fbpx
Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

“วัคซีนเลือก” ไม่รอ “ลุง” เราจะรอดกันหมด

“วัคซีนเลือก” ไม่รอ “ลุง” เราจะรอดกันหมด

 

สถานการณ์ ในช่วง โควิด-19 แพร่ระบาด นอกจากมาตรการในการดูแลเศรษฐกิจ ที่มีความสำคัญในการเยียวยาธุรกิจและพยุงเศรษฐกิจให้เติบโตได้ต่อเนื่องสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน คือการวางแนวทางการฉีดวัคซีนป้องกันให้กับประชาชนและคนในประเทศ ซึ่งดูเหมือนการบริการจัดการของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมาดูล่าช้า และยังไม่ทันสถานการณ์เข้าที่ควร จนทำให้หลายฝ่ายออกมาเรียกร้อง ให้มีการนำวัคซีนเข้ามาเพิ่มขึ้น โปรดไปถึงให้ภาคเอกชนเป็นตัวแทนในการรับวัตซีนเข้ามากระจายให้ทั่วถึงคนทุกชนชั้น

 

 

โดย นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า การรับมือสถานการณ์ โควิด-19 จากนี้รัฐบาลควรเร่งปรับตัว เพราะที่ผ่านมาไม่มีการวางแผนบริหารจัดการที่ดี ทำให้ประเทศไทยมีตัวเลือกวัคซีนไม่มากนัก ซึ่งจากนี้คงต้องใช้ระยะเวลาซักระยะในการวางแผนและปรับตัวในระยะยาวให้มีวัคซีนที่มีตัวเลือกมากขึ้นให้กับประชาชน โดยรัฐบาลสามารถจับมือกับภาคเอกชน ในการติดต่อวัคซีนตัวอื่นเข้ามายังประเทศไทยเพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของประชาชนที่อยากมีทางเลือก รวมทั้งเพื่อเป็นการรองรับวีซ่าวัคซีนในอนาคต เพราะจะเป็นสิ่งสำคัญในการเดินทางข้ามประเทศ เนื่องจากแต่ละประเทศมียี่ห้อวัคซีนที่รองรับไม่เหมือนกัน ดังนั้นคงต้องนำเข้ามาให้ครอบคลุม และเพียงพอกับประชาชนทุกคนในประเทศ

ซึ่งจากความคิดเห็นของอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลยังล่าช้ากับสถานการณ์ในปัจจุบัน ที่ในหลายประเทศทั่วโลกดำเนินการไปแล้ว ในการรองรับการเปิดประเทศ โดยผ่านการกระจายวัคซีนให้กับประชากร เตรียมทำวีซ่าวัคซีน เพื่อเป็นการยืนยันตัวตนทุกคนในการเดินทางข้ามประเทศว่ามีการรับวัคซีนเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งจะทำให้การท่องเที่ยวกลับมาได้รวดเร็วในอนาคตอย่างปลอดภัย

แม้การดำเนินการของรัฐบาลจะล่าช้า แต่ล่าสุด ก็ต้องยอมออกมาให้ภาคเอกชนเป็นทางเลือก ในการนำเข้าวัคซีน เพื่อให้ประชาชนมีหลายตัวเลือกหลายยี่ห้อสำหรับการฉีด โดย นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาเปิดเผยผลการประชุมคณะทำงานพิจารณาการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่มี น.พ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร เป็นประธานคณะทำงาน ถึงแนวทางในการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อโควิด-19 สำหรับใช้ในสถานพยาบาลของรัฐ และวัคซีนทางเลือกเพื่อนำมาให้บริการในสถานพยาบาลเอกชน โดยควรกำหนดให้วัคซีนโควิด-19 เป็นสินค้าควบคุม ซึ่งสถานพยาบาลภาคเอกชนควรคัดเลือกวัคซีนโควิด-19 ทางเลือก ที่มีคุณลักษณะหรือยี่ห้อที่แตกต่างจากวัคซีนที่ภาครัฐนำเข้ามา และสามารถจัดส่งวัคซีนได้ทันภายในปี 2564

รวมทั้งขอให้มีการควบคุมราคาการให้บริการในการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทางเลือกให้กับประชาชนในสถานพยาบาลเอกชนให้สมเหตุสมผล และมีราคาที่เหมาะสม ซึ่งที่ประชุมคณะทำงานฯได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ช่วยผลักดันให้มีบริษัทผลิตและจัดจำหน่ายวัคซีนเข้ามาขึ้นทะเบียนในประเทศไทยให้เพิ่มมากขึ้นคงต้องมาดูว่าการนำเข้า จะมีหลายตัวเลือกให้ประชาชนหรือไม่ จะเริ่มดำเนินการได้เร็วที่สุดจนให้ผลในเวลาใดคงต้องติดตามกัน

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube