นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะลงพื้นที่ตรวจการบริหารจัดการน้ำที่จังหวัดอุบลราชธานีหลังพบปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก
โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ลงพื้นที่ตรวจราชการ ณ จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดยโสธร และจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วยนายเกรียง? กัลป์ตินันท์? รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นางมนพ เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม /นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล? รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี
โดยจุดแรกได้เดินทางมายังศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือณสำนักงานชลประทานที่ 7 จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อรับฟังบรรยายสรุป ภาพรวมสถานการณ์น้ำในพื้นที่
จากนั้นนายเศรษฐาและคณะจะเดินทางไปยัง สถานีตรวจวัดระดับน้ำ (M7) บริเวณเชิงสะพานเสรีประชาธิปไตย เพื่อมอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ก่อนที่จะเดินทางไป ติดตามสถานการณ์อุทกภัยและพบปะกับประชาชน แก่งกระพือ ตำบลพิบูล อำเภอพิบูลมังสาหาร
โดยนายเศรษฐา ทวีสิน ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางมาที่จังหวัดอุบลราชธานี ถึงกรณีเซ็นคำสั่งเปลี่ยนคณะกรรมการ ศึกษาการทำประชามติยกร่างรัฐธรรมนูญ โดยระบุว่าเป็นเรื่องข้อกฎหมายเพราะสส. มาเป็นคณะกรรมการไม่ได้ งั้นก็ต้องฟังเมื่อกฤษฎีกาท้วงติงมาก็ต้องฟัง ยืนยันไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับตัวบุคคล ว่าสส.เป็นได้หรือไม่ได้
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังตอบ คำถามสื่อมวลชนจีนที่ถามว่า เมืองไทยเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของจีนติดต่อกันมาหลายปี จะทำอย่างไรให้กลับไปเหมือนเดิม หลังจากเกิดเหตุการณ์ยิงที่พารากอนว่า เรายังต้อนรับชาวจีน และเรามีมาตรการที่จะดูแลเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันที่จะเกิดขึ้น ในอนาคต เช่นเรื่องของอาวุธปืนจะต้องมีมาตรการ ในการดูแลให้ถูกต้อง ไม่ให้เข้าถึงง่าย
อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานว่านายกรัฐมนตรีใช้รถยนต์ Toyota Alphard สีขาวหมายเลขทะเบียน กฉ 5454 อุบลราชธานี
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
