หลังจากรัฐบาล “เศรษฐา 1” ประกาศลดราคาดีเซลลง 2 บาท เหลือลิตรละไม่เกิน 30 บาท ซึ่งหน้าปั้มขายปลีกอยู่ที่ 29.94 บาท โดยรัฐบาลใช้กลไกลดภาษีสรรพสามิตเข้ามาบริหารจัดการ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้แก่ประชาชน และไม่ทำให้ค่าขนส่งซึ่งเป็นหนึ่งในต้นทุนของราคาสินค้าแพงขึ้น
ว่ากันว่า นี่คือ 1 ในนโยบายสำคัญที่พรรคเพื่อไทยให้คำมั่นไว้ว่า จะดำเนินการทันทีในการประชุม ครม. ครั้งแรก หลังการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาเสร็จสิ้นลง แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้น ก็มีเสียงเรียกร้องไปยังรัฐบาล จากกลุ่มผู้ใช้รถเครื่องยนต์เบนซินว่า เมื่อไรจะถึงคิวของพวกเขาที่จะใช้น้ำมันเบนซินราคาไม่แพง พร้อมกับถามว่า ชาวเบนซินมีสิทธิ์ไหม
โดย “นายเฉลิม ช่างทองมะดัน” นายกสมาคมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างแห่งประเทศไทย กล่าวกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า อยากให้รัฐบาลลดราคาน้ำมันเบนซิน เพราะตอนนี้ราคาแพง ปัจจุบันยืนเหนือลิตรละ 45 บาท โดยราคาที่อยากเห็นก็คือ ลิตรละ 30 บาท
” “คือจริงๆ ของเราที่เป็นมอเตอร์ไซค์ ผมว่าน่าจะอยู่ไม่เกิน 30 บาทน่าจะพอดี เพราะว่าถ้าเกิน 30 บาท ตอนนี้มัน 40 ใช่ไหมครับ ถ้าได้อยู่ที่ประมาณ 30 ต้นๆ ผมว่าน่าจะพอดี เพราะมันจะได้ช่วยเราเรื่องค่าใช้จ่ายต่อวัน คือตอนนี้ค่าน้ำมัน มันแพงและค่าครองชีพก็สูง รายได้ก็ยังไม่ดีพอ ก็ทำให้เราลำบาก เราก็เลยมองว่าถ้าลดค่าน้ำมันมา ให้อยู่ที่ประมาณลิตรละ 30 บาท หรือ 30 บาทต้นๆ น่าจะพอดี”
“นายเฉลิม” กล่าวอีกว่า วันนี้ รายได้ของวินมอเตอร์ไซต์ ไม่เหมือนในอดีตก่อนที่โควิด – 19 จะเข้ามา เพราะช่วงนั้น รายได้ดีมาก ผิดกับช่วงนี้ ที่รายได้หดหาย “คือตอนนี้รายได้ของเราไม่เหมือนเดิม ตอนสมัยก่อนๆ โควิดจะมา เรายังมีรายได้ดีโอเคอยู่ แต่พอหลังจากโควิดมา รายได้เรายังไม่กลับมาเข้าที่ แถมค่าครองชีพสูงขึ้นกว่าเก่าอีกเยอะเลย มันก็ทำให้เราลำบาก อันนี้ก็ยังหาเช้ากินค่ำ ยังแทบจะไม่พอมันไม่มีเก็บ มันก็เลยทำให้พวกเราลำบาก ไม่ใช่น้ำมันแพงอย่างเดียวนะครับค่าครองชีพขึ้นสูงด้วย”
นอกจากนี้ นายกสมาคมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างแห่งประเทศไทย ยังได้เรียกร้องให้รัฐบาลดูแลค่าครองชีพไม่ให้สูงเกินไป อีกทั้งอยากให้รัฐบาลสนับสนุนมอเตอร์ไซต์ไฟฟ้าราคาประหยัดให้กับผู้ประกอบการเพื่อลดต้นทุน รวมถึงการเข้าถึงแหล่งเงินกู้ที่ถูกกฏหมาย
“จริงๆแล้วเราเองก็อยากจะให้รัฐบาลผลักดันเรื่องค่าครองชีพ อะไรที่มันสูงขึ้น เราจะทำยังไง ถึงมันจะไม่ลดแต่ก็ไม่อยากให้มันสูงขึ้นไปมากกว่านี้ แล้วก็เรื่องน้ำมัน ถ้าลดได้ก็จะเป็นการช่วยเหลือพวกเราได้ หรือไม่ก็เปลี่ยนมาเป็นรถอีวีหรือรถไฟฟ้าได้ก็จะเป็นสิ่งที่ดี เพราะจะได้ไม่ต้องเติมน้ำมัน แต่ราคาอีวีมันสูงเกินไป สูงเกินกว่าที่เราจะไปแตะต้องได้ เพราะคันนึงแสน สองแสน รถน้ำมันเรายัง 5-6 หมื่น
อันนี้มันตั้งแสนกว่า ถึงสองแสนกว่า มันทำให้เราเข้าถึงไม่ได้หรือไม่กองทุนเพื่อดูแลเรื่องอาชีพสามารถให้พวกเราเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบได้ ผ่อนรถผ่านธนาคารได้ ก็จะทำให้พวกเราไม่เป็นหนี้นอกระบบ เพราะตอนนี้เราเข้าในระบบไม่ได้เราก็ต้องใช้หนี้นอกระบบ ก็ยิ่งทำให้พวกเราเดือดร้อนเรื่องค่าครองชีพ เรื่องเงินที่จะต้องมาใช้จ่ายประจำวันด้วยครับ”
ขณะที่ นายกรัฐมนตรี “นายเศรษฐา ทวีสิน” ได้กล่าวถึงเรื่องการแก้ไขปัญหาราคาพลังงาน ที่ก่อนหน้านี้คณะรัฐมนตรีมีมติลดราคาน้ำมันดีเซล ซึ่งผู้ใช้น้ำมันเบนซินมีเสียงสะท้อนว่า คนใช้เบนซินมีสิทธิ์ไหมว่า มีสิทธิ์ ขอให้ใจเย็น ค่อย ๆ ทำทีละเรื่อง อะไรที่ทำได้ ผมทำไปก่อน ไม่อยากจะประกาศพร้อมกันหมด หากจะให้ประกาศพร้อมกันหมดอาจต้องรอ 2-3 อาทิตย์
ซึ่งวันนี้เรื่องราคาน้ำมันดีเซลเราทำได้แล้วก็ทำ เรื่องไฟฟ้าเราทำได้แล้วเราก็ทำ และจะทำอีก เพราะเราตระหนักดีว่าพี่น้องเดือดร้อนทุก ๆ ภาคส่วน ไม่อยากให้ต้องคอยประกาศที่เป็นแพลนใหญ่ แต่อยากให้ประชาชนทราบอะไรที่ทำได้เราทำก่อน” จากนี้ต่อไปจะต้องจับตาการเดิมเกมลดราคาน้ำมันเบนซินอย่างใกล้ชิด เพราะถ้าทำได้จริง เชื่อแน่ว่าย่อมมีผลต่อคะแนนนิยมรัฐบาลเศรษฐาอย่างแน่นอน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
