ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป หรือ อัตราเงินเฟ้อของไทย ล่าสุดในเดือนมิถุนายน 2566 ขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 0.23 โดยเป็นอัตราเงินเฟ้อที่ขยายตัวต่ำสุดในรอบ 22 เดือน
โดยนายวิชานัน นิวาตจินดา รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบาย และยุทธศาสตร์การค้า หรือ สนค. กระทรวงพาณิชย์ บอกว่า เงินเฟ้อที่ขยายตัวต่ำ เป็นไปตามสถานการณ์ราคาสินค้าในหมวดอาหาร โดยเฉพาะเนื้อสัตว์และเครื่องประกอบอาหาร และการลดลงของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ประกอบกับฐานในช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ในระดับสูง ทำให้ตัวเลขเงินเฟ้อที่ออกมาจึงอยู่ในระดับต่ำ
โดยสินค้าและบริการ ที่นำมาคำนวณเป็นอัตราเงินเฟ้อ จำนวน 430 รายการ เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา มีสินค้าที่ปรับราคาสูงขึ้น 168 รายการ เช่น ไข่ไก่ ค่าไฟฟ้า และค่าเช่าบ้าน / ส่วนราคาไม่เปลี่ยนแปลงมี 157 รายการ และสินค้าที่ราคาลดลงมี 105 รายการ เช่น ข้าวสารเจ้า เนื้อหมู อาหารเดลิเวอรี่ และผักสดหลายรายการที่ผลผลิตออกมากขึ้น ทั้งมะนาว และต้นหอม ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อไทย เฉลี่ยในช่วงครึ่งปีแรก ขยายตัวอยู่ที่ ร้อยละ 2.49
ส่วนแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อในช่วงครึ่งปีหลัง น่าจะขยายตัวในอัตราที่ค่อนข้างต่ำ เนื่องจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงยังคงทรงตัวและอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบปีที่แล้ว โดยกระทรวงพาณิชย์ ได้ปรับคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปีนี้ ลดลงเหลืออยู่ในกรอบร้อยละ 1-2 ค่ากลางที่ร้อยละ 1.5 จากเดิม ที่คาดว่าจะอยู่ในกรอบ ร้อยละ 1.7-2.7 ค่ากลางที่ร้อยละ 2.2 และหากมีสถานการณ์เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะสำคัญจะมีการทบทวนประมานการณ์ใหม่อีกครั้ง
เพราะยังมีปัจจัยที่ต้องติดตามทั้งปัญหาภัยแล้ง ที่จะกระทบกับราคาอาหารสดและอาหารสำเร็จรูปให้สูงขึ้น / รวมทั้งเศรษฐกิจไทยที่ยังคงมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และมาตรการลดค่าครองชีพต่างๆ ของรัฐที่ยังไม่ชัดเจน ล้วนเป็นปัจจัยที่อาจจะทำให้เงินเฟ้อไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ได้
ด้านนายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า แม้เงินเฟ้อจะอยู่ในระดับต่ำ แต่กรมการค้าภายในก็ยังคงเข้มงวดกับการตรวจสอบสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับราคาสินค้า ไม่ว่าจะเป็นสินค้าทั่วไป สินค้าเกษตร สินค้าอุปโภคบริโภค โดยได้กำชับให้มีการปิดป้ายแสดงราคาอย่างชัดเจน และดูแลไม่ให้มีการค้ากำไรเกินควร
โดยยังคงยึดหลักวินวินโมเดล คือผู้ประกอบการอยู่ได้ และประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด จากสถานการณ์ราคาสินค้า ซึ่งมองว่าเป็นนโยบายที่ดีและกรมการค้าภายใน ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ทั้งในช่วงรัฐบาลรักษาการและต่อไปยังรัฐบาลใหม่ และเมื่อมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์คนใหม่แล้ว ถึงแม้ว่าจะมีการเปลี่ยนขั้วทางการเมือง ก็เชื่อว่านโยบายที่เป็นประโยชน์กับประชาชนจะยังคงอยู่ เพื่อดูแลปากท้อง เพราะเวลานี้กำลังซื้อและการบริโภคของประชาชน โดยเฉพาะประชาชนที่มีรายได้น้อยยังอยู่ในระดับต่ำ กรมการค้าภายในจึงไม่สามารถปล่อยมือได้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
