กทม.รั่ว-วัคซีนอยู่ไหน

กทม.รั่ว-วัคซีนอยู่ไหน

@แม้จะเสียงไม่ดังฟังไม่ชัดนัก แต่ก็ถือเป็นการรับปากชัดเจนครั้งแรกว่า“ต้องมีวัคซีนแอสตราเซเนกาฉีดในวันที่ 7 มิ.ย.” หลังเกิดความคลุมเครือกังวลจากทุกฝ่ายว่า“วัคซีนแอสตราเซเนกา”ที่มีคิวว่าจะมา 6 ล้านโดส อาจไม่มาตามนัดในวันคิ๊ก ออฟ 7 มิ.ย. นี้ หลังมีข่าวรัฐบาลสั่ง“วัคซีนซิโนแวค”เข้ามาสแตนด์บาย ทั้งที่การระบุจาก“หมอ”ว่า“วัคซีนแอสตราฯ”สามารถสร้างภูมิคุ้มกันระบาดได้สูงและเร็วกว่าเหมาะกับการใช้ในสถานการณ์ที่ยอดระบาดใน“ศูนย์กลางประเทศ”กรุงเทพ-ปริมณฑล ยังน่ากลัว …ทำให้“นายกฯลุงตู่”ถูกถามซ้ำแล้วซ้ำอีกระหว่าง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมหน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เขตปุมวัน เมื่อวาน(31พ.ค.) จนต้องยอม“รับปาก”ว่า จะมีวัคซีนฉีดแน่ ไม่ต้องกลัว เพียงแต่ว่ามากน้อยแค่ไหน แต่น่าจะเพียงพอที่จะฉีดในเดือน มิ.ย. โดยอ้อมแอ้มว่า เพราะ มีหลายยี่ห้อ ทั้งซิโนแวค แอสตราเซเนกา ซิโนฟาร์ม ยืนยันว่าต้องทำให้พี่น้องคนไทยได้ฉีดวัคซีนหมดทุกคน

@ขณะเดียวกัน“ลุงตู่”ยังถือโอกาสเปรยดังเหมือนจะแจงปัญหาความสับสนการสื่อสาร“หน้างาน”ที่ผ่านมาทั้งระหว่าง“ลุงตู่”กับ“หมอหนู”และทั้งหน่วยงานต่างๆ กับศบค.ไม่นับรวม“ฝ่ายการเมือง”ทั้งระดับส.ส.และ ระดับองค์กรส่วนท้องถิ่น อปท.ที่กำลังเรียกร้องให้“มหาดไทย”ของ“บิ๊กป๊อก”ปลดล็อก ให้ อบจ. ซื้อวัคซีนทางเลือกชิโนฟาร์มเอง หรือ แม้แต่คนที่เดินตาม“ลุงตู่”อย่าง“บิ๊กวิน”ผู้ว่ากทม.

โดย“ลุงตู่”ขอความเห็นใจดังๆ ว่า “ถ้าจะเอาดีทุกอย่างมันคงลำบากในสถานการณ์วันนี้ แต่เราจะแก้ปัญหาได้มากน้อยแค่ไหนต้องใช้สติปัญญาและความร่วมมือของพวกเราทุกคน โทษใครไม่ได้ แล้วแต่จะคิด แต่กรุณาฟังว่ารัฐบาลจะพูดอะไร ตนพูดอะไร ไม่ใช่พูดวันนี้แล้วไปลบคำเก่า มันจำเป็นต้องเปลี่ยนก็ต้องเปลี่ยน เพราะตนตัดสินใจผ่าน ศบค. มี 10 กระทรวงอยู่ในนั้น ท้ายสุดก็เอามติในที่ประชุมมาขออนุมัติ ถ้าเห็นว่าไม่มีปัญหาอะไรก็อนุมัติ ต้องทำงานเป็นคณะ ต้องช่วย ไม่ได้รวบอำนาจ เราตั้งกลไกขึ้นมาบริหารวัคซีน แก้ปัญหาโควิด ฟังความเห็นทุกหน่วยงาน โดยเฉพาะแพทย์ สาธารณสุข อย่าไปฟังที่บิดเบือนเยอะๆ อันตราย วันนี้เราต้องมีภูมิต้านทานเรื่องการเชื่ออะไรง่ายๆ อย่าให้เขาชักจูงง่ายๆ ยืนยันรัฐบาลทำเต็มที่ให้กับประชาชน ประเทศชาติ” พร้อมตบอกบอก “เพราะประเทศชาติคือหน้าที่ของตน”

@ที่อย่าลืมว่านอกจากประเด็น“วัคซีนแอสตราฯอยู่ไหน”แล้วใน“หน้างาน” เมื่อวาน(31พ.ค.) เพิ่งเกิดเคสปัญหา ทำให้ ประชาชน สับสน จากที่“กทม.”ของ“บิ๊กวิน”ที่ทั้งๆ“โควิด”ยังพีคแรง แต่ในจังหวะจะครบ 14 วันตามประกาศ“ล็อกดาวน์สถานบริการผู้ประกอบการ”เมื่อวาน จู่ๆตอนบ่ายแก่ๆ กทม. ก็ออกประกาศผ่อนปรน 5 สถานบริการ ท่ามกลางความดีใจผู้ประกอบการแต่ก็ยังมีบางฝ่ายก้ำกึ่งว่าจะดีหรือ.. จนไม่กี่ชั่วโมงถัดมาในช่วงทุ่มวันเดียวกัน(31พ.ค.) ก็มีประกาศจาก ศบค.ออกมาให้ชะลอการประกาศปลดล็อกดังกล่าวของ กทม. ที่วันนี้(1มิ.ย.)ต้องออกประกาศมาอีกฉบับยืนยันตาม ศบค.ล็อก 5 กิจการต่อไป

@ที่แน่นอนแม้ในท่ามกลางการเห็นด้วยของหลายฝ่ายกับการเบรค กทม. ของ ศบค. แต่ด้านหนึ่งก็มีเสียงวิจารณ์อื้ออึงถึงความสับสนเปลี่ยนไปมาจากประกาศราชการ ที่สำหรับ กทม.อาการ“หลุดรั่ว”ไม่ใช่ครั้งแรก เช่นครั้งที่ กทม. มีมติ(4ม.ค.) ให้จำหน่ายและนั่งทานอาหารที่ร้านได้ระหว่าง 06.00-19.00 น. หลังจากนั้นห้ามนั่งรับประทานอาหารที่ร้าน และให้ขายแบบ Take Away หรือซื้อกลับกินที่บ้านเท่านั้น โดยมีผลในวันที่ 5 ม.ค.

แต่ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงวันเดียวกัน(4ม.ค.)“นายกลุงตู่” ในฐานะ ผอ.ศบค. ออกมาเบรคแรงว่า ขอให้ยกเลิกมาตรการของ กทม. ที่ประกาศออกมาไปก่อน เพราะได้รับข้อเสนอมาจากสมาคมภัตตาคารไทย ว่ามีผลกระทบสูง โดยจะให้ขายอาหารได้จนถึง 3 ทุ่ม

@เรียกว่าแม้จะเป็นธรรมชาติการประสานงานที่เกิดอาการ “รั่ว” ได้ แต่ในภาวะวิกฤติเหมือนการทำสงครามโควิดถือว่า“อันตราย”เพราะเป็นความผิดพลาดอยู่บนความเป็นตายประชาชน ที่แน่นอนเคส กทม.เมื่อวานยิ่งไปซ้ำเติม“ความเชื่อมั่น”ประชาชนที่สั่นคลอนอยู่แล้วจากสารพัดเคส“ความผิดพลาด-ล้อมเหลว”ในภาพใหญ่ของ“รัฐบาล-ศบค.”และ“ลุงตู่”ก่อนหน้า ที่ยังต้องลุ้นกันว่า 7 มิ.ย. จะเป็นวันชี้ชะตาสุดท้ายของ”ลุงตู่”หรือไม่

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news