ความเคลื่อนไหวกรุงเทพมหานครวันนี้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้าการก่อสร้างอุโมงค์สี่แยกไฟฉายก่อนเปิดใช้งานจริงในวันที่ 1 ส.ค.65 ณ บริเวณสี่แยกไฟฉาย เขตบางกอกน้อย
อุโมงค์สี่แยกไฟฉายแห่งนี้ ใช้เวลาก่อสร้างกว่า 13 ปี ใช้งบประมาณในการก่อสร้างอุโมงค์อยู่ที่ราว 600-700 ล้านบาท มีกำหนดจะเปิดให้ใช้บริการในวันที่ 1 ส.ค. 65 โดยนายชัชชาติได้เน้นย้ำกับผอ.กรมโยธา ว่าหากไม่มั่นใจในความปลอดภัยก็อย่าเพิ่งเปิด เพราะที่ผ่านมา 13 ปียังรอได้หากจะรอต่ออีก 2-3 วันก็คงไม่มีปัญหาอะไรโดยให้คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก
และเมื่อถามถึงสาเหตุการก่อสร้างที่ใช้ระยะเวลายาวนานถึง 13 ปีนั้น นายชัชชาติได้ให้คำตอบว่า เนื่องจากมีการปรับขยายเลน เพราะเมื่อก่อนเป็น 3 เลนแล้วมีการไปเบียดฟุตบาท ประชาชนต้องการให้ฟุตบาททางเดินมีระยะกว้างขึ้นจึงมีการเจรจา โดยใช้ระยะเวลาเจรจากว่า 4 ปีและมีเรื่องของโครงสร้างสะพานที่ใช้ร่วมกันกับรฟม.อีกด้วย ซึ่งนายชัชชาติเน้นย้ำว่าเรื่องที่ผ่านมาแล้วให้ผ่านไปเราจะมองของเรื่องอนาคตเป็นหลักจะพยายามทำโครงการที่เหลือให้แล้วเสร็จเร็วที่สุด อดีตเป็นบทเรียน เพื่อจะไม่ให้มีการผิดพลาดซ้ำอีก
มีข้อขัดแย้งกันเยอะครับเรื่องขนาดอุโมงค์ เรื่องการตกลงกับรฟม. เรื่องรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินซึ่งโครงสร้างเนี่ย มันฝากอยู่กับปากอุโมงค์ก็ตกลงกันมาสุดท้ายก็ตั้งเป้าว่าให้เปิดพรุ่งนี้วันที่ 1 สิงหาคม วันนี้เรามาตรวจก็คืนนี้ต้องมี เทสอีกแต่ก็ได้เรียนท่านผอ.ไปว่าให้เอาความสำคัญเป็นหลักถ้ายังมีอะไรที่สมบูรณ์ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์เนี่วพรุ่งนี้จะขยับเลื่อนได้ แต่ขอความปลอดภัยมาก่อนไม่ต้องกังวลเรื่องเดดไลน์นะเพราะเรารอมา 13 ปีแล้วรอไปอีกวันสองวันเพื่อความปลอดภัยให้ 100% งั้นคืนนี้เอาให้ 100% ก่อนแต่ถ้าไม่มีอะไรคลาดเคลื่อนเนี่ยพรุ่งนี้ก็จะเปิดตี 5 เหมือนกันนะครับ
ซึ่งขณะนี้ยังมีโครงการที่กรมโยธายังติดค้างกับกรุงเทพฯอยู่ประมาณ 14 โครงการ โดยนายชัชชาติจะพยายามดันโครงการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และยังได้ฝาก ผอ.กรมโยธาตรวจสอบบริเวณแยกรามคำแหงที่กำลังก่อสร้างรถไฟสายสีส้มเพราะประชาชนเรียกร้องเรื่องรถติดเข้ามาค่อนข้างเยอะ
โดยอุโมงค์แยกไฟฉายจะเปิดให้ใช้บริการในช่วงเวลาตี5 – 4 ทุ่มเพื่อบรรเทาความทุกข์ร้อนของประชาชนบริเวณแยกไฟฉายและประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนบริเวณนี้ แต่นอกเหนือเวลาดังกล่าวจะปิดให้บริการเพราะยังมีงานตกแต่งและมีงานที่ยังต้องเก็บรายละเอียดเพิ่มเติม
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
