fbpx
Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

โหวตนายกฯตั้งรบ.ฉลุย ฉีด 1.9 ล้านล้านพยุงศก.

จับตาสมการทางการเมืองเลือก “ประธานสภาฯ” โหวต “พิธา” เป็นนายกฯ และไทม์ไลน์ตั้งครม.ขยับเร็วขึ้น

 

 

ว่ากันว่า เกมนี้สามารถดันความเชื่อมั่นนักลงทุน ที่จะกล้าโหมทุ่มเม็ดเงินลงสู่ธุรกิจ ไหลผ่านต่อระบบเศรษฐกิจที่มีตัวเลข “จีดีพี” เป็นเดิมพัน

 

โดยนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี ระบุว่า ในส่วนความเห็นต่อตำแหน่งประธานสภาฯ ระหว่างพรรคก้าวไกล และ พรรคเพื่อไทยนั้น โดยในส่วนภายในพรรคเพื่อไทย ยังมีประเด็นโต้แย้งตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร อย่างไรก็ตาม โดยกลไกของตำแหน่งดังกล่าวยังสามารถหาข้อสรุปได้จากการลงมติโหวตในสภา จึงเชื่อว่ากระบวนการจัดตั้งรัฐบาลจะเดินหน้าต่อได้ และไม่น่าสร้าง Downside ต่อเศรษฐกิจและกำไรบริษัทจดทะเบียนไทยในตลาดหุ้นไทยอย่างมีนัยสำคัญ

 

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า(ประเทศไทย) ระบุว่า กกต. ประกาศรับรอง ส.ส. ทั้ง 500 คนเรียบร้อยแล้ว โดยส.ส. ทยอยรายงานตัวต่อเนื่อง ซึ่งไทม์ไลน์ หลังจากนี้คือติดตาม คือ 1)การประชุมร่วมระหว่าง 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล ต่อการพิจารณาตำแหน่งประธานสภาฯและกระทรวงสำคัญ กรณีที่พรรคเพื่อไทยได้บริหารกระทรวงด้านเศรษฐกิจเป็นส่วนใหญ่ เช่น พลังงาน, คมนาคม, พาณิชย์ คาดว่าตลาดหุ้นจะตอบรับเชิงบวก

 

2)กำหนดวันประชุมสภาฯไม่เกิน 3 ก.ค. เพื่อเลือกประธานสภาฯ 3)กำหนดวันโหวตนายกฯหลังจากประธานสภาฯได้รับโปรดเกล้าแล้ว 4)ช่วงระหว่างการเลือกประธานสภาฯและโหวตนายกฯไม่ได้กำหนดวันชัดเจน ซึ่งคาดว่าจะโหวตนายกฯได้ในช่วงกลางเดือนก.ค.เป็นต้นไป โดยถ้าอิงสถิติช่วง กกต. รับรองผลไปจนถึงโหวตประธานสภาฯในปี 2562

 

ขณะที่ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด “ดร.เชาว์ เก่งชน” กล่าวกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า กระบวนการของกกต.ที่เร็วขึ้น ถือเป็นก้าวสำคัญของประเทศไทยที่จะมีนายกรัฐมนตรี ซึ่งก็หวังว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามกรอบของไทม์ไลน์ เพราะนักลงทุนและภาคธุรกิจต้องการความชัดเจน เพื่อจะตัดสินใจในการดำเนินธุรกิจแต่อย่างไรก็ตาม เรื่องงบประมาณปี 2567 ก็ยังคงเป็นประเด็นที่จะต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะถ้าล่าช้า ย่อมกระทบต่อการลงทุนในโครงการต่างๆ

 

และล่าสุด สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) คาดว่าการ พิจารณา พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ซึ่งอย่างช้าที่สุดน่าจะเสร็จภายในไตรมาส 1 ปี 2567 หลังรอรัฐบาลใหม่ ขณะที่ไตรมาส 1 ปี 2567 คาดว่าจะมีงบลงทุนจากรัฐวิสาหกิจตามปีปฏิทิน ออกสู่ระบบอีกประมาณ 5 หมื่นล้านบาท และมีงบผูกพันอีกประมาณ 7 แสนล้านบาท รวมเป็นเม็ดเงิน 2 ไตรมาสที่จะอัดฉีดเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ประมาณ 1.8-1.9 ล้านล้านบาท ซึ่งเพียงพอที่จะพยุงเศรษฐกิจได้ ระหว่างที่รองบประมาณปี 2567 ซึ่งเชื่อว่าถ้างบประมาณผ่านในไตรมาส 1 ปี 2567 รัฐบาลชุดใหม่ก็ต้องเร่งเบิกจ่ายเพื่อให้ทันระยะเวลา

 

จากนี้ต่อไปจะต้องจับตาการเคลื่อนสมการทางเมืองเพื่อโหวต “พิธา” เป็นนายกฯ และ ตำแหน่งประธานสภาฯอย่างใกล้ชิด เพราะทุกการขยับ ย่อมหมายถึงความเชื่อมั่นที่สะท้อนไปยังเศรษฐกิจไทยนั่นเอง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube