ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ”พิธา ลิ้มเจริญรัตน์“ แถลงวิเคราะห์การดำเนินงานของรัฐบาลในรอบ 3 เดือน โดยไม่ขอให้คะแนน แต่รัฐบาลต้องมีโรดแม็ปการทำงานให้ชัดเจน เพราะบางเรื่อง ก็ทำแบบคิดไปทำไป
พร้อมยืนยัน เป็นฝ่ายค้านอย่างสร้างสรรค์ ไม่ใช่คิดแต่จ้องล้มรัฐบาล ทั้งนี้ ไม่รู้ว่าในอนาคตจะมีการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีหรือไม่ แต่ควรให้โอกาส “เศรษฐา ทวีสิน“ ทำงาน ขณะเดียวกัน เชื่อว่าตนเองจะรอดคดีหุ้นสื่อที่อยู่ในการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ เพราะมั่นใจในหลักฐาน
โดยวันนี้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคก้าวไกล ตั้งโต๊ะแถลงข่าววิเคราะห์การดำเนินงาน 100 วัน หรือในรอบ 3 เดือนแรกของรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งมีทั้งข้อดี และข้อเสียว่า ยังประเมินเป็นคะแนนไม่ได้ ทำได้อย่างมาก แค่การวิเคราะห์ เพราะไม่มีโรดแมปออกมาว่า รัฐบาลจะทำอะไรที่ชัดเจน แต่มีหลายเรื่องที่เห็นว่า ทำได้ดี เช่น การช่วยเหลือแรงงานไทยและตัวประกันในอิสราเอล และการดูแล Sme
จึงถือว่า การทำงานของรัฐบาลผ่านบ้าง ไม่ผ่านบ้าง ซึ่งทำออกมาให้เห็นอย่างชัดเจนว่า มีบางเรื่องทำได้ดีแล้ว ก็ขอให้ทำต่อ บางเรื่องที่ทำแล้ว ยังมีข้อที่จะต้องพัฒนาและปรับปรุงก็หวังว่า รัฐบาลจะรับฟังในการทำงานของฝ่ายค้านอย่างสร้างสรรค์และฟังความคิดเห็นของพี่น้องประชาชน ส่วนงานที่คิดไป ทำไป มีการปรับเปลี่ยนไปมา ไม่ว่าจะเป็นที่มาของเงิน เทคโนโลยีที่ใช้ และผู้ที่ได้รับผลประโยชน์จากนโยบายดิจิทัลวอลเลท และการจ่ายเงินเดือนข้าราชการ
สำหรับความคาดหวังการทำงานของรัฐบาลในปีหน้า ที่รัฐบาลควรมี โรดแมปที่ชัดเจน โดยต้องการเห็นแผนการทำงานของรัฐบาล 1 ปี ต้องมีการทำงานอย่างเป็นมืออาชีพมากว่านี้ และในฐานะรัฐบาลผสมก็ต้องทำงานให้มีเอกภาพมากกว่านี้เช่นกัน ควรศึกษารายละเอียดของโครงการที่จะทำให้ดีเสียก่อนที่จะประกาศออกไป และต้องเป็นแผนที่ประชาชนและสื่อมวลชนสามารถติดตามกับการทำงานของรัฐบาลได้ และมี KPI ที่ชัดเจน
ส่วนสถานการณ์การเมืองในปีหน้า มีการวิเคราะห์ว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง โดยมีการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีจากนายเศรษฐา ทวีสินเป็นนางสาวแพทองธาร ชินวัตร และโครงการดิจิทัลวอตเล็ตจะไม่เกิดนั้น นายพิธา กล่าวว่า ส่วนตัวไม่ทราบ แต่การปรับเปลี่ยนทิศทางน่าจะเหมาะสมมากกว่าการหาทางลง เพราะประเทศไม่ได้ต้องการอะไรมากกว่านี้ แต่ขอให้ปรับเปลี่ยนทิศทางมีเป้าหมายและมีความเป็นมืออาชีพ ก็จะทำให้สถานการณ์ต่างๆ ที่ดูแล้วเหมือนร้อนในปีหน้า ก็จะเบาบางลงได้และการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่สิ่งที่ควรทำในตอนนี้ ควรให้โอกาสนายกรัฐมนตรีได้ทำงานก่อน
ขณะเดียวกัน นายพิธา ไม่ตอบคำถามว่า มั่นใจในพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ หลังเปลี่ยนกรรมการบริหารพรรคว่า จะยังคงเป็นฝ่ายค้านร่วมกันว่า แต่มั่นใจในตัวเรา ไม่ว่าจะอยู่ฝั่งไหน พรรคก้าวไกลก็ยังเป็นพรรคอันดับ 1 ของประเทศอยู่ดี จึงขอทำงานเพื่อประชาชน พร้อมยืนยัน ขอเป็นฝ่ายค้านสร้างสรรค์ ไม่ใช่จ้องจะล้มรัฐบาลอย่างเดียว
นอกจากนี้ นายพิธา ยังมั่นใจว่าไม่ผิดในคดีถือครองหุ้นสื่อ โดยยันมีหลักฐานชัดเจน พร้อมที่จะได้รับการตรวจสอบ ทั้งวันที่ 20 ธันวาคม และ 25 ธ.ค. โดยตนจะเดินทางไปศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อฟังคำวินิจฉัย ด้วยตัวเอง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews