fbpx
Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

บี้นายกฯผ่อนกฏกู้ แก้หนี้ ลดน้ำมันจิ๊บจ๊อย ของยังแพง

 

 

 

แอ็คชั่นกันทุกภาคส่วน หลังนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง “นายเศรษฐา ทวีสิน” ประกาศเดินหน้าแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ยกให้เป็นวาระแห่งชาติ ทำให้การค้าทาสในยุคใหม่หมดไปจากประเทศไทย

 

 

 

 

นั่นเพราะที่ผ่านมา ปัญหาหนี้นอกระบบ จากการเรียกเก็บดอกเบี้ยสูงอย่างไม่เป็นธรรม รวมทั้งการทวงถามหนี้ที่มีลักษณะคุกคามขู่เข็ญหรือใช้กำลังประทุษร้าย ส่งผลต่อการใช้ชีวิตและความสงบเรียบร้อยของสังคม

 

 

 

 

ซึ่งหลังจากการเปิดรับลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบที่รัฐบาลจัดขึ้นครบ 7 วัน พบว่า มีประชาชนลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ 75,199 ราย รวมจำนวนเจ้าหนี้ 47,174 ราย มีมูลหนี้รวม 3,820.36 ล้านบาท

 

 

 

 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ถือเป็นวาระสำคัญของชาติจริง ๆ นี่ไม่ใช่การแก้ไขปัญหาเพื่อภาพลักษณ์ของรัฐบาล ของตนเอง หรือของหน่วยงาน แต่นี่คือการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชน ทั้งนี้เชื่อว่า เจ้าหนี้และลูกหนี้ก็ยังพร้อมที่จะประนีประนอมกันได้ ก็ขอให้เชิญเข้ามาไกล่เกลี่ยกัน ให้เข้ามาร่วมกันหาทางออกอย่างสันติวิธี และถูกต้องตามกฎหมาย จัดทำเป็นสัญญาประนีประนอมต่อกัน ตามแบบฟอร์มที่กระทรวงมหาดไทยได้จัดเตรียมไว้ และกำหนดอัตราดอกเบี้ย ระยะเวลา และงวดผ่อนชำระหนี้ที่เหมาะสมกับศักยภาพการชำระหนี้ของลูกหนี้แต่ละราย ซึ่งตนเองเชื่อว่าจะเป็นทางออกที่ดีทั้งกับเจ้าหนี้และลูกหนี้

 

 

 

 

 

ขณะที่ “นายเฉลิม ช่างทองมะดัน” นายกสมาคมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างแห่งประเทศไทย บอกกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า วินมอเตอร์ไซต์รับจ้างมีหนี้นอกระบบไม่มาก เพราะได้ยื่นกู้กับธนาคารออมสิน ในโครงการ สินเชื่อธนาคารประชาชน เพื่อแก้ไขหนี้นอกระบบ โดยธนาคารออมสินให้วงเงินกู้รายละไม่เกิน 50,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 0.75% ต่อเดือน ระยะเวลาชำระคืนเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 5 ปี หรือ 60 งวด จึงไม่ได้ไปลงทะเบียนแก้หนี้นอกระบบที่รัฐบาลจัดขึ้น แต่ก็มองว่าเป็นเรื่องดีที่รัฐบาลได้เข้ามาช่วยเหลือประชาชน แต่อย่างไรก็ตาม อยากให้รัฐบาล ธนาคารแห่งประเทศไทย สถาบันการเงินต่างๆ ผ่อนคลายกฏระเบียบในการกู้เงิน เพื่อให้ประชาชนโดยเฉพาะอาชีพอิสระที่ไม่มีสลิปเงินเดือนย้อนหลัง สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ที่ถูกต้อง

 

 

 

 

 

“รัฐบาลต้องแก้ไขกฏระเบียบของแบงก์ชาติที่บอกว่าใครที่จะกู้เงินต้อง 1.มีสลิปเงินเดือนย้อนหลัง 3 เดือน 6 เดือนอย่างนี้ ก็ไม่ต้องมี อาชีพอิสระเขาเข้าไม่ได้ ข้อ 2.หลักทรัพย์ที่เค้ามีอยู่ อย่างวินมอเตอร์ไซต์ เขาขึ้นทะเบียนถูกต้อง ก็เสื้อวินเขาควรจะเป็นหลักทรัพย์ ตัวค้ำประกันได้ไหม พอแบงก์จะถามว่าคุณมีหลักทรัพย์ค้ำประกันไหม มันก็ไม่มี อาชีพอิสระเราก็มีแต่เสื้อวิน เราค้ำได้ไหมละ ปรากฏว่าทางกฏหมายบอกไม่ได้ ถ้าไม่ได้ผมจะเข้าถึง แหล่งเงินทุนได้ยังไง ก็ยังไม่ได้อยู่ดี อย่างกลุ่มหาบเร่ เขามีแผงขายของก็ให้เป็นหลักทรัพย์ในการค้ำประกันได้ไหม วินมอเตอร์ไซต์เขาก็มีเสื้อวิน เขาขึ้นทะเบียนถูกต้อง ก็ถือว่ามีหลักทรัพย์ตรงนี้ ค้ำประกันเขาได้ไหม อย่างแท็กซี่เค้ามีรถเป็นของเขาเอง เป็นหลักทรัพย์ในการค้ำประกัน ในการกู้ได้ไหม ถ้าแก้ไขอย่างนี้ให้เขาเข้าถึงได้ ผมว่าการแก้ไขหนี้นอกระบบก็จะหมดไปโดยธรรมชาติของมัน ถ้าทุกคนเข้าถึงแหล่งเงินกู้ในระบบได้ แหล่งเงินกู้นอกระบบก็หากินไม่ได้ใช่ไหมครับ”

 

 

 

 

 

นอกจากนี้ “นายเฉลิม” ยังได้กล่าวถึงราคาน้ำมันซึ่งเป็นต้นทุนหลักของวินมอเตอร์ไซต์รับจ้างด้วยว่า แม้ราคาน้ำมันเบนซินจะปรับลดลงในช่วงที่ผ่านมา แต่ก็ยังอยู่ในระดับสูง ซึ่งในความจริงแล้ว ราคาน้ำมันไม่ควรเกินลิตรละ 30 บาท และรัฐบาลจะต้องดูแลค่าครองชีพของประชาชนด้วยเช่นกัน

 

 

 

 

“มันก็เหมือนเดิม จริงๆแล้วไม่ได้ลดเยอะ ลดทีละสตางค์ ก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรมากมาย เราก็ยังมองว่า ราคามันก็ยังสูงอยู่ จริงๆน้ำมันไม่ควรเกิน 30 แต่ทีนี้มันบางทีก็ 39 จุด จะ 40 แล้ว บางทีก็ 40 กว่าอย่างนี้ ลดมาทีละสตางค์ ที่ละบาทอย่างนี้ มันก็ไม่มีอะไรมากมาย สิ่งเหล่านี้เราก็ยอมรับได้ เพราะมันเป็นกลไกของตลาด แต่ปัญหาของเราก็คือว่า การปรับเงินที่จะต้องเป็นค่าโดยสาร จะต้องมาปรับค่าครองชีพของคนให้สูงขึ้นอีก ค่าแรงขั้นต่ำต้องขึ้น อะไรต้องขึ้นอย่างนี้ เพราะบางทีค่าแรงเค้าเท่านี้ เราจะไปเก็บค่าโดยสารเท่านี้ เราก็เห็นใจเขา แต่ถ้าอาหารการกินของเค้าแต่ละวันมันขึ้นทุกวัน พอมันขึ้นทุกวัน ค่าแรงไม่ขึ้น ก็กลายเป็นว่าค่าครองชีพของคน มันไม่ทันต่อเหตุการณ์ พอมันไม่ทันต่อเหตุการณ์ น้ำมันก็เลยมองเป็นว่าน้ำมันมันก็แพง ค่าอาหารก็แพง แต่ทำไมค่าแรงเรายังเท่าเดิมอย่างนี้ ผมว่ารัฐต้องไปปรับปรุงเรื่องค่าครองชีพเค้าให้ทันต่อสถานการณ์”

 

 

 

 

 

จากนี้ต่อไปจะต้องติดตามการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบของรัฐบาลเศรษฐา ซึ่งเชื่อมโยงกับค่าครองชีพของประชาชนอย่างใกล้ชิด เพราะทุกการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ย่อมส่งผลต่อคะแนนนิยมในตัวรัฐบาลนั่นเอง

 

 


ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube