fbpx
Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

“อิชิอิ” แม่ทัพ “ช้างศึก” คนใหม่

หลังจากที่ “มาซาทาดะ อิชิอิ” กุนซือชาวญี่ปุ่น วัย 56 ปี เข้ามารับตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย คนใหม่ แทนที่ของ “มาโน่ โพลกิ้ง” กุนซือชาวบราซิล ที่แยกทางกันไปก่อนหน้านี้ ทำให้แฟนบอลไทยหลายๆ คน ดีใจที่ได้โค้ชอย่างที่ต้องการ และสมหวังกับการรอคอยในครั้งนี้

 

 

 

 

 

 

 

สำหรับ “ อิชิอิ” แม้จะเป็นกุนซือที่ทำงานในไทย และประสบคามสำเร็จมามากมาย แต่เขาก็เคยมีดีกรีระดับคว้าแชมป์เจลีก และยังพาทีมเข้ารอบชิงชนะเลิศ ในระดับสโมสรโลก หรือแม้กระทั่งเคยผันตัวไปเป็นคนครัวในโรงเรียน ก็เป็นมาแล้ว

 

 

 

 

วันนี้เราจะมาพามาส่อง ประวัติของ “มาซาทาดะ อิชิอิ” ว่าเส้นทางในชีวิตการทำงานตั้งแต่นักฟุตบอล จนผันตัวมาเป็นโค้ช เป็นมาอย่างไรกันบ้าง “อิชิอิ” เริ่มต้นชีวิตนักฟุตบอลกับ NTT คันโต ในปี 1989 ซึ่งเป็นยุคที่ญี่ปุ่นยังไม่มีฟุตบอลลีกอาชีพ โดยมีการแข่งขันระดับกึ่งอาชีพอย่าง เจแปน ซอคเกอร์ ลีก หรือ JSL รองรับ

 

 

 

จากนั้น ในปี 1991 อิชิอิ ได้ย้ายไปอยู่กับ ซูมิโตโมะ เมทัล ก่อนที่สโมสรจะเปลี่ยนชื่อมาเป็น คาชิม่า แอนท์เลอร์ส ในปี 1993 หลังจากที่มีการก่อตั้งเจลีก ซึ่งเป็นลีกอาชีพเต็มตัว ทำให้ทุกสโมสรต้องมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างขนานใหญ่ จนมีความมั่นคงแข็งแรงอย่างเช่นในปัจจุบัน

 

 

 

ในช่วงเวลาที่อิชิอิอยู่กับคาชิม่า แอนท์เลอร์ส ตลอด 6 ปี เขามีส่วนพาทีมคว้าแชมป์ครบทั้ง 3 รายการในญี่ปุ่น รายการละ 1 สมัย ได้แก่ เจลีก ในปี 1996 และ เอ็มเพอเรอร์ คัพ กับ เจลีกคัพ ในปี 1997 ก่อนจะย้ายไปอยู่กับ อวิสป้า ฟุกุโอกะ ในปี 1998 และแขวนสตั๊ดไปในวัย 31 ปี

 

 

 

หลังจากที่แขวนสตั๊ดในปี 1998 ในปีถัดมา หรือปี 1999 อิชิอิได้รับการติดต่อจากคาชิม่า แอนท์เลอร์ส อดีตต้นสังกัด ให้กลับมาทำงานเป็นนักกายภาพของทีม อิชิอิ ใช้เวลาในการเป็นนักกายภาพของแอนท์เลอร์สนานกว่า 16 ปี ในเดือนกรกฎาคม 2015 หลังจากที่ทางสโมสรตัดสินใจปลด “โตนินโญ่ เซเรโซ่” กุนซือชาวบราซิลออก อิชิอิก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนของทีม และทำให้เขาเป็นกุนซือชาวญี่ปุ่นคนแรกในรอบ 21 ปี ของประวัติศาสตร์สโมสรอีกด้วย

 

 

 

 

 

 

ในฐานะกุนซือ อิชิอิ ประสบความสำเร็จมาอย่างมากมาย โดยผลงานที่โดดเด่น คือการพาสโมสรคาชิม่า แอนท์เลอร์ส ที่คุมทีมแรกตั้งแต่ปี 1999 ก่อนประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ลูวาน คัพ 2015, แชมป์เจ ลีก 2016, แชมป์เอ็มเพอเรอร์ส คัพ 2016, แชมป์ซูเปอร์คัพ 2017 และเคยพาทีมคว้ารองแชมป์สโมสรโลกมาแล้วในปี 2016 หลังแพ้ เรอัล มาดริด ทีมแกร่งจากลาลีกา สเปน ในรอบชิงชนะเลิศ ด้วยสกอร์ 2-4 รวมถึง เคยคว้ารางวัลกุนซือยอดเยี่ยมเจลีกแห่งปี 2016 มาแล้ว จากนั้นย้ายไปคุม โอมิยะ ในปี 2017-2018

 

 

 

ส่วนการคุมทีมในลีกไทย อิชิอิ เข้ามาคุมทีมสมุทรปราการ ซิตี้ เป็นทีมแรกเมื่อปี 2019 จากนั้นย้ายมาคุมทัพบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในปี 2021 ก่อนสร้างประวัติศาสตร์ เป็นเฮดโค้ชคนแรกที่พา “ปราสาทสายฟ้า” คว้าทริปเปิลแชมป์ 2 ฤดูกาลติดต่อกัน คือ 2021-2022 และ 2022-2023 จากนั้นในฤดูกาล 2023-2024 อิชิอิ ถูกบุรีรัมย์

 

 

 

ดันขึ้นไปนั่งตำแหน่งประธานเทคนิค และให้ อาเธอร์ ปาปาส มาคุมทัพ และถูกโยกมาช่วยทีมชาติไทยในตำแหน่งผู้อำนวยการเทคนิค เมื่อเดือนสิงหาคม สุดท้ายเกิดปัญหาทำให้ อิชิอิ โบกมือลาประเทศไทยไปแบบเงียบๆ ก่อนที่จะถูกทาบทามให้กับมารับตำแหน่งกุนซือทีมชาติไทย เป็นความท้าทายของเจ้าตัว ที่อยากทำในเส้นทางการเป็นโค้ช

 

 

 

 

ในวันที่ อิชิอิ ตัดสินใจกลับมาที่ประเทศไทยอีกครั้ง ด้วยภาระหน้าที่อันใหญ่หลวง ที่รอคอยมาอย่างยาวนาน นั้นคือตำแหน่ง “หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย” ที่ต้องแบกรับความหวังของแฟนบอลไทยทั้งประเทศ พร้อมภารกิจเผือกร้อนกับการเตรียมทีมเข้าแข่งขันฟุตบอล AFC Asian Cup 2023 รอบสุดท้าย ในเดือน ม.ค. 2024 รวมไปถึงฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบที่ 2 กลุ่ม C ในอีก 4 นัดที่เหลือ กับเป้าหมายในการเข้ารอบที่ 3

 

 

 

สำหรับ มาซาทาดะ อิชิอิ กลายเป็นเฮดโค้ชต่างชาติคนที่ 12 ที่ได้คุม ทีมชาติไทย เเละเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนชาวเอเชียคนที่ 2 ต่อจาก อากิระ นิชิโนะ โค้ชเพื่อนร่วมชาติ อย่างไรก็ดี อิชิอิ จะพาช้างศึก ไปถึงเป้าหมายดั่งที่คาดไว้ได้หรือไม่ ไม่มีใครรู้ แต่วันนี้ เรารู้แล้วว่า เมื่อเราได้ เขามาไว้ในมือ ก็ขอเอาใจช่วยให้ อิชิอิ ทำงานอย่างราบรื่น และประสบความสำเร็จ อย่าให้ตอนจบไม่ค่อยสวยเหมือนกับโค้ชโปรไฟล์สูงที่สมาคมฯ ชุดนี้เคยแต่งตั้งให้มาคุมทีมชาติอย่าง มิโลวาน ราเยวัช, อากิระ นิชิโนะ และ มาโน โพลกิ้ง

 

 

 

 

ในส่วนคำถามว่า อิชิอิ จะเป็นกุนซือคนที่ใช่สำหรับการพาทีมชาติไทยไปสู่ ฟุตบอลโลก 2026 ได้หรือไม่ ในตอนนี้ขอตอบว่า ยังไม่ใช่ในฟุตบอลโลกหนนี้ เพราะด้วยผลการแข่งขันใน 2 เกมแรกที่ไม่ค่อยเป็นใจ และอีกหนึ่งสิ่งที่ทีมชาติไทยควรทำ คือการปูรากฐานโครงสร้างของฟุตบอลทีมชาติไทย รวมไปถึงการวางแผนภาพโดยรวม ซึ่งคาดว่า อิชิอิ จะมีบทบาทอย่างมากกับวงการฟุตบอลไทยในช่วงหลังจากนี้

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube