วันที่ 22 พ.ค. เมื่อ 9 ปีก่อน คือวันที่ถือเป็นจุดด่างพร้อย และเป็นหลุมดำของประชาธิปไตยไทย เพราะชายชาติทหารในนามคสช.ที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยึดอำนาจจากรัฐบาลรักษาการที่พยายามจะจัดให้มีการเลือกตั้ง แต่ต้องพบกับความล้มเหลว เพราะมวลมหาม็อบ กปปส.ขัดขวางและมวลชนอีกกลุ่ม เริ่มออกมาต่อต้าน
จนกลายเป็นข้ออ้างของ คสช.ในการเข้ามาเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย และสืบทอดอำนาจมาอย่างยาวนานในรูปแบบของประชาธิปไตยไม่ถึงครึ่งใบตามที่ คสช.ต้องการ โดยให้ค่าเสียงของ 250 ส.ว.สูงกว่า และดังกว่าเสียงของประชาชน
ผู้เป็นเจ้าของประเทศ ซึ่งมันใช่หลักการที่ถูกต้องหลายร้อยคน หรืออาจจะหลายล้านคน ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม
จึงนำมาสู่ความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ผ่านการเลือกตั้ง 14 พ.ค.ที่กลุ่มฝ่ายรัฐบาลสืบทอดอำนาจ พ่ายแพ้ราบคาบ หมดทางสู้ เป็นชัยชนะของประชาชนอย่างแท้จริง และพรรคก้าวไกล กับพรรคร่วมที่เรียกตัวเองเป็นขั้วประชาธิปไตยก็ตั้งใจเลือกเอาวันและเวลาครบรอบนี้ ลงนาม MOU เพื่อสถาปนาภาพจำใหม่ว่า วันที่ 22 พ.ค. คือจุดเริ่มต้นของรัฐบาลใหม่ หลังติดหล่มถึง 9 ปี กับรัฐบาลก้าวไกล รัฐบาลประชาธิปไตยของประชาชนอย่างแท้จริง
จากวันที่ 22 พ.ค.ที่เป็นจุดด่างพร้อยในทางประชาธิปไตย ได้กลายเป็นวันที่เป็นภาพจำใหม่แล้ว เป็นวันแห่งความหวังของประชาชนคนไทยทั้งประเทศ แต่รัฐบาลใหม่ก้าวไกล 313 เสียง ยังต้องผ่านอีกหลายก้าวย่าง หลายด่านสำคัญ เพื่อจะเดินไปให้ถึงทำเนียบรัฐบาล
เพราะเวลานี้ เสียงในมือ ยังไม่เพียงพอ ที่จะโหวตให้ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” เป็นนายกรัฐมนตรีได้แม้ ส.ว.บางส่วน เกือบ 20 คน ประกาศจุดยืนจะยกมือให้ แต่ก็เป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น ยังขาดอีกเกือบ 50 มือ จึงต้องมาลุ้นกันอีก ว่าเวลาที่เหลือ กว่า กกต.จะรับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการอย่างน้อย ร้อยละ 95 เพื่อเปิดประชุมสภา จะสามารถโน้มน้าวบรรดาผู้เฒ่า ที่ได้ตำแหน่งมาเพราะ คสช. เป็นผู้คัดเลือกมาเติมให้ครบตามจำนวน 376 เสียงได้หรือไม่
เพราะหากทำไม่สำเร็จภาพจำแห่งความหวัง ก็อาจกลายเป็นความหวังลมๆแล้งๆ ไปในทันที อีกทั้ง “พิธา” ก็ยังต้องลุ้นในคดีสำคัญ คำร้องเรื่องคุณสมบัติ ที่ “เรืองไกร” อ้างว่า มีคนของก้าวไกลส่งข้อมูลมาให้ตรวจสอบ “หมอมิ้ง” แต่บังเอิญไปพบเรื่องราวชวนสงสัยของ “พิธา”รวมอยู่ด้วย จึงนำไปร้องต่อ กกต.และประเด็นนี้อาจกลายเป็นจุดพลิกผันอีกครั้ง ของการตั้งรัฐบาลประชาชน ที่พยายามจะสร้างภาพจำใหม่ให้กับวันที่ 22 พ.ค.นั่นเอง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
