fbpx
Home
|
ข่าว

ปิดประเทศ-ของขวัญปีใหม่

ปิดประเทศ-ของขวัญปีใหม่

 

@ในที่สุด “นายกฯลุงตู่”ศบค.ก็จำต้อง สั่งปิดรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่วันนี้(21ธ.ค.) ส่วนนักท่องเที่ยวและคนไทยที่ลงทะเบียนไว้เดิม ยังสามารถเดินทางเข้ามาได้ตามปกติ จะประเมินสถานการณ์อีกครั้ง 4 ม.ค.65 อันเป็นมาตรการ รับมือโควิดสายพันธุ์โอมิครอนโดยตั้งแต่วันนี้จะไม่รับนักท่องเที่ยวรายใหม่ โดยขณะนี้ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวที่เข้ามาผ่านระบบ Sandbox และ Test & Go ประมาณ 110,000 คน จากที่อนุมัติให้เดินทางเข้าประเทศ 200,000 คน เหลือค้างในระบบที่จะเดินทางเข้ามาอีก 90,000 คน พร้อมดักคอนักข่าว ว่า รัฐบาลกำลังพยายามแก้ปัญหาเรื่องนี้ให้ได้ขอสื่ออย่าเพิ่งมาถาม ในกรณีเมื่อนักท่องเที่ยวเข้ามาแล้ว และจะตรวจหาเชื้อไม่เจอในช่วงที่เดินทางเข้ามา เพราะที่ผ่านรัฐบาลมาไม่ทราบมาก่อนว่าสายพันธุ์โอมิครอนจะเข้ามาตอนนี้ แต่ทั้งหมดเราก็ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของคนในประเทศ โดยจะต้องแก้ไขไปตามลำดับ ส่วนมาตรการปีใหม่ ยังคงเป็นมาตรการเดิม วันนี้ไม่มีอะไรเปลื่ยนแปลง

 

@ขณะที่ “หมอหนู”บอกว่า “จากนี้ไปจะต้องจัดการนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้เข้มงวดขึ้น แต่ในส่วนที่ค้างท่ออยู่จำนวนเกือบ 2 แสนคนที่ทำข้อมูลในระบบ Thailand pass ก็ต้องปล่อยให้เขาผ่านเข้ามาก่อนเพราะมีการจองโรงแรมแล้ว และยังต้องทำระบบ Test and Go ต่อไป ก่อนปรับเปลี่ยนมาตรการ ส่วนจะหมดเมื่อใดนั้นต้องถามรายละเอียดจากอธิบดีกรมควบคุมโรค เพราะตนได้มีการให้แนวทางเรื่องนี้ไปแล้ว คือประชาชนคนไทยต้องปลอดภัย ต้องลดความเสี่ยงในทุกมิติ และทำให้เศรษฐกิจได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ซึ่งเป็นแนวทางของรัฐบาล แต่เราก็ต้องฟังผู้ปฏิบัติงานด้วยว่าสามารถทำได้แค่ไหน เกิดผลดีผลเสียอย่างไร และถ้าหากมีผลเสียมากกว่า ก็มีสิทธิที่จะโต้แย้งฝ่ายบริหารที่เราก็ต้องรับฟัง

 

@เรียกว่า “นายกฯลุงตู่”พยายายามออกเป็นกลางๆมากที่สุดกับการจัดการหน้างานตามสถานการณ์ที่ “โควิด”วนลูปกลับมาสู่ความน่าห่วงอีกครั้งในหลายประเทศ ที่มีการระงับการจัดงานเคาวน์ดาวน์ปีใหม่ ในขณะที่ก่อนหน้านี้ “นายกฯ”เพิ่งประกาศเปิดประเทศ และ จัดงานเคาวน์ดาวน์1 ชั่วโมง ที่ภาคธุรกิจตื่นตัวประกาศอีเว้นท์เตรียมงานกันไปแล้ว แม้ “หมอหน้างาน”จะห่วงว่ากลางเดือนม.ค.จะมีผลลัพธ์ของการระบาดออกมาอย่างไรกับการจัดกิจกรรมและการเคลื่อนตัวของประชาชนที่อั้นมานาน

 

@ที่ก็ล้อไปกับบรรยากาศที่จะกลับมาสู่ความเป็นปกติ กับการจัดงานปีใหม่ และ วันเด็ก แบบที่วันนี้เพิ่งให้คำขวัญวันเด็กไปว่า รู้คิด รอบคอบ รับผิดชอบต่อสังคม’ในขณะที่ “นายกฯลุงตู่”ให้ ครม.รัฐมนตรีแต่ละกระทรวง เสนอ “ของขวัญ”แจกให้กับประชาชน ที่มา ทั้ง โปรฯ  ช้อปดีมีคืน คนละครึ่งเฟส4และคุมน้ำมันดีเซล ที่โดน “บิ๊กตู่ใหญ่” “พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์”จิกเบาๆว่า “ของขวัญ”ที่ประชาชนต้องการจาก “นายกฯลุงตู่”ที่สุดคือการ “ลาออก” ในขณะที่หันมาทาง “อ.วิษณุ”ที่หลายวันก่อนเคยออกมาอวยพรปีใหม่เหมือนส่งสัญญานกรายๆทางการเมือง มาวันนี้ ก็ย้ำถึง “สัญญานเดิม”ว่า ปีหน้าจะเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงหลายด้านรวมถึงการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ขอให้คนไทยเข้มแข็งอดทน ก่อนจะปฏิเสธถึงกระแสข่าวเตรียมลาออก เพื่อขอวางมือทางการเมืองนั้นว่าเป็นการพูดเอาไว้หลายเดือนแล้ว เป็นการปรารภเล่นกัน หมายความว่า เมื่อสิ้นรัฐบาล และไม่ได้หมายความว่า ต้องเดี๋ยวนี้ แต่บอกว่าเมื่อสิ้นรัฐบาล

 

@เรียกว่าสภาพ “หน้างาน”ของ “นายกฯลุงตู่”ยังอยู่ในอาการแบบช่วงก่อนสงกรานต์ ที่ต้องชั่งใจประเมินน้ำหนัก ระหว่าง “โควิด”กับ “เศรษฐกิจ”แบบที่เคยมีประสบการณ์ไปแล้วว่า หากปล่อยผ่าน อาจเละเทะอย่างที่เคยโดน ยิ่งห้วงนี้ ในทางการเมือง รัฐบาลอยู่ในสภาพ พร้อมเกิดอุบัติเหตุการเมือง ในทุกจังหวะ หากมีประเด็นเข้าสู่กระบวนการสภาฯ แบบที่เกิดเหตุ “สภาล่ม”ไม่ต่ำกว่า4ครั้งติดต่อกัน ที่เหมือนเป็นการสะท้อนปัญหาที่เกิดจาก “ภายใน”ของรัฐบาล อย่างที่ “อดีตกุนซือรองนายกฯ” “ไพศาล”โพสFBตั้งข้อสังเกต ว่าอาจเป็นหนึ่งในยุทธิวิธีในสภาของฝ่ายค้านในการทำงานในสภา  ที่ประกอบด้วย (1)ทำให้สภาล่ม(2)การอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติซึ่งรวมถึงการตั้งกระทู้และญัตติด้วย(3)การอภิปรายเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ ที่ทั้ง 3ประการนี้เป็นยุทธวิธีหลักของฝ่ายค้านในการกำกับควบคุมรัฐบาลและในการขับไล่รัฐบาล  และว่า ในช่วงนี้ ฝ่ายค้านใช้ยุทธวิธีหลัก คือ ทำให้สภาล่มและยื่นญัตติหรือกระทู้ ซึ่งสภาพการณ์ก็เข้าทางฝ่ายค้าน คือ รัฐบาลซึ่งครองเสียงข้างมากไม่สามารถวิปให้ สส.รัฐบาลมาเข้าประชุมครบองค์ประชุมได้ ไม่ส่งผู้แทนมาชี้แจงญัตติและไม่ส่งรัฐมนตรีมาตอบกระทู้ จึงทำให้ฝ่ายค้านมีความชอบธรรมในการทำให้สภาล่มมากขึ้น

 

@ที่ทั้งหมดหากยังคงเกิดซ้ำย่อมมีการถามหาถึงความรับผิดชอบจากฝ่ายรัฐบาลที่มีเสียงมากอีกด้าน และทั้งหมดอาจจะนำไปสู่กระบวนการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอย่างที่ “อ.วิษณุ”ว่าไว้

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebookhttps://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitterhttps://twitter.com/innnews

Youtubehttps://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTokhttps://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account@innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube