาน (13มี.ค.) นอกจากมีข่าวว่ารมต.คมนาคมที่มาดูแทน “ศักดิ์สยาม”ที่ ศาลรัฐธรรมนูญ สั่ง “พักงาน” อย่าง “รมต.แบงค์ อธิรัฐ” รมช.คมนาคมรักษาการแทนรมว.คมนาคมจะเสนอ ครม. เพื่อขออนุมัติผลคัดเลือกเอกชนในโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม โดยมอบหมายให้สำนักปลัดกระทรวงคมนาคมประสานสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เพื่อแจ้งให้ทราบว่าจะนำเรื่องดังกล่าวเสนอครม.เป็นวาระจร
โดยมีรายงานว่ารักษาการรมว.คมนาคมจะถือเอกสารเสนอครม.ด้วยตัวเองเพื่อเป็นวาระจรแล้ววันนี้ “รองนายกฯหนู” แห่ง “พรรคภูมิใจไทย” ที่กำกับดูแลยังบอกก่อนเข้าประชุมครม.ยอมรับว่า“ผ่านเรื่องไปแล้ว ไม่รู้เข้าหรือเปล่า ต้องอยู่ที่ ครม.” เมื่อนักข่าวถามว่า มีรัฐมนตรีบางคนออกมาคัดค้านหรือไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้
“เสี่ยหนู” เพียงพยักหน้าแต่ไม่ตอบคำถามก่อนเดินเข้าห้องประชุม ครม.ในขณะที่ก็มีรัฐมนตรีจากพรรคร่วมรัฐบาลอย่าง “สาธิต ปิตุเตชะ” และ “ท็อป วราวุธ” ก็ออกมาพูดทำนองเดียวกันว่าควรชะลอเรื่องนี้ไปก่อนเช่นเดียวกับฝ่ายเกี่ยวข้องอย่าง “ปกรณ์ นิลประพันธ์” เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่บอกทำนองส่วนตัวไม่ทราบว่าเรื่องนี้จบหรือยัง เข้าใจว่าต้องรอในชั้นศาลให้เสร็จสิ้นก่อน จะไปทำอะไร เพื่อไม่ให้เจ็บตัว
@เรียกว่า การประชุมครม.ครั้งนี้ ที่ถูกมองว่าเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายในฐานะ “รัฐบาลลุงตู่” ที่มีอำนาจเต็มนอกจากจะถูกจับตาในประเด็นการพิจารณาวาระจรนับร้อยๆ เรื่องดังว่ารวมถึงประเด็นร้อนข้างต้นแล้วในทางการเมืองยังถูกจับตาท่าทีของบรรดาพรรคร่วมรัฐบาลตั้งแต่ตัว “นายกฯลุงตู่” ไปจนถึงบรรดาหัวหน้าพรรครัฐบาล และ บรรดารัฐมนตรี แกนนำกลุ่มการเมืองในพรรคที่จะมีการเปลี่ยนสถานะไปลงสนามเลือกตั้งเป็นคู่แข่งทางการเมืองกันหลังมีการ
“กดปุ่มยุบสภา” ของ “นายกฯลุงตู่” ที่ทุกฝ่ายทุกพรรคย่อมไม่ต้องการแบกรับภาระความรับผิดชอบกับประเด็นอะไรที่อาจมีความสุ่มเสี่ยง นอกจาก ประเด็นมติครม.ในวาระที่พรรคการเมืองฝ่ายตนเองจะได้ประโยชน์ในทางการเมืองในจังหวะมีโอกาสเคาะก่อนนำไป“เคลมผลงาน” กับประชาชนในการลงพื้นที่หาเสียงได้หลังจากนี้
ที่ทั้งหมดยังไม่นับรวมการที่แต่ละฝ่ายแต่ละกลุ่มจะใช้เป็นจังหวะ อำลากันอย่างเป็นทางการ อย่างที่มีภาพเคลื่อนไหวของ “สมศักดิ์ เทพสุทิน” ที่จะพา “กลุ่มสามมิตร”มูฟออนจาก “ลุงป้อม” ไปพรรคเพื่อไทย ที่ชัดเจนมาหลายวันในการลงพื้นที่หาเสียงที่รายล้อมด้วยว่าที่ผู้สมัครส.ส.พรรคเพื่อไทย อย่างที่ “ไผ่ ลิกค์” โพสต์ผ่านFBเมื่อวานนี้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
