น่าติดตามเป็นอย่างยิ่งกับนโยบายแจกเงินหมื่น “ดิจิทัล วอลเล็ต” ผ่านการออกพ.ร.บ. กู้เงิน 5 แสนล้าน
งานนี้ “เพื่อไทย” ดันสุดแรง เพื่อให้นโยบายนี้เกิด เพราะเป็นหนึ่งในนโยบายซึ่งเดิมพันด้วย “ชื่อเสียง” และ “ศักดิ์ศรี” ของพรรคแต่ด้วยวงเงินกู้จำนวนมหาศาล และภาระหนี้ของประเทศที่กำลังจะเกิดขึ้น ทำให้ทุกภาคส่วนออกมาท้วงติง ว่า ไม่ควรกู้
โดย “ศ.ดร.พรายพล คุ้มทรัพย์” นักวิชาการอิสระ ที่ในอดีตนั้น เขาคือ 1 ในคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. บอกกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า รัฐบาลไม่สมควรที่จะกู้เงินมาแจก เพราะเศรษฐกิจไทยในขณะนี้ไม่ได้แย่ถึงขนาดที่จะต้องกระตุ้นด้วยเงินจำนวนมหาศาล “โครงการเองเรื่องการแจกเงินไม่ว่าเงินจะมาจากไหนก็ตาม มันก็ไม่เหมาะสมอยู่แล้ว สาเหตุหลายประการ อันแรกก็คือว่าเศรษฐกิจมันไม่แย่ขนาดถึงจะต้องมีการกระตุ้นด้วยจำนวนเงินมากขนาดนั้น อันนี้คือความจำเป็นที่ไม่จำเป็น ผลเสียที่อาจจะเกิดขึ้นคืออาจจะเกิดเงินเฟ้อด้วยซ้ำไป
ซึ่งอาจจะเป็นปัญหาตามมา เป็นปัญหาสำหรับคนทั่วไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนยากคนจน อันที่สองก็คือเรื่องการสะสมหนี้ซึ่งสูงอยู่แล้ว มันเกินเพดานเดิมไป ต้องขยับเพดานใหม่จะยิ่งทำให้หนี้สะสมเพิ่มขึ้นในสถานการณ์ที่ดอกเบี้ยก็สูงขึ้น ฉะนั้นภาร เรื่องการกู้ก็จะมากขึ้น อันนี้ก็จะเป็น 2 สาเหตุหลักเลยที่ผมเห็นว่ามันไม่สมควรที่จะใช้โครงการที่ใช้เงินกระตุ้นเป็นจำนวนมากมายมหาศาล”
“ศ.ดร.พรายพล” กล่าวอีกว่า วันนี้ต้องรอคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความพ.ร.บ.กู้เงินดิจิตอลวอลเล็ต ซึ่งยังต้องผ่านอีกหลายด่าน ส่วนกรณีที่ภาครัฐมองว่า เศรษฐกิจไทยจะเฉาตาย หากปี 2567 ปล่อยไว้ไม่ทำอะไร หากไม่มีโครงการดิจิทัลวอลเล็ตนั้น ส่วนตัวมองว่า เศรษฐกิจไทยไม่ถึงกับเฉา แต่การขยายตัวของจีดีพีปีหน้า 2567 อาจจะไม่ถึง 5% ตามที่รัฐบาลได้คาดหวังไว้
“มันก็ดีขึ้นนะ ปีนี้อาจจะดีขึ้นเมื่อผลของโควิดซาลงไป ปีหน้าก็น่าจะดีขึ้นในระดับหนึ่งตามการคาดการณ์ของหน่วยงานต่างๆทั้งในประเทศนอกประเทศ แต่ว่ามันคงไม่ดีฟู่ฟ่าอย่างดีเค้าอยากจะเห็นโต 5% เป็นเรื่องที่เกือบจะเรียกว่าเป็นข้อยกเว้นมากกว่ากรณีปกติสำหรับประเทศไทย ฉะนั้นผม คิดว่าเฉามันก็คงไม่ได้เฉาถึงขนาดเศรษฐกิจติดลบ ชะลอตัวอาจจะเป็นไปได้
ก็คืออาจจะชะลอลงไปแต่ชะลอไม่ได้สาเหตุอะไร มันก็สาเหตุของการที่ประเทศไทยเอง ในแง่ของโครงสร้างเศรษฐกิจเอง สังคมเอง มันก็ไม่ได้เอื้อทำให้เกิดการเจริญเติบโตที่รวดเร็วเท่าไหรนัก” และเมื่อถามถึงเครื่องยนต์สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในปี 2567 คืออะไร คำตอบที่ได้ น่าสนใจ
“ก็หนึ่งก็คือการส่งออก ซึ่งก็มีท่าทีว่าอาจจะดีขึ้นบ้าง แต่สิ่งที่เป็นห่วงก็คือเศรษฐกิจโลกมันจะย่ำแย่ไหม อันเนื่องมาจากสงครามทั้ง 2 สงครามที่เกิดขึ้นตอนนี้ แล้วก็นโยบายทางด้านการเงินโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ธนาคารกลางของประเทศใหญ่ๆ เช่นสหรัฐฯยุโรป เป็นต้น แต่ดูท่าทางตอนนี้นโยบายการเงินก็ไม่น่าจะเป็นอุปสรรค การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของโลกก็น่าจะดี กลับไปสู่ภาคปกติ
อันดับปกติได้ เพราะฉะนั้นการส่งออกของไทยก็น่าจะขยับขึ้นดีขึ้น ปีนี้แย่ต้องยอมรับว่าแย่เพราะมันติดลบ ปีหน้าเราจะเริ่มขยายตัวเรื่องการท่องเที่ยววันนี้ก็จะเป็นอีกความหวังหนึ่ง เราก็มีความหวังอยู่ว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติ ไม่ว่าจะจากจีน หรือ ยุโรป หรือจากอินเดีย หรือที่ไหนก็ตามก็จะกลับมาเที่ยวประเทศไทยมากขึ้น ก็อาจจะไม่ได้กลับไปในระดับเดิม 40 ล้าน แต่ว่า 20 กว่าขึ้นไปถึง 30 มันก็ใช้ได้แล้วในระดับหนึ่ง ที่เหลือก็เป็นเรื่องของการลงทุนภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมใหม่ซึ่งรัฐบาลเท่าที่ผ่านมาเค้าก็มีความหวังอยู่แล้วว่าจะพัฒนาไปได้ใน EEC เรื่องการใช้จ่ายรัฐฯ ก็ไม่ต้องพูดถึง เราก็กระตุ้นแหลกลาญอยู่แล้วตอนนี้”
จากนี้ต่อไปจะต้องจับตาการขับเคลื่อนนโยบายแจกเงินหมื่น ดิจิทัล วอลเล็ต ภายใต้เงินกู้ 5 แสนล้านบาทอย่างใกล้ชิด ว่าจะราบรื่นหรือไม่ เพราะทุกขยับหมากของรัฐบาล ย่อมหมายถึงแอคชั่นที่จะเชื่อมโยงกับคะแนนนิยมของพรรคเพื่อไทยนั่นเอง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
