fbpx
Home
|
คลิปข่าวทั่วไป

ใครมาวิน ขอไม่ขัดแย้ง

เรียกว่าอีกไม่กี่อึดใจ จะได้รู้ว่าพรรคไหนจะมาวินชนะการเลือกตั้งครั้งสำคัญ เพราะจากนโยบายของแต่ละพรรคการเมือง ภาพการหาเสียงที่มีโจมตีตัดคะแนนความนิยม เรียกว่ามาเกือบทุกรูปแบบ

 

 

 

 

รวมถึงความโปร่งใสในการทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ออกอาการน่าขัดใจ น่าเป็นห่วงผลการเลือกตั้งจากนี้ว่าจะเป็นที่ยอมรับหรือไม่ หากการจัดตั้งรัฐบาลไม่ราบรื่น ผลอาจตกอยู่กับเศรษฐกิจไทยได้

 

 

โดยนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า หอการค้าไทย หวังว่าทุกภาคส่วนจะยอมรับผลการเลือกตั้งในครั้งนี้ เพื่อให้ประเทศสามารถเดินหน้าต่อไปได้ตามระบอบประชาธิปไตย สำหรับการจัดตั้งรัฐบาลเชื่อว่าน่าจะออกมาในรูปแบบรัฐบาลผสม และควรเร่งจัดตั้งให้แล้วเสร็จตามกรอบของระยะเวลา เพราะหากมีการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ที่ล่าช้า จะยิ่งส่งผลกระทบต่อทั้งความเชื่อมั่นและการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะกับนักลงทุนต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุน รวมถึงการจัดสรรงบประมาณและนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่รอให้รัฐบาลชุดใหม่เข้ามาเร่งดำเนินการ

 

 

ถ้าหากมีการจัดตั้งรัฐบาลได้เร็วก็จะสามารถขับเคลื่อนประเทศ และตอบสนองต่อสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันได้อย่างทันท่วงที ดังนั้นเป้าหมายสำคัญ คือ ต้องสามารถตกลงแนวทางการทำงานและนโยบายของพรรคร่วมให้ชัดเจนและลงตัว ไม่เกิดความขัดแย้งและต้องมีเสถียรภาพ ซึ่งที่ผ่านมาต่างก็มีรัฐบาลผสมที่สามารถบริหารประเทศไปได้

 

 

ด้านนายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า ในช่วงสองสัปดาห์สุดท้าย ก่อนการเลือกตั้ง ประเมินว่ามีเม็ดเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจสูงถึง 2-3 หมื่นล้านบาท จากภาพรวมที่เคยประเมินว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะมีเม็ดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจทั้งหมด 5-6 หมื่นล้านบาท และเมื่อเกิดการใช้จ่ายหมุนเวียน เชื่อว่าการเลือกตั้งในรอบนี้ จะมีเม็ดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจนับแสนล้านบาท มีผลต่อการเติบโต ของ GDP อย่างแน่นอน

 

 

โดยศูนย์พยากรณ์ฯ ยังคงประมาณการเศรษฐกิจไทยปีนี้ โตได้ ร้อยละ 3.0-3.5 และเริ่มมองเห็นโอกาสที่จะขยายตัวมากกว่าร้อยละ 3.5 ได้ ซึ่งปัจจัยที่มีผลมากสุดคือ เสถียรภาพทางการเมืองหลังการเลือกตั้ง ซึ่งศูนย์พยากรณ์ฯ จะปรับประมาณการ ตัวเลขเศรษฐกิจใหม่ในช่วงเดือนกรกฎาคมหลังการจัดตั้งรัฐบาลแล้ว

 

 

โดยรัฐบาลที่มีเสถียรภาพหมายถึงรัฐบาลที่สามารถ ผ่านงบประมาณในสภาฯได้ ไม่มีความขัดแย้ง หรือการต่อต้านจากภาคประชาชนนอกสภา โดยบรรยากาศทางการเมืองจะมีผลต่อความเชื่อมั่น ของทั้งประชาชนและนักลงทุน ซึ่งจะส่งผลต่อการท่องเที่ยว ที่เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย เพราะแม้เศรษฐกิจโลกยัง เป็นปัจจัยเสี่ยงแต่ยังไม่มีสัญญาณว่าจะทรุดไปมากกว่านี้

 

 

พร้อมประเมินว่า การจัดตั้งรัฐบาลจนถึงแถลงนโยบาย จะชัดเจนในช่วงเดือนกรกฎาคมหรือสิงหาคม และกว่าเม็ดเงินงบประมาณภาครัฐจะออกมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยได้เต็มที่ คงอยู่ในช่วงไตรมาส1 ปี 2567

 

ยิ่งสร้างเงื่อนไข ยิ่งขัดแย้ง ยิ่งทำให้งบประมาณล่าช้า ไม่ส่งผลดีกับใครเลย เพราะฉะนั้นหลังเลือกตั้งใครจะมาวินไม่ใช่เรื่องใหญ่ ขอแค่จับมือจับตั้งรัฐบาลให้ได้ ภายใต้ความมีเสถียรภาพ และต้องเป็นที่ยอมรับของประชาชน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube