เรียกว่ากำลังขับเขี้ยวและเข้มขันขึ้นเรื่อยๆ สำหรับการควอลิฟายเพื่อลุ้นตั๋วไปมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ที่ประเทศฝรั่งเศส หรือ ปารีสเกมส์ 2024 ซึ่งมาถึงวันนี้ ทัพนักกีฬาไทยคว้าตั๋วโอลิมปิกได้แล้ว 36 ใบ จาก 10 ชนิดกีฬา
หากเทียบกับเพื่อนบ้านในย่านอาเซียน ถือว่าโควตาที่ทำได้ของเรานั้นยังคงมากกว่าชาติไหน โดยเวียดนาม เพิ่งได้ไป 4 ที่นั่ง, อินโดนีเซีย 7 ใบ, มาเลเซีย 5 ใบ, สิงคโปร์ 9 ใบ และ ฟิลิปปินส์ 4 ใบ
โดยตั๋ว 36 ใบของเรานั้นได้มาจาก 10 ชนิดกีฬา คือ มวยสากล 5 ที่นั่ง, จักรยาน 4 ที่นั่ง, ไคท์บอร์ด 2 ที่นั่ง, เรือใบ 2 ที่นั่ง, ยิงปืน 2 ที่นั่ง, ปัญจกีฬา 1 ที่นั่ง, เทควันโด 3 ที่นั่ง, ขี่ม้า 1 ที่นั่ง, เทเบิลเทนนิส 3 ที่นั่ง,แบดมินตัน 9 ที่นั่ง และ ยกน้ำหนัก 4 ที่นั่ง
ซึ่งในช่วงเดือนมีนาคม และ ต้นเดือนเมษายน 2567 มีนักกีฬาไทยคว้าตั๋วโอลิมปิกเกมส์ 2024 ได้เพิ่ม 12 ที่นั่ง ประกอบด้วย เทควันโด 2 รุ่น “หยู” บัลลังก์ ทับทิมแดง รุ่น 68 กิโลกรัมชาย และ “ใบเตย” ศศิกานต์ ทองจันทร์ รุ่น 67 กิโลกรัมหญิง โดยทั้ง 2 คน ได้โควตาจากการคว้าแชมป์ศึกเทควันโด รอบคัดเลือกโอลิมปิก เกมส์ 2024 ที่จีน
ขณะที่ มวยสากล คว้าโควตาเพิ่ม 1 รุ่น จาก จุฑามาศ จิตรพงษ์ ในรุ่น 54 กิโลกรัมหญิง ในศึกโอลิมปิก เกมส์ 2024 รอบคัดเลือก เลคแรก ที่ประเทศอิตาลี และเป็นการไปโอลิมปิก เกมส์ สมัยที่ 2 ต่อจาก โตเกียว 2020
ส่วน เทเบิลเทนนิส คว้าตั๋วโอลิมปิกเพิ่มอีก 3 คน จากประเภททีมหญิง ประกอบด้วย สุธาสินี เสวตรบุตร, จิณห์นิภา เสวตรบุตร, อรวรรณ พาระนัง หลังมีคะแนนสะสมอยู่อันดับที่ 11 ของโลก และได้โควตาจากทีมที่มีอันดับโลกที่ดีที่สุดเป็นลำดับแรก สำหรับการคว้าโควตา โอลิมปิกเกมส์ ของทีมเทเบิลเทนนิสหญิงไทย จะเป็นครั้งแรกในรอบ 16 ปีของประเทศไทยในกีฬาประเภททีม ที่สามารถผ่านเข้าสู่โอลิมปิกเกมส์ได้สำเร็จ
ขณะที่ทัพนักกีฬาแบดมินตันก็ไม่ทำให้แฟนๆต้องผิดหวัง หลังจากวันอังคารที่ 9 เมษยนที่ผ่านมา ในการแข่งขันแบดมินตันชิงแชมป์เอเชีย 2024 ที่เมืองหนิงโบ สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นรายการเก็บคะแนนสุดท้ายก่อนที่จะตัดอันดับไปเล่นโอลิมปิกเกมส์ 2024 เมื่อ โนโซมิ โอกูฮาระ มืออันดับ 17 ของโลกจากญี่ปุ่น พลาดท่าพ่ายให้กับ อัน เซยอง มืออันดับ 1 ของโลกจากเกาหลีใต้ ไป 1-2 เกม ส่งผลให้ “เม” ศุภนิดา ที่ลงสนามในรอบแรก แพ้ให้กับ เฉิน ยู่เฟย มือ 2 ของโลกจากจีน ไป 2 เกมรวด แต่ก็ยังดีพอที่จะการันตีในโควต้าไปเล่นโอลิมปิกเกมส์ในประเภทหญิงเดี่ยวคนที่ 2 ต่อจาก “เมย์” รัชนก อินทนนท์ ได้สำเร็จ
นอกจากนี้เป็นนักแบดมินตันรายที่ 9 ที่ได้สิทธิ์ในการเล่นโอลิมปิกเกมส์ 2024 ต่อจาก ประเภทชายเดี่ยว “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์, ประเภทชายคู่ “เอ็ม” สุภัค จอมเกาะ กับ “สกาย” กิตินุพงษ์ เกตุเรน, ประเภทหญิงคู่ “กิ๊ฟ” จงกลพรรณ กิติธรากุล กับ “วิว” รวินดา ประจงใจ และประเภทคู่ผสม “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย และเป็นการคว้าโควต้าแบดมินตันในโอลิมปิกเกมส์ครบทุกประเภทในรอบ 20 ปี ต่อจาก โอลิมปิกเกมส์ 2004 ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ
ปิดท้าย การแข่งขันยกน้ำหนัก 2024 ไอดับเบิ้ลยูเอฟ เวิลด์ คัพ รอบคัดเลือกโอลิมปิกเกมส์ 2024 “ปารีสเกมส์” ระหว่างวันที่ 31 มีนาคม-11 เมษายน 2567 ที่ศูนย์ประชุมขุนเลิศโภคารักษ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2567 ถึงตอนนี้น่าจะเป็นที่แน่นอนแล้วว่าทีมไทยจะได้ไปโอลิมปิก 4 คน โดยในรุ่น 49 กิโลกรัมหญิง ที่มี นางสาวธรรญธร สุขข์เจริญ และ นางสาวสุรจนา คำเบ้า เป็นทางเลือก และ 61 กิโลกรัมชาย ที่มี อส.ทพ.ธีรพัฒน์ ชมชื่น และ นายธีรพงศ์ ศิลาชัย ที่เป็นความหวัง
ยังไม่ตัดสินใจว่าจะเลือกนักกีฬาคนไหนลงชิงชัย ส่วนรุ่น 73 กิโลกรัมชาย แน่นอนว่าเป็น “เวฟ” วีรพล วิชุมา และรุ่นมากกว่า 81 กิโลกรัมหญิง จะเป็น “ส้ม” ดวงอักษร ใจดี ที่จะได้ไปแข่งขัน ส่วนอีก 2 รุ่น ขอพิจารณาความพร้อมและความเหมาะสมของนักกีฬาอีกครั้ง โดยจะประกาศรายชื่ออย่างเป็นทางการในวันที่ 14 มิถุนายน 2567
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
