ขณะนี้ยังอยู่ในห้วงอภิปรายนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลเศรษฐา โดย1นโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท 2.พักหนี้-แก้หนี้ ประชาชน เกษตรกร ผู้ประกอบการรายย่อย 3.ลดภาระค่าใช้จ่าย “พลังงาน” ลดราคาน้ำมัน ค่าไฟ แก๊สหุงต้ม
4ผลักดันการท่องเที่ยวกุญแจดอกแรกสร้างรายได้ประเทศ และ5เปิดประตูการค้า สู่ตลาดใหม่ๆ ยกระดับพาสปอร์ตไทย ซึ่งขณะเดียวกันฝ่ายค้านก็ทำหน้าที่อย่างเข้มแข็งสู้รับกันอย่างไม่หยุดหย่อน ผศ.ดร.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ ม.รังสิต ได้บอกกับสำนักข่าวไอเอ็นเอ็นว่าในเบื้องต้นนั้นคาดว่ารัฐบาลเศรษฐาจะไปพายเรือไปถึงยอดฝั่งได้ เพราะกว่าจะร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จถือว่า
ค่อนข้างยากลำบากต้องประคับประคองกันหนักหน่วงเลยทีเดียว ซึ่งถึงแม้ว่าจะเป็นรัฐบาลผสมอาจจะอยู่ยาก แต่ก็ต้องจำเป็นจับมือกันเพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อ โดยหากมองในะระยะสั้นคาดว่านโยบายของรัฐบาลอาจจะกระตุ้น เศรษฐกิจให้เห็นภาพได้ชัดเจนมากขึ้น เพราะทุกพรรคการเมืองพยายามเดินหน้าสร้างผลงานเพื่อทำให้นโยบายสอดคล้องและตอบโจทย์กับประชาชนตามที่เคยหาเสียงไว้ก่อนหน้านั้น
ส่วนในเรื่องของการแบ่งกระทรวงกันนั้นมองว่า เป็นการส่งต่อกันแบบรุ่นสู่รุ่นที่มีความเชื่อมโยงสัมพันธ์กันอยู่แล้ว ขณะที่ล่าสุดหลายคนต่างก็จับตาไปที่พรรคเพื่อไทยจะสามารถทำนโยบายให้บรรลุเป้าหมายได้มากน้อยเพียงใด โดยเฉพาะการใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ต ในปีหน้าหากพบ ว่ามีคนเข้าร่วมเยอะก็มีโอกาสเป็นไปได้ที่แนวโน้มของ ของเศรษฐกิจจะฟื้นฟูได้เร็วขึ้น
ส่วนการที่สุทิน คลังแสง รมว.กระทรวงกลาโหม เริ่มเดินสายพบปะกับทหารของฝั่งทักษิณ ชินวัตร นั้น คาดว่าจะส่งผลดีด้วยซ้ำ เพราะสุทิน มีความพยายามสุภาพ นุ่มนวล แล้วการที่มีตัวกลางมาคั่นแบบนี้ก็จะทำให้ เคลียร์คนที่สมัครใจเกณฑ์ทหารด้วย ขณะที่การแต่งตั้งผบ.เหล่าทัพคนใหม่คาดว่าจะลงตัว ไม่มีปัญหา เพราะต้องมีการทำนโยบายแบบเดิมอยู่แล้ว โดยกองทัพไทยคือ พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 24 กองทัพบกคือ พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 23 กองทัพเรือ คือพล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) เป็นนักเรียนเตรียม
ทหารรุ่นที่ 23 และกองทัพอากาศ พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เป็นนักเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 24 นอกจากนี้วันที่11-12 ก.ย.2566 จะมีการแถลงนโยบายรัฐบาล “เศรษฐา ด้วย ขณะที่ล่าสุดพรรคก้าวไกลก็เตรียมพร้อมทำงานเชิงรุก สอบถามในเรื่องนโยบายต่างๆ รวมถึงการตั้งข้อสงสัย ว่าการผลักดันนโยบาย ในอีก 4 ข้างหน้า จะเป็นอย่างไร ไปในทิศทางไหน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ดังนั้นเป็นหน้าที่ของฝั่งฝ่ายค้านที่ต้องทำงานเพื่อตรวจสอบรัฐบาลกันอย่างเข้มข้น
ทั้งนี้หากถามว่าแล้วแบบนี้จะยังคงมีการปฏิวัติหรือการเกิดรัฐประหารอีกหรือไม่นั้น ด้านอ.วันวิชิต บอกว่า คิดว่าน่าจะไม่มีแล้ว เพราะบริบทสังคมเปลี่ยนไป ผู้คนได้ตื่นรู้มากขึ้น อีกทั้งในห้วงเวลาที่ผ่านมาก็พบว่าเกิด การสูญเสียกันมามากพอสมควรแล้ว ซึ่งหากย้อนกลับไปจะเห็นได้ว่าประเทศไทยเกิดการรัฐประหารมา13 ครั้งอีกด้วย
อย่างไรก็ตามยังคงมีหลายประเด็นที่ผู้คนต่างพากันจับตาโดยเฉพาะนโยบายของพรรคเพื่อไทย ว่าจะเป็นไปได้ทั้งหมดหรือไม่ แล้วในเมื่อบริบทหลายอย่างเปลี่ยนไปอย่างนี้ การฏิวัติ รัฐประหาร จะไม่เกิดขึ้นในรัฐบาล เศรษฐาตามคาดการณ์ของนักวิชาการจริงหรือ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
